สารส่องใจ Enlightenment

จะพิจารณาให้เห็นตามเป็นจริงได้อย่างไร



วิสัชนาธรรม โดย พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี)
วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย




ปุจฉา (๑) - มีบางคนพูดว่าถ้าหากธรรมะมีประจำตัวของเราอยู่แล้ว
จะออกไปประพฤติปฏิบัติให้มันลำบากทำไม เขาพูดอย่างนี้จริงไหมครับ



วิสัชนา - มันก็ยังไม่ทันถูกแท้ ดังอธิบายมาแล้ว ธรรมะมีอยู่แต่เรายังไม่เห็นธรรมะ
เห็นก็เพียงตื้นๆ เผินๆ ไปเห็นรูปนามด้วยตาด้วยความคิดนึก
อันนี้เป็นธรรมะที่เป็นความจำตามตำรับตำราหรือผู้อื่นสอน
แต่ยังไม่เห็นธรรมะที่เป็นของแท้จริง เห็นด้วยตนเอง
เพราะฉะนั้น เราจะต้องมาฝึกฝนใจของเราให้มีพื้นฐานไว้สำหรับรับรองธรรม
เนื่องจากฐานที่ตั้งของธรรมะดังอธิบายมาแล้วยังไม่ทันมี เหตุนั้นธรรมะจึงไม่มีที่ตั้ง
ดังนั้นแม้จะพิจารณาธรรมะอันนั้นจึงไม่ชัดเจนและไม่เห็นตามเป็นจริง
เพราะว่าธรรมะถึงแม้จะมีจริง แต่เราก็ยังไม่สามารถที่จะพิจารณาให้เห็นตามเป็นจริงได้
เหตุนั้นจึงจำเป็นต้องออกไปอบรมฝึกฝนใจของเราในที่สงัด
หรือกับอาจารย์ผู้รู้ต่างๆ ให้มีที่ตั้ง เพื่อจะให้ภูมิของธรรมะมาตั้งไว้อยู่ที่นั้น (จิต)




……………………………………………………….




ปุจฉา (๒) - ทาน-ศีล-ภาวนา ทั้งสามข้อนี้ ถ้าหากว่าผู้มาพิจารณาเห็นด้วยปัญญาแล้ว
จะรวมเข้าเป็นจุดอันเดียวได้หรือไม่ครับ



วิสัชนา - ทาน-ศีล-ภาวนา ที่ท่านบัญญัติไว้ตามลำดับ
ท่านพูดถึงเรื่องทาน เรื่องศีล เรื่องภาวนา เป็นคนละอันคนละอย่างกันไว้
ถ้าหากผู้มาภาวนาพูดถึงเรื่องใจ ไม่ได้พูดถึงเรื่องภายนอก
พูดถึงเรื่องใจทำให้สงบ จึงค่อยคิดค้นภาวนา
ดังอธิบายมาแล้วถึงเรื่องธรรมทั้งหลาย ไม่ว่าของหยาบหรือของละเอียด
เมื่อใจสงบแล้วจะมองเห็น



ทานภายนอก ซึ่งเรียกว่าวัตถุทานนั้นเป็นส่วนหนึ่ง
คือความสละ จาคะ ความมัจฉริยะ ความตระหนี่เหนียวแน่น
ส่วนศีล คือการรักษากาย วาจา ใจให้สงบ คือให้เว้นเสียจากบาป
ส่วนการภาวนา คือการอบรมทำความสงบของใจ
เห็นเหมือนกัน เห็นในทำนองนั้นก็ชัดเหมือนกัน
แต่มันไม่ชัดเท่าที่มันเห็นด้วยใจของตนเอง



ที่ตนเห็นด้วยใจของตนนั้น ทาน คือการเสียสละ
เวลาเราภาวนาเราสละอารมณ์ มีเรื่องต่างๆ ที่มาข้องที่ใจของเรา
เรียกว่าจาคะคือการสละทำทานนั่นเอง เข้ากับคำว่าจาโคปฏินิสสัคโค
ศีล ในเวลาที่เรานั่งภาวนา เราไม่ได้ทำอะไร
กาย วาจาของเราก็สงบเรียบร้อยเป็นศีลในที่นี้แล้ว จึงเรียกว่าศีล
การที่ทำเช่นนั้นมันเกิดจากภาวนาเหมือนกัน
ภาวนาสงบแล้ว จึงค่อยเห็นชัดในที่เดียว
คือเวลาที่นั่งทำความสงบนั้น ทานเราก็ได้ทานอยู่แล้ว ศีลเราก็มีอยู่แล้ว
นี่แหละทาน ศีล ภาวนา เลยเป็นอันเดียวกัน



นักภาวนาทั้งหลายจึงเห็นชัดลงอย่างนี้
แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่หรือดูถูก ทาน ศีล ภาวนา ที่ว่ามาในเบื้องต้นนั้น
อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก อันนั้นท่านบัญญัติไว้เพื่อเป็นสาธารณะทั่วไป
ที่พูดว่ารวมเป็นอันเดียวอยู่ ณ ที่เดียวนั้น พูดเฉพาะเรื่องการภาวนาต่างหาก




- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


จากหนังสือ “ธรรมะปฏิบัติ สนทนาธรรมระหว่างอาจารย์และศิษย์”
คัดจาก อนุสรณ์เนื่องในการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์
และเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์
ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
วันเสาร์ที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP