ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ฝึกสมาธิอย่างไรให้จิตรวม



ถาม – เราจะฝึกสมาธิอย่างไรให้จิตรวมครับ


คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับในหมู่นักปฏิบัตินะครับ
เพราะว่าคนจะคาดหวังว่าทำสมาธิแล้วน่าจะได้สมาธิดีๆ น่าจะได้ฌาน
ทีนี้คือฝึก โอเค มีแนวทางฝึก ต่อให้ถูกต้อง
แต่ถ้าหากว่าประพฤติปฏิบัติตัวยังไม่ได้ ยังไม่ใช่
อย่างไรมันก็ไม่รวมนะ



อย่างบางคนได้แนวทางที่จะฝึกอานาปานสติอย่างถูกต้องไปแล้ว
รู้แล้วว่าลมไม่เที่ยง เดี๋ยวก็เข้า เดี๋ยวก็ออก เดี๋ยวก็ยาว เดี๋ยวก็สั้น
แต่จิตมีความวิ่งพล่านอยู่ มีความอยากไขว่คว้า
หารูปรสกลิ่นเสียงที่น่าต้องใจน่าสัมผัสมาเข้าตัว
มันก็มีความกระวนกระวาย มีความอยาก มีความงุ่นง่าน
มีความรู้สึกว่าจิตพุ่งไปทางโน้นทีพุ่งไปทางนี้ที
ไม่สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับลมหายใจได้อย่างมีความสุข
แค่นั้นมันก็เรียกว่าเป็นการปฏิบัติที่อย่างไรก็ไม่รวม
ถ้าคาดหวังว่าแค่เราปฏิบัติถูก ได้ครูบาอาจารย์ถูก แล้วจิตจะรวม
นี่มันก็เป็นความคาดหวังที่เพี้ยนจากความเป็นจริง
ที่ไม่ถูกต้อง ที่จูนไม่ติดกับความเป็นจริงแล้วนะ



ทีนี้ถ้าเราเข้าใจจริงๆ ว่าจิตรวมมันเกิดจากการที่เราปฏิบัติถูกวิธีด้วย
มีกรรมฐานที่ถูกต้องด้วย
แล้วก็มีการปฏิบัติตน คือมีการใช้ชีวิตประจำวันที่สอดคล้อง

ที่มีความวิเวก ที่มีความไม่เอาอะไร ที่มีความทิ้งไปเป็นที่ตั้งเป็นหลัก
ตรงนี้จะค่อยๆ เกิดความเห็นจากประสบการณ์ภายใน ว่า เออ มันเป็นไปได้
เพราะอะไร เพราะว่ายิ่งปฏิบัติไป จิตยิ่งไม่เอา
จิตที่ไม่เอา จิตที่ไม่คาดหวัง จิตที่ไม่มีอะไรอยู่ในใจ
มีแต่ความพอใจที่จะเห็นลมผ่านเข้าผ่านออก ผ่านเข้าผ่านออก
แล้วก็มีความอิ่ม มีความเต็มที่จะอยู่กับความว่าง
ณ ขณะของการเห็นลมหายใจ



มันเกิดความมีประสบการณ์ หรือปรากฏการณ์แบบใหม่ขึ้นมาทางจิต
บอกว่า เออ จิตมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันมีความว่างที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แล้วความว่างตรงนี้เนี่ยมันเริ่มรู้สึกนะว่ามีสภาพตั้งอยู่
ไม่ใช่ตั้งอยู่ด้วยการบังคับด้วยความคิด แต่ตั้งอยู่ด้วยลักษณะของมันเอง
ที่มีความว่าง มีความเบา มีความอิ่ม มีความเต็มอยู่อย่างนั้น
แล้วกระแสของจิตที่มันมีความอิ่ม มีความเต็มนะ
มันค่อยๆ อยู่ตัว มันค่อยๆ ทรงตัวนะ
เหมือนคนสามารถเลี้ยงตัวด้วยขาเดียวนิ่งๆ โดยไม่มีอาการเป๋เลย
มีความตั้งมั่น มีความอยู่กับสิ่งเดียว แบบเรียบง่าย แบบไม่คิดอะไรเลย
ไม่ได้มีความสำคัญมั่นหมายอะไรเลย



มันก็จะเห็นจากตัวกระแสของจิตนะว่า เออ มันค่อยๆ ผนึก
ค่อยๆ มีความสามารถที่จะทรงอยู่ด้วยการรวม รวมนี่ไม่ใช่อัดเข้ามานะ
ตรงกันข้าม มันมีความว่างจากภายในที่แผ่ออกไป
แล้วเวลาที่จิตมันรวม
มันรวมในลักษณะที่จิตของเรามันไม่ได้มามีความคาดหมาย
หรือว่ามีความนึกคิดว่าจงตั้งอยู่ในสภาพอย่างนั้นอย่างนี้
มันเป็นแม่เหล็ก คือเป็นธรรมชาติของแม่เหล็กที่รวมกระแสเข้ามา
แล้วแผ่ออกไป แผ่ออกไปไม่มีที่สิ้นสุด
รวมแบบที่มันไม่ได้มีความอยาก
มีแต่ความพร้อมตามธรรมชาติของจิต เขาจัดการของเขาเอง



เพราะฉะนั้นสรุปก็คือว่าฝึกอย่างไรให้จิตรวม
ฝึกอย่างที่ถูกทางถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าแนะนำนะ
แล้วก็มีการประพฤติปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันที่สอดคล้องด้วย

มีความวิเวก ไม่ใช่ยังหวังโน่นหวังนี่จะเอาแบบโลกๆ ด้วย
แล้วก็เอาดีทางธรรมด้วยนะ
ซึ่งคนปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่โดยเฉพาะฆราวาสนะ
เริ่มต้นขึ้นมาจะเหมือนกันหมดเลย โลกจะไม่ทิ้ง แล้วก็ธรรมนี่ก็จะเอาด้วย
จับปลาสองมือแบบเต็มกำเลย เต็มกำทั้งสองมือนี่เลย
แล้วก็จะเอาทั้งสองมือให้ได้
มันไม่ใช่วิสัยนะครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP