ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

การเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่เกิดจากกรรมวิบากใด



ถาม – การระบาดของโรคโควิด – ๑๙ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกเกิดจากวิบากกรรมใดคะ


คำถามนี้ตอบไปหลายครั้งมากแล้วนะ
คือจริงๆ แล้วอย่างโรคระบาดใหญ่ มันมีรอบของมัน ซึ่งไม่ได้มีใครไปกะเกณฑ์
แต่มีผู้สังเกตว่าในรอบร้อยปีจะมีครั้งหนึ่ง โดยประมาณร้อยปี
แล้วก็โรคระบาดใหญ่ ใครจะเกิดมาหรือใครจะไม่เกิดมาก็ตาม มันไม่สนนะ
มันสนแต่ว่ามันจะมา มันเหมือนกับยักษ์ที่จะมากินคนทุกรอบร้อยปีอะไรแบบนี้
ถ้าหากว่าเรามองเป็นเรื่องของรอบเวลาที่มันจะต้องมีฤดูกาล
มันจะต้องมีแสงอาทิตย์นะ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงอะไรแบบนี้

เดี๋ยวจะต้องมีความมืดย่างกรายเข้ามาครอบงำโลก
เราก็จะเข้าใจว่านี่คือธรรมชาติส่วนที่เป็นตัวตั้งนะ
ไม่มีกรรมของใคร ไม่มีกรรมหมู่ที่มันจะทำให้เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่
ใครบอกว่าโรคระบาดครั้งใหญ่เกิดจากกรรม ไม่ใช่นะ



คือโรคระบาดใหญ่เป็นตัวตั้ง เป็นธรรมชาติที่มันจะมีความถี่ของมันเข้ามาอย่างนี้อยู่แล้ว
แต่ว่าใครจะได้รับเคราะห์จากโรคระบาด ใครมาเกิดในช่วงที่เกิดโรคระบาดใหญ่
แล้วจะต้องตาย หรือว่าจะต้องเสียเวลา เจ็บป่วยทรมาน
หรือไม่เป็นอันตรายอะไรเลยแม้กระผีกเดียว ไม่เป็นอันตรายแม้กระผีกริ้น
อันนี้แหละที่ขึ้นกับกรรมของแต่ละคน
แล้วกรรมมันมีทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่

อย่างกรรมเก่าคือบางทีควบคุมตัวเองดีแล้ว ระวัง ใส่มาสก์ (
mask) ล้างมือบ่อย
แต่ก็ยังอุตส่าห์ติด เพราะว่าคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดไปเอามาจากข้างนอก
อย่างนี้มันก็อาจพูดได้ว่าเป็นวิบาก เป็นวิบากไม่ดีที่จะต้องให้ผล
คือเกี่ยวกับเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บก็มักจะเชื่อมโยงกับปาณาติบาตนะครับ
ใครทำมามาก ใครทำมาน้อย
ในแบบที่จะทำให้เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจกับร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น
บางทีมันก็จะมาเข้าตัว เมื่อบาปเผล็ดผลได้


แต่ถ้าอย่างบางคนน่ะ เห็นไหม ดาราดังไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามรอบ ไม่ติดทั้งสามรอบ
มันมีให้เห็นมาแล้ว ทั้งๆ ที่ก็ใช้ชีวิตแบบปกติ ระวังแบบปกติ
ไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยงมาสามรอบ เป็นข่าวดังสามรอบ ไม่ติดทั้งสามรอบอย่างนี้
นี่ก็คือเธอแบบว่าไม่มีบาปเผล็ดผล เอาเฉพาะช่วงที่ผ่านมานะ
ช่วงที่ผ่านมาคือเราเห็นแล้วว่าบาปยังไม่เผล็ดผล
แต่ทีนี้ถ้ามีใครบางคนบอกว่าต่อให้ไม่มีบาปที่จะเผล็ดผลในช่วงนี้เลย
แต่ประมาท คือทำกรรมในปัจจุบันว่าด้วยความประมาท
ไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ไปเล่นพนัน ไปกินเหล้าแบบคลุกคลี
คุณเชื่อไหมโควิดระบาดหนักๆ อย่างนี้ ยังมีหลายกลุ่มนะที่กินเหล้าแก้วเดียวกันอยู่
คือไม่สนนะ แล้วก็พูดกันเป็นคำติดปากเลยนะ
บอกว่าเมืองไทยนี่ไม่ติดหรอก ไม่ต้องไปกลัว มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถอดใจตั้งแต่เห็นมนุษย์ทำเรื่องไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้วนะ
มากินเหล้าแก้วเดียวกันหรือว่ามาเล่นพนัน แล้วก็อยู่ในที่ที่มันปิด อยู่ในที่แคบที่มันปิด
แล้วก็มีโอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะเจอกับคนติดเชื้อ



อันนี้ต่างหากถ้าพูดเรื่องกรรม มันต้องพูดกันอย่างนี้
กรรมเก่าของแต่ละคนมีจังหวะที่จะเผล็ดผลไหม
กรรมใหม่ว่าด้วยความประมาท
อย่างกินเหล้ามันก็ประมาทอยู่แล้วใช่ไหม
มันทำให้สติลดลง แล้วมันทำอะไรก็ไม่รู้ตอนเมา
อย่างนี้มันชัดเจนนะว่ากรรมใหม่นี่แหละที่มันชัดเจนนะ
เราพูดกันประสาชาวบ้านรู้เรื่องด้วย โดยที่เขาอาจไม่ได้เชื่อเรื่องกรรมเก่านะ
แต่เราพูดเรื่องกรรมใหม่ อันนี้แหละที่มันชัดเจนที่สุด
ว่าชาวโลกตอนนี้ พวกที่ติดโควิดมีทั้งแบบที่ไม่เจตนา
ระวังตัวแล้วแต่ก็อุตส่าห์ติด อันนี้คือวิบากเก่า
แต่ถ้าไม่ระวังตัว ประมาท ใช้ชีวิตแบบนึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองตลอดไป
อันนี้นี่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอลา โบกมือลามานานแล้ว หลายเดือนแล้วนะ ไม่เอาด้วยแล้วนะ



ก็สรุปว่าเรื่องของโควิดนะครับ
โรคระบาดทั่วโลกที่คนมักจะสงสัยกันว่ามันเกิดจากกรรมหมู่แบบไหน
มันไม่มีหรอกครับ กรรมหมู่ในแบบที่จะทำให้เกิดโรคระบาด
เพราะโรคระบาดมีหน้าที่อยู่แค่ ๒-๓ อย่างนะ
มาเอาชีวิตคนบางคนที่ถึงคราวตาย
มาทำให้คนบางคนเจ็บป่วยมาก เจ็บป่วยหนัก เป็นระยะเวลายืดเยื้อยาวนาน
แล้วบางทีมันกัดกินปอด กัดกินสมองอะไรไปแบบเอาคืนไม่ได้
มันมาเพื่อที่จะทำให้คนป่วยเล็กๆ น้อยๆ บางคนติดไปแล้ว หายแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำ
แล้วก็ไม่มีใครที่เอะใจเลยนะว่าคนนี้ติดไปแล้ว หายไปแล้วนะ
แล้วก็มาเพื่อให้บางคนรู้จักที่จะระวังตัว ใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท แล้วก็คลาดแคล้วไป



คือเวลามันเหวี่ยงแห ตาข่ายของโรคระบาดใหญ่มันถี่
แต่ทีนี้ถ้าเรารู้ช่องหลบ เราก็รอดได้ มันมีโอกาสรอดอยู่ไม่ใช่ไม่มีโอกาสเลย

แต่ช่วงนี้ผมเปรียบเทียบ มันเหมือนยุงชุมนะ
โอกาสที่เราเข้าไปในสถานที่ต่างๆ แล้วจะเจอยุงมันสูง
แต่ว่าเราก็ยังมีความสามารถที่จะระวังป้องกันตัวได้อยู่
ถึงแม้ว่าจะมีข่าวออกมานะว่าใส่มาสก์ไม่มีประโยชน์
เพราะบางทีที่มันกลายพันธุ์ไปแล้ว มันทะลุเข้าไปได้ ทะลุทะลวงได้อะไรอย่างนี้
อันนี้ก็ขอให้มองอย่างนี้ว่าถ้าเราป้องกันตัวดีที่สุด
ใส่มาสก์ เปอร์เซ็นต์ที่จะติดมันต่ำลงมาก
เคยมีวิเคราะห์นะ แค่ใส่มาสก์ผ้านะ ยังไม่ต้อง
N95 โอกาสที่จะติดมันน้อยลงแล้ว
ถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิด ไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ โอกาสที่จะติดน้อยมาก


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP