จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

เชียร์ข่าวสงคราม


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



345 destination



นับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา
เราคงจะเห็นได้ว่าหนึ่งในข่าวต่างประเทศที่สำคัญที่สุดข่าวหนึ่ง
ได้แก่ข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
ซึ่งในสถานการณ์ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมานี้
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ประกาศผนวกรวม 4 แคว้น
ได้แก่ ลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย
ซึ่งคิดเป็นพื้นที่เกือบ 1 ใน 5 ของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการแล้ว
https://thestandard.co/russia-to-annex-4-ukrainian-regions-3/
และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ยังคงดำเนินต่อไป


ในการนำเสนอข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
ตามโซเชียลมีเดียใน platform ต่าง ๆ ซึ่งมีข่าวดังกล่าวอย่างมากมายนั้น
เราคงจะได้เคยเห็นแฟนคลับของแต่ละฝ่ายเชียร์กันอย่างเมามันมาก
เช่น กรณีมีข่าวยิงขีปนาวุธใส่กัน ก็อาจจะมีบางท่านให้ความเห็นว่า
ดีแล้ว ฆ่าฝ่ายโน้นให้หมด หรือกระทั่งแนะนำว่าให้ยิงนิวเคลียร์ใส่กันเลย ก็มี
หรือกรณีที่มีข่าวทหารแต่ละฝ่ายเสียชีวิตหรือบาดเจ็บเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้แล้ว
บางท่านก็ให้ความเห็นชื่นชมยินดีว่า สมควรตายแล้ว สมควรฆ่าให้ตายแล้ว เป็นต้น



ในการที่บางท่านได้ติดตามข่าว แล้วก็รู้สึกอินไปกับข่าว
แล้วสนับสนุนให้ฆ่ากันในสงคราม หรือยินดีพอใจในการฆ่ากันในสงครามนั้น
ย่อมถือว่าเป็นการผิดศีล และเป็นบาปอกุศลที่ให้ผลหนักไม่น้อยเลยนะครับ
ใน “อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑. พุทธวรรค” ได้เล่าว่า
เหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีอาพาธที่ศีรษะหรือเวทนาที่ศีรษะ
เนื่องจาก ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง
วันหนึ่ง พระโพธิสัตว์นั้นกับพวกบุรุษชาวประมง ไปยังที่ที่ฆ่าปลา
เห็นปลาทั้งหลายตาย ได้ทำโสมนัสให้เกิดขึ้นในข้อที่ปลาตายนั้น
แม้บุรุษชาวประมงที่ไปด้วยกันก็ทำความโสมนัสให้เกิดขึ้นอย่างนั้นเหมือนกัน
ด้วยอกุศลกรรมนั้น พระโพธิสัตว์ได้เสวยทุกข์ในอบายทั้ง ๔
ในอัตภาพหลังสุดนี้ ได้บังเกิดในตระกูลศากยราช พร้อมกับบุรุษเหล่านั้น
แม้จะได้บรรลุความเป็นพระพุทธเจ้าโดยลำดับแล้ว
ก็ยังได้เสวยความเจ็บป่วยที่ศีรษะด้วยตนเอง
และเจ้าศากยะเหล่านั้นถึงความพินาศกันหมดในสงครามของเจ้าวิฑูฑภะ
ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
เราเป็นลูกชาวประมงในหมู่บ้านชาวประมง
เห็นปลาทั้งหลายถูกฆ่า ได้ยังความโสมนัสดีใจให้เกิดขึ้น.
เพราะวิบากของกรรมนั้น ความทุกข์ที่ศีรษะได้มีแก่เราแล้ว
ในคราวที่เจ้าวิฑูฑภะฆ่าสัตว์ทั้งหมด (คือเจ้าศากยะ) แล้ว.
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=1&p=11#%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_%E0%B9%99


ในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน
เรื่องพุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติที่ ๑๐ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเล่าว่า
ในกาลก่อนเราเป็นลูกของชาวประมงอยู่ในบ้านเกวัฏฏคาม
เห็นคนทั้งหลายฆ่าปลาแล้วเกิดความโสมนัส
ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ความทุกข์ที่ศีรษะ (ปวดศีรษะ) ได้มีแล้วแก่เรา
ในเมื่อเจ้าศากยะทั้งหลายถูกเบียดเบียน พระเจ้าวิฑูฑภะฆ่าแล้ว
https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=32&A=7849&Z=7924&pagebreak=0


สังเกตว่าในอรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน เล่าว่า
การที่พระโพธิสัตว์ยินดีหรือดีใจที่ปลาตายนั้น
เป็นเหตุให้พระโพธิสัตว์ได้เสวยทุกข์ในอบายทั้ง ๔ กล่าวคือ
นรก เปรตวิสัย อสุรกายภูมิ และกำเนิดดิรัจฉาน
และแม้ว่าในอัตภาพสุดท้ายที่ได้บรรลุความเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว
เศษกรรมก็ยังคงทำให้เกิดอาพาธที่ศีรษะหรือเวทนาที่ศีรษะของพระองค์ท่าน
ซึ่งในกรณีอรรถกถาที่เล่ามาเป็นเรื่องยินดีหรือดีใจที่ปลาตาย
แต่ในกรณีของข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนนี้
เป็นเรื่องการยินดีที่มนุษย์ตาย หรือยินดีที่มนุษย์ฆ่ากันตาย
ซึ่งก็ย่อมจะมีโทษที่หนักกว่ากรณียินดีที่ปลาตายมากมายนัก


อนึ่ง แม้ว่าเราจะเพียงเสพข่าวสงคราม โดยที่ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร
แต่ว่าจิตใจมีความยินดีที่มนุษย์ตาย หรือยินดีที่มนุษย์ฆ่ากันตายแล้ว
ก็ย่อมจะถือว่าผิดศีล และย่อมได้รับวิบากกรรมจากการยินดีในบาปเช่นกัน
เพราะถือว่ามีใจยินดีที่มนุษย์ตาย หรือยินดีที่มนุษย์ฆ่ากันตาย
แม้ว่าเราเองจะไม่ได้โพสต์แสดงความเห็นใด ๆ เลยก็ตาม
เช่นเดียวกับกรณีที่พระโพธิสัตว์ยินดีหรือดีใจที่ปลาตายในอรรถกถา
โดยที่พระโพธิสัตว์ท่านก็ไม่ได้แสดงความเห็นหรือกล่าวใด ๆ เช่นกัน


ดังนี้ ในเวลาที่เราเสพข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
หรือข่าวสงครามใด ๆ ก็ตาม หรือจะเป็นข่าวอื่นใดก็ตามที่มีการฆ่ากันตายแล้ว
เราพึงที่จะรักษาใจของเราเป็นอย่างดี ไม่ให้เผลอไปประพฤติผิดศีลทางใจ
ด้วยการยินดีพอใจในการฆ่ากันตายตามข่าวนั้น
ซึ่งในอันที่จริงแล้ว เราพึงรักษาใจไม่ให้ยินดีพอใจในบาปใด ๆ ทั้งปวงครับ


ใน คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙ (พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท) ได้สอนว่า
บุคคลพึงรีบทำความดี พึงห้ามจิตจากบาป
เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจย่อมยินดีในบาป
หากบุรุษพึงทำบาปไซร้ ไม่พึงทำบาปนั้นบ่อยๆ
ไม่พึงทำความพอใจในบาปนั้น เพราะการสั่งสมบาปนำทุกข์มาให้
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=587&Z=617&pagebreak=0


ในพระวินัยปิฎก มหาวรรค เรื่องพระโสณกุฏิกัณณะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอนว่า
อารยชนเห็นโทษในโลก ทราบธรรมที่ปราศจากอุปธิแล้ว
ฉะนั้น จึงไม่ยินดีในบาป เพราะคนสะอาดย่อมไม่ยินดีในบาป.
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=5&A=545&Z=695&pagebreak=0



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP