จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว Lite Talk
ฉบับที่ ๓๑๙ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมาธิ
๑
เข้าใจผิด คิดว่าสมาธิ
คือของวิเศษนอกจิต
ไม่เข้าใจว่า
สมาธิ คือจิตชนิดหนึ่ง
เป็นดวงจิตดวงหนึ่ง
และตราบเท่าที่ยังไม่เข้าใจให้ถูก
ก็จะลากจูงความเข้าใจผิดชนิดอื่นๆให้ตามมา
๒
เข้าใจผิด คิดว่าสมาธิ
จะเกิดขึ้นต่อเมื่อกักตัว นั่งหลับตา
ทำท่าเคร่งขรึมสักครึ่งชั่วโมง
ไม่เข้าใจว่า
สมาธิ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ
คนคนหนึ่งฝึกจิตของตนทุกชั่วโมง
ให้ชินกับการโฟกัสสิ่งที่กำลังอยู่ตรงหน้า
ไม่ปล่อยใจให้วอกแวกง่าย
ไม่ว่าจะอยู่ในท่าไหน อิริยาบถใด
จะกำลังทำงาน หรือกำลังเล่นสนุกก็ตาม
ความเข้าใจผิด หลงคิดไปว่า
‘การทำสมาธิ’ เริ่มต้นต่อเมื่อหลับตาหน้าหิ้งพระ
ทำให้พลอยหลงนึกว่า
ไม่ต้องมีต้นทุนจากที่อื่นก็ได้
ทั้งชีวิตปล่อยใจให้เหม่อ
ล่องลอยไปตามอัธยาศัย
แล้วค่อยมานั่งสมาธิในห้องพระที่เดียวก็ได้
๓
เข้าใจผิด คิดว่าสมาธิ
เริ่มนับหนึ่งกัน
ที่ความกระเสือกกระสนอยากสงบ
ไม่เข้าใจว่า
สมาธิ เริ่มนับหนึ่งกันที่สติ
และสติจะเกิดขึ้นไม่ได้
หากเอาแต่อยากโน่นอยากนี่
เช่น อยากสงบทั้งที่ไม่พร้อมสงบ
ต่อเมื่อเข้าใจเสียใหม่ ไม่อยากสงบ
แต่ควรรู้ ควรยอมรับตามจริงว่า
ณ ลมหายใจหนึ่งๆ
กำลังฟุ้งซ่านมากหรือฟุ้งซ่านน้อย
ยอมรับรู้ได้เช่นนี้จึงค่อยเกิดสติ
เมื่อเกิดสติก็ใจเย็นลง
เห็นความฟุ้งซ่านว่าไม่เที่ยง
ต่างลมก็ต่างไป
ใจที่เย็นอย่างมีสตินั่นเอง
คือชนวนเหตุให้เกิดสมาธิอย่างรวดเร็ว
ต่างจากใจที่ร้อนรนด้วยความอยาก
คือชนวนเหตุให้ฟุ้งซ่านปั่นป่วนหนักกว่าเก่า
๔
เข้าใจผิด คิดว่าสมาธิ
ได้แล้วได้เลยเหมือนสมบัติตายตัว
ถ้าเคยสงบ แปลว่าต้องสงบอีก
ไม่เข้าใจว่า
สมาธิจิตเป็นของไหล
เหมือนน้ำที่พร้อมจะไหลลงต่ำ
หรือไหลไปปนเปื้อนมลพิษในชีวิตประจำวัน
เช่น หลงระเริงไปกับการพูดคุยออกอ่าวเรื่อยเปื่อย
ความหลงระเริงนั้นจะยังจิตให้แส่สาย
หาโฟกัสไม่เจอ
แม้เคยทำสมาธิได้ดี ก็เหมือนทำไม่เคยเป็น
ต่อเมื่อเข้าใจเสียใหม่
ได้สมาธิแล้วไม่เหลิง
ระวังจิตไม่ให้เสียหาย
จึงค่อยเข้าที่ เป็นสมาธิได้บ่อยขึ้น เสถียรขึ้น
๕
เข้าใจผิด คิดว่าสมาธิ
เป็นของวิเศษวิโส
แม้ออกจากสมาธิแล้ว
ก็มีศักดิ์ศรีวิเศษวิโสเหนือคนธรรมดา
ไม่เข้าใจว่า
สมาธิเป็นของสูง
คู่ควรกับจิตที่อ่อนโยน นุ่มนวล
ไร้ความกระด้าง
ไร้ความยโสโอหัง
เมื่อทำความเข้าใจไว้ถูก
จิตจึงคู่ควรกับการเข้าถึงสมาธิชั้นสูงแบบพุทธ
สามารถรู้ความไม่เที่ยงของจิต
สามารถรู้ความไม่อาจคงสภาพของจิต
สามารถรู้ความไม่ใช่ตัวเดิมของจิต
แล้วได้ข้อสรุปสุดท้ายว่า
จิตไม่ใช่ตัวตน
ไม่มีตัวใครอยู่ในจิต
และนั่นเอง! ความส่องสว่าง
เยี่ยงสมาธิจิตอันบริสุทธิ์แท้จริงจึงปรากฏ!
ดังตฤณ
ตุลาคม ๒๕๖๔
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาธรรมแก่พระปุณณิยะ
ถึงเหตุที่ทำให้การฟังธรรมในแต่ละครั้งมีความแจ่มแจ้งบ้างไม่แจ่มแจ้งบ้าง
รายละเอียดติดตามได้ในคอลัมน์ "ธรรมะจากพระสูตร"
ตอน "ปุณณิยสูตร ว่าด้วยเหตุปัจจัย ๑๐ ประการ
พระธรรมเทศนา จึงแจ่มแจ้งกะพระตถาคตโดยส่วนเดียว"
จะมีวิธีการใดในการโน้มน้าวใจ ให้ผู้ที่ไม่มีศรัทธาในศาสนามาก่อน
ได้หันมาสนใจศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
หาคำตอบได้ในคอลัมน์ "ดังตฤณวิสัชนา"
ตอน "จะชักชวนให้ชาวต่างชาติที่ไม่มีศาสนา มาเลื่อมใสพระพุทธศาสนาได้อย่างไร"
วิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้เกิดมิจฉาชีพขึ้นมากมาย
เราจึงต้องระวังไม่ให้ความโลภครอบงำจิตใจ จนต้องตกเป็นเหยื่อ
ดังเรื่องราวที่คุณงดงามบอกเล่าไว้
ในคอลัมน์"จุดหมายปลายธรรม" ตอน "ระวังมิจฉาชีพ"
< Prev | Next > |
---|