ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

มหานามสูตร ว่าด้วยเจ้ามหานามทูลถามคุณสมบัติอุบาสก


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๑๑๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธาราม
ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ในแคว้นสักกะ
ครั้งนั้น เจ้าศากยะพระนามว่ามหานาม
เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วประทับ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอ บุคคลชื่อว่าเป็นอุบาสก
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มหานาม เมื่อใดแล
บุคคลถึงพระพุทธเจ้า ถึงพระธรรม ถึงพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ ชื่อว่าเป็นอุบาสก.


ม. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้มีศีล.


ภ. มหานาม เมื่อใดแล อุบาสกงดเว้นจากปาณาติบาต
งดเว้นจากอทินนาทาน งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร งดเว้นจากมุสาวาท
งดเว้นจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นทั้งแห่งความประมาท
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้มีศีล.


ม. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น.


ภ. มหานาม เมื่อใดแล ตัวอุบาสกเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศีล ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยจาคะ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อเห็นภิกษุ แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการเห็นภิกษุ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อฟังสัทธรรม แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการฟังสัทธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้ทรงจำธรรมที่ตนฟังแล้วได้
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นเพื่อการทรงจำธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้พิจารณาอรรถแห่งธรรมที่ตนฟังแล้ว
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการพิจารณาอรรถแห่งธรรม ๑
ตนเองรู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรม ๑
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น.


ม. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนและเพื่อประโยชน์ผู้อื่น.


ภ. มหานาม เมื่อใดแล ตัวอุบาสกเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
และชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล และชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศีล ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ และชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยจาคะ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อเห็นภิกษุ และชักชวนผู้อื่นในการเห็นภิกษุ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อฟังสัทธรรม และชักชวนผู้อื่นในการฟังสัทธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้ทรงจำธรรมที่ตนฟังแล้วได้ และชักชวนผู้อื่นเพื่อการทรงจำธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้พิจารณาอรรถแห่งธรรมที่ตนฟังแล้ว
และชักชวนผู้อื่นในการพิจารณาอรรถแห่งธรรม ๑
ตนเองรู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรมแล้วปฏิบัติธรรมควรแก่ธรรม
และชักชวนผู้อื่นในการปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรม ๑
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
และเพื่อประโยชน์ผู้อื่น.


มหานามสูตร จบ



(มหานามสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๗)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP