ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

ภาวนาสูตร ว่าด้วยภิกษุหมั่นเจริญภาวนา


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๖๘] ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่หมั่นเจริญภาวนา
แม้จะเกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอจิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ก็จริง
ถึงอย่างนั้น จิตของภิกษุนั้นก็หาหลุดพ้นจากอาสวะ

เพราะไม่ถือมั่นแต่ประการใดไม่ ข้อนั้นเพราะเหตุไร
ควรกล่าวได้ว่า เพราะไม่ได้เจริญ เพราะไม่ได้เจริญอะไร
เพราะไม่ได้เจริญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘.


เปรียบเหมือนแม่ไก่มีไข่อยู่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง
ไข่เหล่านั้น แม่ไก่กกไม่ดี ให้ความอบอุ่นไม่พอ ฟักไม่ดี
แม่ไก่นั้นแม้จะเกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอให้ลูกของเราใช้ปลายเล็บเท้า
หรือจะงอยปากเจาะกระเปาะไข่ พาตัวออกมาโดยสวัสดี ก็จริง
ถึงอย่างนั้น ลูกไก่เหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะใช้ปลายเล็บเท้า
หรือจะงอยปากเจาะกระเปาะไข่ พาตัวออกมาโดยสวัสดีได้
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะแม่ไก่กกไข่ไม่ดี
ให้ความอบอุ่นไม่พอ ฟักไม่ดี ฉันใด
ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่หมั่นเจริญภาวนา
แม้จะเกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอจิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ก็จริง
ถึงอย่างนั้น จิตของภิกษุนั้นก็หาหลุดพ้นจากอาสวะ
เพราะไม่ถือมั่นแต่ประการใดไม่ ข้อนั้นเพราะเหตุไร
ควรกล่าวได้ว่า เพราะไม่ได้เจริญ เพราะไม่ได้เจริญอะไร
เพราะไม่ได้เจริญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘.


ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุหมั่นเจริญภาวนาอยู่
แม้จะไม่เกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอจิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ก็จริง
ถึงอย่างนั้น จิตของภิกษุนั้นย่อมหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่น
ข้อนั้นเพราะเหตุไร ควรกล่าวได้ว่า เพราะเจริญ เพราะเจริญอะไร
เพราะเจริญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘.


เปรียบเหมือนแม่ไก่มีไข่อยู่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง
ไข่เหล่านั้น แม่ไก่กกดีแล้ว ให้ความอบอุ่นเพียงพอแล้ว ฟักดีแล้ว
แม้แม่ไก่นั้นจะไม่ตั้งความปรารถนาอย่างนี้ว่า
โอหนอ ขอให้ลูกของเราพึงใช้ปลายเล็บเท้า
หรือจะงอยปากเจาะกระเปาะไข่ พาตัวออกมาโดยสวัสดี ก็จริง
ถึงอย่างนั้น ลูกไก่เหล่านั้นก็สามารถใช้ปลายเล็บเท้า
หรือจะงอยปากเจาะกระเปาะไข่ พาตัวออกมาโดยสวัสดีได้
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะแม่ไก่กกไข่ดี
ให้ความอบอุ่นเพียงพอ ฟักดี ฉันใด
ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุหมั่นเจริญภาวนาอยู่
แม้จะไม่เกิดความปรารถนาขึ้นว่า
โอหนอ ขอจิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ก็จริง
ถึงอย่างนั้น จิตของภิกษุนั้นย่อมหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่น
ข้อนั้นเพราะเหตุไร ควรกล่าวได้ว่า เพราะเจริญ เพราะเจริญอะไร
เพราะเจริญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘.


เปรียบเหมือนรอยนิ้วมือ รอยนิ้วหัวแม่มือที่ด้ามมีด
ย่อมปรากฏแก่นายช่างไม้หรือลูกมือนายช่างไม้
แต่เขาไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้ด้ามมีดของเราสึกไปเท่านี้
เมื่อวานสึกไปเท่านี้ หรือเมื่อวานซืนสึกไปเท่านี้
ที่จริง เมื่อด้ามมีดสึกไป เขาก็รู้ว่าสึกไปนั่นเทียว ฉันใด
ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุหมั่นเจริญภาวนาอยู่
แม้จะไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้อาสวะของเราสิ้นไปเท่านี้
เมื่อวานสิ้นไปเท่านี้ หรือเมื่อวานซืนสิ้นไปเท่านี้
ถึงอย่างนั้น เมื่ออาสวะสิ้นไป ภิกษุนั้นก็รู้ว่าสิ้นไปนั่นเทียว.


เปรียบเหมือนเรือเดินสมุทรที่เขาผูกหวาย
ขันชะเนาะแล้วแล่นไปในน้ำตลอด ๖ เดือน ถึงฤดูหนาวก็ถูกเข็นขึ้นบก
เครื่องผูกประจำเรือตากลมและแดดไว้ เครื่องผูกเหล่านั้นถูกฝนชะ
ย่อมชำรุดเสียหาย เป็นของเปื่อยไปโดยไม่ยาก ฉันใด
ฉะนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุหมั่นเจริญภาวนาอยู่
สังโยชน์ย่อมระงับไปโดยไม่ยาก.


ภาวนาสูตร จบ



(ภาวนาสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๗)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP