สารส่องใจ Enlightenment

ธัมมะในลิขิต ฉบับที่ ๕


enlightenment

ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

(รวบรวมโดย คุณเอี๋ยน ธัมมัญญู จ.จันทบุรี)

ฉบับที่ ๕
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๙

ขอให้ตั้งใจปฏิบัติตามแนวที่ได้อธิบายให้ฟังแล้วในจดหมายทุกๆ ฉบับ
อย่าส่งจิตใจไปอื่นนอกจากกายกับจิตให้เกินกว่าเหตุ จะเสียเวลา
ทั้งจะนำความกังวลเดือดร้อนมาเผาผลาญเราเปล่าๆ
และขอแนะนำย้ำอีกว่า...
อย่าแสวงหาสันติธรรมคือพระนิพพานนอกไปจากกายกับจิต

ปัจจุบันเป็นบ่อเกิดแห่งบุญแลบาป
อดีตอนาคตไม่ใช่บุญแลบาป และมิใช่บ่อเกิดแห่งบุญแลบาป
ปัจจุบันนี้เองเป็นตัวบุญตัวบาป
เมื่อเรารักษาจิตให้อยู่ในปัจจุบันด้วยความมีสติแล้ว
กิเลสบาปธรรมที่ไหนจะเลื่อนลอยมาครอบงำจิตให้เราได้รับความเดือดร้อนเล่า

เหตุที่เราจะเดือดร้อนขุ่นมัว ก็เพราะปล่อยจิตให้คว้าโน่นคว้านี่ไม่อยู่เป็นสุข
คือคว้าอดีตอนาคตซึ่งเหมือนน้ำลายถ่มทิ้งแล้ว
คว้ากลับเข้ามาใส่ปากอีก ย่อมน่าสะอิดสะเอียนต่อลิ้นไม่น้อยเลย
อารมณ์หรือสิ่งที่ชั่วอะไรก็ตามที่ผ่านพ้นไปแล้ว
เราก็รู้แล้วว่าไม่ดียังคว้ากลับคืนมาเผาจิต
อันนี้ยิ่งร้ายกว่าน้ำลายที่ถ่มทิ้งเสียอีก เลยหาความเย็นไม่ได้เลย

เราอยู่ดีกินดีอย่าหาเรื่องใส่เรา
เราต้องการจะให้ไฟดับ ต้องไสฟืนออก แล้วไฟจะค่อยดับเอง
จิตถ้าได้เชื้อ คือ อดีต อนาคต เป็นปัจจุบันหนุนหรือส่งเสริมอยู่แล้ว
ก็จะไปกันใหญ่เหมือนไฟได้เชื้อฉะนั้น
ดังนั้น จึงควรรักษาจิตให้มีอารมณ์ที่ดีเป็นเครื่องดื่มโดยปัจจุบัน
ก็นับวันจะสงบสบายคลายจากสิ่งที่เป็นข้าศึก
จะมีแต่ความสงบสุขทุกอิริยาบถ
จึงจะสมนามว่าผู้ฉลาดทรมานจิตให้หายพยศได้

อนึ่ง สัตว์พยศเขายังทรมานได้ ธรรมดาจิตเมื่อมีกิเลสก็ต้องมีพยศ
เราจะหักห้ามหรือทรมานให้จิตหายพยศไม่ได้ จะเรียกว่าคนฉลาดที่ตรงไหน
เมื่อเราทรมานจิตได้มากน้อยก็ชื่อว่าเป็นคนฉลาดโดยลำดับ
จนถึงเรียกว่าเป็นคนฉลาดได้ (ยอดนักปราชญ์) เอวํ สวัสดี.

บัว

sathu2 sathu2 sathu2



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP