ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ทำอย่างไรจึงจะขยันสวดมนต์



ถาม – จะขจัดความขี้เกียจในการลุกขึ้นมาสวดมนต์ได้อย่างไรคะ


เรื่องความขี้เกียจ ขอให้จำไว้ข้อหนึ่งเลยนะ
คือตัวความขี้เกียจ คีย์เวิร์ด (
keyword) นะคำว่าขี้เกียจ
ใจของเราผูกคำว่า “ขี้เกียจ” ไว้กับความสุข
คือถ้าขี้เกียจ มันสบาย มันไม่ต้องทำอะไร มันรู้สึกว่าอนุญาตให้ตัวเองงอมืองอเท้า
รอความเจริญก้าวหน้าลอยมาหล่นทับเราเองได้นะ
อาการของจิตมันจะประมาณอย่างนี้
แต่ถ้าหากว่าขยัน มันรู้สึกว่าต้องฝืน
เพราะฉะนั้นคำว่า “ขยัน” ไม่ว่าจะขยันเรื่องที่ไม่ถนัดอะไรก็แล้วแต่
มันผูกอยู่กับคำว่าเป็นทุกข์ คือมันต้องฝืน ต้องเหมือนกับพยายามแตกต่างไปจากเดิม
พยายามเอาชนะตัวตนแบบเก่าๆ ที่มันชอบอย่างไรอยู่นะ


พอคุณมองภาพรวมออกนะว่าขี้เกียจผูกอยู่กับสุข ขยันผูกอยู่กับทุกข์
คุณจะได้ทิศทางในการเอาชนะความขี้เกียจในรูปแบบใหม่
คือไม่ใช่พยายามเอาชนะความขี้เกียจด้วยอาการกัดฟันทน
แต่เป็นการทำความเข้าใจว่าถ้าหากเราสามารถปฏิบัติ
หรือว่าสวดมนต์ในแบบที่จะทำให้กายสบายจิตสบายได้
มันจะเกิดความติดใจแล้วก็ไม่ขี้เกียจ


จริงๆ นะที่เราขี้เกียจเพราะว่าเหตุผลเดียวเลย
เพราะว่าเราผูกคำว่าขี้เกียจไว้กับความสุข
แล้วก็ผูกคำว่าขยันไว้กับคำว่าความทุกข์
คือมันจะมีอาการทางใจที่บอกนะครับที่ผลิตคำนี้ออกมา
ว่าแบบนี้ที่ต้องฝืนสวด อย่างนี้เรียกว่าทุกข์
แต่ถ้าเหมือนกับทอดหุ่ย นอนสบายอยู่บนเตียง
อาการที่เหมือนไม่ต้องทำอะไร ใจมันจะผลิตคำว่าสุขออกมา
ทีนี้ถ้าเรากลับด้าน สามารถใช้แนวทาง
หรือว่าอุบายอะไรสักอย่างหนึ่งกลับด้านกลับขั้วเสีย
ให้กลายเป็นว่าขยันผูกอยู่กับคำว่าสุข แล้วขี้เกียจไปผูกอยู่กับคำว่าทุกข์



ถ้าทำได้นะ ถ้ามีอุบาย แล้วเกิดสภาวะนั้นขึ้นมาจริงๆ ทำได้จริงๆ
มันจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย
คือมันจะตั้งหน้าตั้งตาสวดมนต์แบบ บางทีนี่สวดแบบลืมโลกเลยนะ
สวดอย่างมีความสุข ยิ่งสวดมันยิ่งเป็นสมาธิ ยิ่งสวดมันยิ่งมีความผ่องใส
มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทางจิตวิญญาณ มันก็ยิ่งสวดไปเรื่อย
บางคนนะ สวดแบบสวดอย่างเดียวเลยเป็นวันๆ นะ
หลายชั่วโมงต่อเนื่องกันสี่ชั่วโมงห้าชั่วโมงอะไรแบบนี้
เพราะว่าจับจุดถูกว่าสวดอย่างไรจะให้มีความสุข



ทีนี้ผมบอกแนวทาง เริ่มต้นขึ้นมาเพื่อที่จะกลับหัวกลับหาง
ขอให้สังเกตอาการตัวเองเวลาที่สวดมนต์
สวดด้วยอาการงึมงำหรือว่าสวดแบบเปล่งเสียงเต็มปากเต็มคำ

ผมให้เช็คลิสต์ (
checklist) เลย
ถ้าสวดแบบเต็มปากเต็มคำ แนวโน้มคือคุณจะอยากขยัน
ถ้าสวดแบบงึมงำ อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมา
แล้วก้มหน้าก้มตาสวด อย่างนี้แนวโน้มจะขี้เกียจ
เพราะอะไร เพราะการสวดแบบงึมงำ มันผลิตความทุกข์ครับ ไม่ใช่ผลิตความสุข
มันผลิตความรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะจบบทสวดสักที
ในขณะที่ถ้าสวดเต็มปากเต็มคำ เงยหน้าสวดอย่างมีจิตเปิดสบาย
อย่างนี้นะ ยิ่งสวดมันจะยิ่งมีความเบา มันจะยิ่งมีความสุขมากขึ้นๆ



นอกจากนั้นมีเช็คลิสต์อีก เริ่มต้นขึ้นมาคุณสังเกตไหม
ว่าอยู่ในอาการคอตั้งหลังตรง หรือว่าอยู่ในอาการที่มันเหมือนกับหน้างุ้มหลังงอ
ถ้าอยู่ในอาการหน้างุ้มหลังงอ โอกาสที่จะขี้เกียจมีสูงมาก
เพราะว่าอาการแบบนี้ มันเป็นอาการที่พร้อมจะปักหัวลงไปหลับ ปักหัวลงไปนอน
มันไม่มีความองอาจผึ่งผายทางธรรม มันไม่มีความร่าเริงในธรรมนะ
ถ้าเราเชิดหน้านิดหนึ่ง คอตั้งหลังตรง อยู่ในสภาวะที่กายเบาใจสบาย
สำรวจไล่ขึ้นมาก็ได้ ฝ่าเท้ามันเกร็งอยู่ไหม ถ้าเกร็งอยู่ ผ่อนออก
ฝ่ามือมันมีอาการกำอยู่ไหม ถ้ามีอาการกำอยู่ ผ่อนออก
ทั่วทั้งใบหน้ามีอาการขมวดมีอาการตึงไหม
ถ้าหากว่ามันมีอาการผ่อนคลายทั่วทั้งเท้าทั้งมือทั้งหน้า
มันจะมีความพร้อมที่จะสวดแบบอาจหาญร่าเริงในธรรม
มันจะมีความพร้อมที่จะถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชาเต็มปากเต็มคำ

สังเกตให้ได้อย่างนี้นะ ตรงนี้เป็นอุบายที่จะทำให้คุณกลับหัวกลับหาง
จากขยันแล้วเป็นทุกข์เปลี่ยนเป็นขยันแล้วยิ่งมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ
มากขึ้นทุกทีนะครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP