ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ทำไมถึงรู้สึกรักลูกไม่เท่ากัน



ถาม – ทำไมดิฉันถึงรู้สึกเกลียดลูกชายคนแรกของตัวเองคะ
ไม่ว่าลูกจะทำอะไร ดิฉันก็ไม่ถูกใจเลย
ส่วนลูกคนที่สองกลับรู้สึกว่าเขาน่ารัก แบบนี้ควรทำอย่างไรดีคะ



คำถามข้อนี้ บางทีถ้าไม่เกิดกับตัวเอง มันไม่เข้าใจนะ
แล้วก็จะพอได้ยินคนอื่นพูดอะไรในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ
บางทีมันก็จะเกิดความรู้สึก ทำไมอย่างนี้
เป็นแม่ที่ไม่ดีหรือว่าเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้ อะไรอย่างนี้
คือถ้าไม่เกิดกับตัว บางทีมันไม่สามารถที่จะไปเข้าใจนะ ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างนั้นนะ
แล้วอันนี้บอกเลยว่าเป็นเรื่องจริงนะครับ แล้วเกิดขึ้นกับคนไม่น้อย
ทีนี้คือคนไม่กล้าพูดกัน สารภาพความจริงทางใจกัน ว่าทำไมฉันรู้สึกอย่างนี้ไม่รู้
เพราะรู้ว่าถ้าขืนพูดหรือว่าเปิดเผยหรือพูดออกไป คนก็ด่า อะไรแบบนี้


ทีนี้มันมีอย่างนี้ ยกตัวอย่างเลยนะ ที่ชัดๆ เลย
อย่างกรณีพระเจ้าอชาตศัตรู ก็มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกนะครับ
ว่าเคยเป็นศัตรูกับพ่อตัวเองมาก่อนอย่างนี้
แต่ในชาติที่เกิดเป็นพระเจ้าอชาตศัตรู
คือขึ้นต้นมาความรู้สึกมันดีๆ กัน เป็นลูกที่รักพ่อ แล้วพ่อก็รักลูก
แต่มันเป็นศัตรูในแบบที่จะต้องมาล้างผลาญกันในเวลาที่ลูกโตขึ้นแล้ว
เพราะว่าพอลูกโตขึ้นไปได้อาจารย์ไม่ดี พระเจ้าอชาตศัตรูมีพระเทวทัตเป็นคนสอน
แล้วก็เสี้ยมสอนในแบบที่จะให้ช่วงชิงพระราชสมบัติอะไรแบบนี้
ก็เลยกลายเป็นว่า เป็นออกแนวที่ว่าเป็นศัตรูในแบบที่ล้างผลาญชีวิตกัน
ทั้งๆ ที่เกิดมาตอนแรกๆ ก็ยังรู้สึกดีต่อกันอยู่



ทีนี้จะมีพ่อแม่ลูกอีกบางประเภทนะครับ
ที่ไม่รู้ว่าเงื่อนไขปัจจัยมาจากไหน คือมันดูไม่สมเหตุสมผล
แต่เห็นหน้าลูกแล้วไม่ชอบ เห็นหน้าลูกแล้วรู้สึกรังเกียจ
หรือว่าเกิดความรู้สึกพออกพอใจเฉพาะลูกบางคน
อย่างตัวคำถาม แต่อีกคนมันทำใจอย่างไรก็ทำไม่ได้
จะพยายามทำตัวเป็นแม่ก็แล้ว แกล้งฝืนที่จะรักก็แล้ว มันฝืนไม่ได้ มันรู้สึกไม่ดี
อันนี้เป็นสัญญาณบอก เป็นเครื่องหมายบอกว่า
เรากับเขามีความผูกพันที่เหนียวแน่นในเชิงลบต่อกัน
ความผูกพันที่เหนียวแน่นนั้นกระชากให้มาเป็นพ่อแม่ลูกกัน
แล้วก็จะต้องเกิดความรู้สึกไม่ดีแบบเกลียดขี้หน้ากัน
หรือว่าอยู่ใกล้ชิดกันกับรากของความเกลียดนั้นต่อไป



ทีนี้ถ้าเรามองเข้ามานะ
สัญญาณบอกว่าเคยมีกรรมไม่ดีต่อกัน มันอยู่ตรงนี้ ความรู้สึกแย่ ความรู้สึกไม่ดี
อย่าฝืนที่จะแสดงความรัก ความเอ็นดู อย่าฝืนที่จะพูดจ๊ะจ๋า
หรือว่าทำเป็นเหมือนกับเรารักเท่าเทียมกับลูกคนอื่น

แต่ให้สร้างเหตุปัจจัยที่จะทำให้รู้สึกดีกับลูกจริงๆ นะ
โดยมองว่า นี่ชาติก่อนมันล้างไม่หมดแน่ๆ
ชาตินี้ต้องมาเป็นพ่อแม่ลูกกัน แล้วก็รู้สึกไม่ดีต่อกัน
เราจะไม่เอาความรู้สึกนี้อีกแล้ว พยายามคิดนะ
คุณในฐานะที่ให้กำเนิดลูก มันอยู่ในฐานะที่เลือกได้มากกว่าเขานะ
ว่าจะให้ความสัมพันธ์หรือว่าให้ความรู้สึกมันเป็นไปในทิศทางไหนต่อนะครับ



ถ้าหากว่าเราตั้งต้นคิดการบุญขึ้นมา
แล้วให้เขาช่วยคิด พยายามทำให้สำเร็จร่วมกัน
มันก็จะกลายเป็นค่อยๆ มีเชื้อของความรู้สึกเย็น เชื้อของความรู้สึกสว่าง
เชื้อของความรู้สึกด้านดีเข้ามาแทนที่ของเดิมนะครับ

ยกตัวอย่างเช่น คือสังเกตเขาว่าเขาเป็นคนแบบไหน ถนัดในทางบุญแบบใด
ถ้าถนัดเอาแค่สวดมนต์ก็ชวนกันสวดมนต์
หรือถ้าเขาชอบให้ทานกับคนแบบทั่วไปนะ ก็พาไปตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ
หรือว่าถ้าเขาเข้าทางพระได้ ยังไม่ได้มีความเกลียดชังหรือว่ามีอคติอะไรกับพระสงฆ์องค์เจ้า
ก็ชวนไปทำบุญ ชวนในแบบที่ว่า เออ นี่ เดี๋ยวเราไปทำบุญกัน
ลูกคิดซิว่าเราจะเอาอะไรไปถวายดี
หรือว่าไปช่วยคน คิดซิเอาอะไรไปช่วยเขาดี ทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น
แล้วอย่างทำบุญอย่างอื่น ประเภทที่จะเหมือนกับสังเกตว่าเขาชอบอะไร ถนัดอะไร
แล้วคุณเป็นตัวตั้งตัวตี เป็นต้นคิด
ที่จะให้เขาช่วยให้ความตั้งใจทำบุญของคุณ แผนการทำบุญของคุณประสบความสำเร็จ



ขอให้เกิดการทำบุญร่วมกันเถิด
คิดร่วมกัน พูดร่วมกัน แล้วทำให้สำเร็จร่วมกัน คุณจะค่อยๆ รู้สึกดี
จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม จากสามเป็นสี่ มากขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งมันสามารถล้างความรู้สึก
ที่ตกค้างอยู่ข้ามภพข้ามชาติให้หมดเกลี้ยงไปได้นะครับ

จำไว้นะ เขาจะไม่มีทางเป็นฝ่ายเริ่มต้น คุณเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นฝ่ายตั้งต้น
ที่จะออกจากวงจรแห่งความเกลียดชังหรือว่าแห่งความรังเกียจกันนะ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP