สารส่องใจ Enlightenment

ผู้ที่ผ่านมรรคผลแต่ละชั้นจะสามารถทราบได้ด้วยตนเองหรือไม่



วิสัชนาธรรม โดย หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร



ปุจฉา (๑) - ผู้ที่ท่านผ่านมรรคผลแต่ละชั้น ถ้าไม่มีครู-อาจารย์แนะนำ
ท่านจะรู้เองทราบเองในชั้นภูมิของตนหรืออย่างไร


วิสัชนา (๑) – คำถามว่าผู้ที่ท่านผ่านมรรคผลแต่ละชั้น ถ้าไม่มีครูอาจารย์แนะนำ
ท่านจะรู้เองในชั้นภูมิของตนหรืออย่างไร
ตอบว่า...รู้เองและก็ไม่สงสัยเอง เพราะมีเครื่องทดสอบอยู่ในตัวเรา
เคยโลภ โกรธ หลง มันเบาไปขนาดไหนแล้ว หรือไม่เบาลงเลย หรือขาดไปหมดแล้ว
หรือขาดไปแล้วสองส่วน ที่ยังเหลือส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็ต้องรู้ชัดเอง
เหมือนเราทำงานเขียนหนังสือไปถึงไหนแล้ว ก็รู้จักว่าไปถึงนั้นถึงนี้ เหล่านี้เป็นต้น
ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วก็กลายเป็นอริยบุคคลคาดคะเนและเดาดัน
และสมัครเอาโขนสวมหัวตนเองเป็นธรรมอันไม่ชัดแจ้งเฉพาะตน
ศาลปัจจัตตังผู้นั่งบัลลังก์คอยสั่งการ ศาลสันทิฏฐิโกก็ลงโออันเดียวกัน...


สิ่งที่ควรรู้พิเศษ ให้เข้าใจว่ามรรคกับผลนี้เชื่อมโยงกันอยู่จนจะแยกไม่ออก
เพราะเหตุว่ามรรคก็ดี เหตุก็ดี พืชก็ดี กรรมก็ดี
มีความหมายอันเดียวกันใส่หลายชื่อเฉยๆ
ส่วนผลของมรรค ผลของเหตุ ผลของพืช ผลของกรรม ผลของกิริยา
ก็มีความหมายอันเดียวเพราะใส่ชื่อหลายอันเฉยๆ
ส่วนผลที่จะมากหรือน้อยนั้นมันขึ้นอยู่กับเหตุที่ทำลง เมื่อเหตุทำลงแล้ว
จะประสงค์หรือไม่ประสงค์ก็ได้รับตามส่วนควรค่าของเหตุไม่ว่าทางดีทางชั่ว
แต่ทางดีทางชั่วนั้นมีรสชาติต่างกัน
เพราะอันหนึ่งรสชาติร้อนใจ อันหนึ่งรสชาติไม่ร้อนใจ
ส่วนร้อนหรือไม่ร้อนมันก็แล้วแต่เหตุ พืช กรรม กิริยา
ที่สร้างลงมากและน้อยตามที่กล่าวมานั้น



เรื่องเหตุๆ ผลๆ นี้ถ้าไม่ได้พิจารณาพร้อมกับลมหายใจเข้าออกแล้ว จะเดาด้นไม่ชัดเลย
ยกอุทาหรณ์ เหตุหายใจเข้า ผลก็หายใจเข้า
เหตุรู้ชัด ผลก็รู้ชัด เหตุไม่สงสัยผลก็ไม่สงสัย ดังนี้เป็นต้น...
ก็คงจะพอเข้าใจได้แล้วกระมัง ยิ่งอธิบายก็ยิ่งวน ผู้อ่านผู้ฟังก็จะยิ่งไม่เข้าใจ
ส่วนผู้ลงมือเขียนนี้เห็นชัดเฉพาะตนเอง
ถ้าผิดก็ไม่ให้ท่านผู้ใดมาผิดด้วย ถ้าถูกก็ไม่ให้ท่านผู้ใดมาถูกด้วย



.......................................................



ปุจฉา (๒) - เป้าหมายในการกำจัดกิเลสของแต่ละชั้นภูมิ
มีวิธีหรือเป้าเฉพาะหรือไม่อย่างไรครับ (ตัวกิเลสจะละออก)



วิสัชนา (๒) - คำถามว่า เป้าหมายของการกำจัดกิเลสของแต่ละชั้นภูมิ
มีวิธีหรือเป้าเฉพาะหรือไม่อย่างไรครับ (ตัวกิเลสที่จะละออก)
ตอบว่า...ต้องมีเป้าเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นภูมิ
ก็คือภูมิจิตภูมิธรรมของเราในปัจจุบันที่เพ่งเป้าอยู่นั่นเอง
เพราะเอาเป้ากล้องจุลทรรศน์ พร้อมทั้งสติปัญญาสมดุลด้วย
ส่วนกิเลสที่จะละออกนั้นเมื่อเรารู้ตามเป็นจริงตอนไหนๆ
กิเลสตอนนั้นมันก็ออกไปเอง ไม่ได้ทำท่าไล่ฮือๆ ฮาๆ ดอก
ยกอุทาหรณ์เหมือนเราลืมตาที่สว่างและตาก็ไม่ฟางด้วย
เมื่อเราลืมตาขึ้นแล้วไม่เป็นหน้าที่จะไปไล่มืดออก
ว่า “ข้าพเจ้าจะทำกริยาไล่มืดออก มืดจงออกไปซะ” ดังนี้เป็นต้น
ฉันใดก็ดี เมื่อรู้เท่าตามเป็นจริงตอนใดๆ
ความสงสัยตอนนั้นก็หายไปพร้อมกันนั่นเอง ไม่ได้ทำกริยาไล่อีก...
อา...ก็คงพอจะเข้าใจกันได้แล้วนะ ก็เพราะต่างคนต่างสนใจธรรมส่วนนี้


ท้ายนี้ ด้วยเดชพระพุทธศาสนา พวกเราอาสาพิจารณาธรรมจนถึงพริกถึงขิง
ธรรมอันไม่ตายมีเท่าใด ธรรมเป็นสมมติมีเท่าใด และธรรมเป็นวิมุติมีเท่าใด
พวกเราทั้งหลายจงรู้ตามเป็นจริง ปฏิบัติตามเป็นจริง
หลุดพ้นโดยสิ้นเชิงตามเป็นจริงในขณะบัดนี้
โดยไม่ติดอยู่ในเงื่อนใดๆ เลยดังนี้เสมอๆ เทอญ



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


คัดจาก หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP