กว่าจะถึงฝั่งธรรม Lite Voyage

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท : รักอื่นยิ่งกว่าพระนิพพานนั้นไม่มี


river_banner

โดย เทียบธุลี


LP_Jeaa

ภาพประกอบจากหนังสือ "หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง ฉบับสมบูรณ์"


หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท เป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ท่านเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งเป็นผู้ที่เรียกท่านว่า ผ้าขี้ริ้วห่อทอง
หลวงปู่เจี๊ยะได้อธิบายความหมายของ ผ้าขี้ริ้วห่อทองไว้อย่างลึกซึ้งว่า

"...ชีวิตนี้เป็นประดุจผ้าขี้ริ้ว เป็นเหมือนถังขยะ
ที่คอยเก็บอานิสงส์ของกรรมดีชั่ว แล้วก็ให้ผลแก่เราเป็นผู้เสวย
ถ้าเรานำชีวิตที่เราพิจารณาเห็นด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว
น้อมพิจารณาให้เกิดธรรมะขึ้นภายในใจ
ธรรมที่เกิดขึ้นภายในใจนั่นแหละจะเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทองขึ้นมาทันที
เพราะร่างกายของคนนี้ไม่มีค่า มันมีค่าอยู่ที่หัวใจที่มีธรรม
รูปธรรมทุกๆ อย่างจึงเป็นผ้าขี้ริ้ว นามธรรมคือหัวใจ ที่ฝึกปฏิบัติ
จนได้เห็นธรรมตามความสามารถ นั่นแหละเป็นทอง
คือธรรมสมบัติอันล้นค่า ปรากฏเด่นขึ้นมาเป็นสักขีพยาน..."


บัดนี้ชาวพุทธได้ประจักษ์โดยถ้วนหน้ากันแล้วว่า
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท เป็น ทองเนื้อแท้ที่น่าเคารพยกย่องเพียงใด

ในสมัยที่ท่านยังเป็นฆราวาสนั้นท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ยอมหักไม่ยอมงอ
เมื่ออายุครบอุปสมบทได้ ๒ ปี ท่านก็มีความคิดจะบวชทดแทนคุณบุพการี
และหวังว่าจะสึกออกมาแต่งงานกับคนรักที่ชื่อว่าแป้ง
ซึ่งก่อนจะบวชนั้นมีคนสบประมาทไว้ด้วย ว่าอาจอยู่ได้ไม่ครบพรรษา
พ่อแม่ของท่านได้นำไปฝากไว้กับ หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโ
ศิษย์อาวุโสท่านหนึ่งของพระอาจารย์มั่น
ท่านได้จำพรรษาที่วัดทรายงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
แม้หลวงปู่เจี๊ยะตั้งใจว่าบวชเพียงไม่นาน ก็จะสึกออกมาใช้ชีวิตฆราวาส
แต่ก็ตั้งใจปฏิบัติอย่างเต็มที่ ซึ่งปรากฏว่าท่านได้ซาบซึ้งในรสพระธรรมยิ่งนัก

เมื่อภาวนาจิตลงได้อย่างนั้นแล้ว สมบัติใดๆ ในโลกที่เขานิยมว่ามีค่ามาก
จะเอามากองให้เท่าภูเขาเลากา ไม่ได้มีความหมายเลย
ธรรมสมบัติที่ปรากฏเมื่อคืนนี้ เป็นธรรมสมบัติเหนือรัตนะเงินทองโดยประการทั้งปวง
อัศจรรย์ในธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นที่ยิ่ง จิตไม่เกี่ยวเกาะด้วยกามคุณเลย"


จนที่สุดท่านก็ตัดสินใจว่าจะไม่ลาสิกขา
ทั้งที่เดิมเคยสัญญากับคนรักว่าจะบวชเพียงพรรษาเดียว แล้วจะสึกไปแต่งงานด้วย

อยู่มาวันหนึ่งเดินออกบิณฑบาต เจอคนที่เราเคยรักมาใส่บาตร
เราจึงบอกสาวคนที่เรารักนั้นไปว่า แป้งเอ๊ย...ต่อแต่นี้ไปเราจะไม่สึกแล้วนะ
จริงๆ แล้วถ้าจะพูดกันให้ชัดๆ ต้องพูดว่า
แป้งเอ๊ย...เราไม่โง่แล้วนะ ไม่ไปเป็นขี้ข้าราคะตัณหาของใครอีกแล้ว
ถ้าพูดอย่างนั้นกลัวเขาจะเสียใจ…”


ท่านได้เล่าถึงชีวิตของสาวแป้งว่าในที่สุดก็แต่งงานไปกับชายคนหนึ่ง ใช้ชีวิต และตายไปในที่สุด

“...นั้นเห็นไหมเขาไม่ได้อันใดเลย ซึ่งอันนี้แต่ก่อนเป็นสิ่งที่เรารัก
ชีวิตที่ไม่ได้พบกัลยาณมิตรมันก็ตายเปล่าไปอย่างนั้น
แต่อันนี้เราจะไปพูดกับคนอื่นไม่ได้ บางทีเขาไม่เข้าใจ
เพราะเขาไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องอรรถธรรม...


ชีวิตของผู้ปฏิบัติธรรมที่มีครูบาอาจารย์และเพื่อนสหธรรมิก นับเป็นชีวิตที่มีค่า
ชีวิตที่ได้ลิ้มรสอมฤตธรรม อันพ้นแล้วจากกิเลสตัณหาทั้งปวง
นับเป็นชีวิตที่มีความสุขไม่มีสิ่งใดเปรียบปาน
ในเรื่องความรักและกิเลสตัณหาต่างๆ นี้
หลวงปู่เจี๊ยะได้กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า

พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้ถูกที่สุดว่า
ผู้ใดขยี้กามราคะ ตัณหา อันเป็นเหมือนเปือกตมได้
ขยี้หนามคือกามราคะ ตัณหาไปเสียได้ ผู้นั้นนับได้ว่าเป็นผู้หมดโมหะ
ไม่สะทกสะท้านในนินทา สรรเสริญ ทุกข์หรือสุข
ถ้าใครปฏิบัติได้มันก็เป็นอย่างนั้น


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เอกสารประกอบการเขียน
"หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง ฉบับสมบูรณ์" ฉบับพิมพ์ ปี ๒๕๔๗

 



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP