จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

ความสำคัญของผู้นำ


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



256 destination



เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ที่ผ่านมาเป็นวันเลือกตั้งครับ
ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่ามีประชาชนได้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๖๕.๙๖%
ต่ำกว่าในปี ๒๕๕๔ ที่มีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๗๕.๐๓%
https://thestandard.co/thailandelection2562-24-march-65/
โดยการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรนี้ ย่อมมีผลต่อการเลือกผู้บริหารประเทศ
จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากต่อประเทศและพวกเราทุกคน


ในกรณีที่ได้ผู้นำไม่ดีแล้วย่อมจะนำพาหมู่คณะไปสู่ความพินาศได้
ในพระไตรปิฎกก็มีเล่าถึงกรณีตัวอย่างไว้นะครับ
ใน “อรรถกถา สมุททวาณิชชาดก” (พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก) เล่าว่า
ภายหลังจากที่พระเทวทัตได้ถูกแผ่นดินสูบไปสู่นรกอเวจีแล้ว
บรรดาสกุลอุปัฏฐากของพระเทวทัตซึ่งมีถึง ๕๐๐ ตระกูล
แม้ตระกูลเหล่าที่พากันเข้าข้างพระเทวทัต และด่าพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
ต่างก็พากันไปในอเวจีทั้งสิ้น พระเทวทัตได้ชักจูงตระกูล ๕๐๐ เหล่านั้น
ไปสู่นรกอเวจีด้วยประการฉะนี้


พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกับเหล่าภิกษุว่า มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น
ที่พระเทวทัตนำความพินาศใหญ่หลวงสู่พรรคพวก แต่ในอดีตก็เช่นกัน
โดยในอดีตกาลสมัยหนึ่ง มีครอบครัวช่างไม้จำนวน ๑,๐๐๐ ครอบครัว
ได้ถูกเจ้าหนี้ทวงถามหนี้สิน และไม่สามารถใช้คืนได้
จึงพากันต่อเรือแล่นไปในมหาสมุทร จนไปถึงเกาะที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง
มีผลาผลต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นเอง เช่น ข้าวสาลี อ้อย กล้วย มะม่วง ฯลฯ
ณ เกาะแห่งนั้น มีบุรุษเรืออับปางคนหนึ่งไปถึงเกาะนั้นก่อน
บุรุษเรืออับปางที่ไปถึงเกาะนั้นก่อน ได้แนะนำแก่ครอบครัวช่างไม้เหล่านั้นว่า
พวกท่านพากันมา ณ ที่นี้ด้วยบุญสมบัติของตน เกาะนี้เป็นเกาะอุดม
ในเกาะนี้คนไม่ต้องทำการงานด้วยมือตนเลยก็พากันเป็นอยู่ได้
ข้าวสาลีเกิดเองและอ้อยเป็นต้นในเกาะนี้ไม่มีที่สิ้นสุดเลย
แต่ว่าเกาะนี้มีเทวดาครอบครอง
พวกเทวดาเห็นอุจจาระและปัสสาวะของพวกท่านแล้ว พึงโกรธได้
โดยเหตุนั้น เมื่อจะถ่ายอุจจาระปัสสาวะ พึงขุดทรายแล้วก็กลบเสียด้วยทราย
ภัยในเกาะนี้มีเพียงเท่านี้อย่างอื่นไม่มี
พวกท่านพึงพากันไม่ประมาทเป็นนิตย์เทอญ


ครอบครัวช่างไม้ ๑,๐๐๐ ครอบครัวได้เข้าอาศัยอยู่ในเกาะนั้น
และได้มีช่างไม้ ๒ คน เป็นหัวหน้าคนละ ๕๐๐ ครอบครัว
ในหัวหน้าทั้งสองนั้น คนหนึ่งเป็นคนพาล อีกคนหนึ่งเป็นบัณฑิต
ในกาลต่อมา ครอบครัวเหล่านั้นแม้ทั้งหมดต่างอยู่กันอย่างสบายในเกาะนั้น
พากันมีร่างกายอ้วนพี และได้ทำเมรัยด้วยน้ำอ้อยมาดื่ม
พากันร้องรำเล่นประมาทไปด้วยอำนาจที่มัวเมา
และได้ถ่ายอุจจาระและปัสสาวะไว้ในที่นั้น แล้วไม่กลบ
ได้กระทำเกาะให้สกปรกปฏิกูล


เหล่าเทวดาโกรธว่า คนพวกนี้พากันทำสถานที่ของเราให้สกปรก
คิดกันว่า ต้องให้น้ำทะเลท่วมท้นขึ้นทำการล้างเกาะเสียเถอะ
พากันกำหนดวันไว้ว่า ในวันเพ็ญอุโบสถ วันที่ ๑๕ จากวันนี้
จะให้น้ำทะเลท่วมฆ่าพวกนี้เสียให้หมด


ครั้งนั้น ในกลุ่มแห่งเทวดาเหล่านั้น เทพบุตรองค์หนึ่งเป็นผู้ทรงธรรม
รู้สึกสงสาร จึงได้ทำเกาะทั้งหมดให้สว่างเป็นอันเดียวกัน
ยืนอยู่บนอากาศทางทิศเหนือ กล่าวแก่ครอบครัวช่างไม้เหล่านั้นว่า
เหล่าเทวดาโกรธพวกท่าน พวกท่านอย่าพากันอยู่ ณ ที่นี้เลย
เมื่อล่วงไปกึ่งเดือนแต่วันนี้ พวกเทวดาจักให้น้ำทะเลท่วมฆ่าพวกท่านเสียทั้งหมด
พวกท่านจงพากันหนีออกไปจากเกาะนี้เสียเถิด
เทพบุตรนั้นให้โอวาทแก่เหล่าช่างไม้อย่างนี้แล้ว ก็กลับไปสู่สถานที่ของตน


เมื่อเทพบุตรองค์นั้นไปแล้ว เทพบุตรอีกองค์หนึ่งซึ่งเหี้ยมโหด
คิดว่า พวกนี้จะเชื่อถือถ้อยคำของเทพบุตรองค์นี้และพากันหนีไปเสีย
เราต้องการห้ามการไปของพวกนี้ไว้ เพื่อให้ถึงความพินาศกันทั้งหมดเลย
จึงได้ทำเกาะทั้งหมดให้สว่างเป็นอันเดียวกัน
ยืนอยู่บนอากาศทางทิศใต้ และกล่าวแก่ครอบครัวช่างไม้เหล่านั้นว่า
เทพบุตรในทิศเหนือนั้น ไม่อยากให้พวกเธออยู่ที่นี่
พวกเธอไม่ต้องไปที่อื่นดอก พากันอยู่ที่นี่เช่นเดิมเถิด
คลื่นทะเลจะไม่เกิดท่วมเกาะใหญ่นี้
ท่านทั้งหลายอย่ากลัวเลย จงเบิกบานใจเถิด
จากนั้น เทพบุตรองค์นั้นก็ก็กลับไปสู่สถานที่ของตน


เมื่อเทพบุตรนั้นกลับไปแล้ว ช่างไม้ที่เป็นคนพาลได้แนะนำคนอื่น ๆ ว่า
ถ้อยคำของเทพบุตรในทิศใต้เป็นคำจริง เทพบุตรในทิศเหนือไม่รู้แจ้งภัย
ท่านทั้งหลายอย่ากลัวเลย จงเบิกบานใจเถิด
บรรดาช่างไม้ ๕๐๐ ครอบครัว ฟังแล้วเชื่อถือถ้อยคำของช่างไม้พาลชนนั้น


ฝ่ายช่างไม้บัณฑิตไม่ยอมเชื่อถือถ้อยคำของช่างไม้พาลชนนั้น
ได้แนะนำคนอื่น ๆ ว่า เทวดาเหล่านี้กล่าวผิดกัน
เทวดาตนหนึ่งกล่าวว่าจะมีภัย เทวดาตนหนึ่งกล่าวว่าปลอดภัย
เราทั้งหมดอย่าฉิบหายเสียเร็วพลันเลย
เราทั้งปวงจงมาช่วยกันทำเรือใหญ่ให้มั่นคงไว้พร้อมสรรพ
ถ้าเทพบุตรในทิศใต้พูดจริง เราจะไม่ละทิ้งเกาะนี้
แต่ถ้าหากว่าเทพบุตรในทิศเหนือพูดจริง
เราทุกคนพึงขึ้นสู่เรือ ข้ามไปถึงฝั่งโน้นโดยสวัสดี
พวกเราไม่พึงเชื่อถือง่าย ๆ ว่า คำของเทวดาตนแรกเป็นคำจริง
ไม่พึงเชื่อถือโดยง่าย ๆ ว่า คำของเทวดาตนหลังเป็นคำจริง
นรชนใดในโลกนี้เลือกถือเอาส่วนกลางไว้ได้
นรชนนั้นย่อมเข้าถึงฐานะอันประเสริฐ


หลังจากนั้น ช่างไม้บัณฑิตได้ชวนหมู่คณะของตนตระเตรียมเรือ
บรรทุกเครื่องอุปกรณ์พร้อมสรรพ พร้อมทั้งหมู่คณะพักอยู่ในเรือ
ต่อมาเมื่อถึงวันเพ็ญ คลื่นก็ซัดขึ้นจากท้องทะเลซัดล้างทั้งเกาะ
ช่างไม้บัณฑิตและครอบครัว ๕๐๐ ก็ปล่อยเรือและเดินทางไปได้โดยสวัสดี
ส่วนช่างไม้พาลชนก็ถึงความพินาศพร้อมกับครอบครัว ๕๐๐
http://www.84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=271625


ใน “อรรถกถา กปิชาดก” (พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก) เล่าว่า
ในสมัยหนึ่งในอดีตกาล พระโพธิสัตว์กำเนิดเป็นวานร
มีวานร ๕๐๐ ตัวเป็นบริวารอาศัยอยู่ที่พระราชอุทยาน
ฝ่ายพระเทวทัตก็กำเนิดเป็นวานร มีวานร ๕๐๐ ตัวเป็นบริวาร
และอาศัยอยู่ในพระราชอุทยานนั้นเช่นกัน
อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อปุโรหิตได้ไปที่พระราชอุทยานเพื่ออาบน้ำ
วานรเกเรตัวหนึ่งนั่งอยู่บนยอดเสาซุ้มประตูอุทยาน
ได้ถ่ายอุจจาระรดศีรษะของปุโรหิต
เมื่อปุโรหิตมองดูข้างบน วานรนั้นก็ถ่ายรดหน้าอีก
ปุโรหิตได้กล่าวขู่ต่อพวกวานรว่า เอาไว้ก่อนเถอะ
ข้าจะแก้มือพวกแกภายหลัง แล้วก็อาบน้ำอีก จึงได้จากไป


พวกวานรได้บอกพระโพธิสัตว์ถึงเรื่องที่ปุโรหิตผูกเวรและขู่พวกวานร
พระโพธิสัตว์ได้บอกให้วานรตั้งพันทราบว่า
ขึ้นชื่อว่า ในสถานที่อยู่ของคู่เวร ไม่ควรอยู่
ฝูงวานรทั้งหมดจงพากันหนีไปในที่อื่นเถิด
วานรพระโพธิสัตว์จึงได้พาบริวารของตนเข้าป่าไป
ฝ่ายวานรพระเทวทัตนั้นหัวดื้อไม่พาบริวารของตนหนีไป


อยู่มาวันหนึ่ง เกิดไฟไหม้โรงช้าง แล้วลามไปไหม้หลังช้าง
ครั้นพระราชาตรัสสั่งถามปุโรหิตว่า
อาจารย์ ช้างของเราเป็นแผลเปื่อยหลายเชือก
หมอรักษาช้างไม่รู้วิธีการรักษา อาจารย์รู้ยาอะไรบ้างหรือไม่?
ฝ่ายปุโรหิตกำลังพิจารณาหาอุบายแก้แค้นวานรอยู่
จึงได้กราบทูลว่า ให้ใช้มันเหลวของวานรจากพระราชอุทยาน
โดยฆ่าวานรที่พระราชอุทยาน แล้วนำเอามันเหลวมารักษาช้าง
พระราชาจึงได้รับสั่งให้พลธนูไปยิงวานร ๕๐๐ ตัวตายหมด


หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว วานรพระโพธิสัตว์ได้กล่าวคาถาว่า
ผู้จองเวรอยู่ ณ ที่ใด บัณฑิตไม่ควรอยู่ ณ ที่นั้น
ในที่มีคนจองเวร อยู่คืนเดียวหรือ ๒ คืน ก็เป็นทุกข์
คนที่เป็นหัวหน้าใจเบา เมื่อคนใจเบาคล้อยตาม เขาจะทำหน้าที่จองเวร
เพราะเหตุแห่งวานรตัวเดียว เขาได้ทำความย่อยยับให้วานรทั้งฝูง
ก็คนพาลสำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต บริหารหมู่คณะลุอำนาจความคิดของตน
คงนอนตายเหมือนวานรตัวนี้ฉะนั้น
คนโง่แต่มีกำลังบริหารหมู่คณะก็ไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์แก่เหล่าญาติ
เหมือนนกต่อ ไม่เป็นประโยชน์แก่นกทั้งหลายฉะนั้น
ส่วนคนฉลาดมีกำลังบริหารหมู่คณะดี เป็นประโยชน์แก่เหล่าญาติ
เหมือนท้าววาสวะเป็นประโยชน์แก่ทวยเทพชาวไตรทศฉะนั้น
อนึ่ง ผู้ใดเห็นศีล ปัญญาและสุตะ มีในตน
ผู้นั้นย่อมประพฤติประโยชน์แก่คนทั้ง ๒ ฝ่าย คือทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น
เพราะฉะนั้น ธีรชนควรชั่งใจดูตัวเอง
เหมือนชั่งใจดูศีล ปัญญาและสุตะฉะนั้นแล้ว
จึงบริหารหมู่คณะบ้าง อยู่คนเดียวเว้นการบริหารบ้าง
http://www.84000.org/tipitaka/attha/jataka.php?i=271028


จากสองเรื่องที่ได้ยกมาข้างต้น เราย่อมจะเห็นได้ว่า
ผู้นำไม่ดีย่อมนำพาหมู่คณะไปสู่ความพินาศได้
ในทางกลับกัน หากได้ผู้นำที่ดีแล้ว ก็ย่อมจะทำให้หมู่คณะปลอดภัย
ใน “จูฬโคปาลสูตร” (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์)
สอนว่า นายโคบาลที่มีปัญญาเขลา มิได้พิจารณาในสารทสมัย
มิได้พิจารณาฝั่งข้างนี้แห่งแม่น้ำคงคา
ให้ฝูงโคข้ามในสถานที่มิใช่ท่าไปสู่ฝั่งข้างโน้น
ครั้งนั้นแล ฝูงโคว่ายไปเข้าวนในกระแสกลางแม่น้ำคงคา
ถึงความพินาศในแม่น้ำนั้น


ส่วนนายโคบาลที่มีปัญญา พิจารณาในสารทสมัย
พิจารณาฝั่งข้างนี้แห่งแม่น้ำคงคา
ให้ฝูงโคข้ามในสถานที่เป็นท่าไปสู่ฝั่งข้างโน้น
โคที่เป็นพ่อฝูงนำฝูงข้ามไปก่อน
โคเหล่านั้น ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไปได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
จากนั้น จึงให้เหล่าโคที่มีกำลังและโคที่ฝึกไว้ข้ามไป
โคเหล่านั้น ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไปได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
จากนั้น จึงให้เหล่าโคหนุ่มโคสาวข้ามไป
โคเหล่านั้น ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไป ได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
จากนั้น จึงให้พวกลูกโคที่มีกำลังยังน้อยข้ามไป
ลูกโคเหล่านั้นว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไป ได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
ส่วนลูกโคเล็กที่เกิดในวันนั้น ก็ลอยไปตามเสียงโคเมียที่เป็นแม่
แม้ลูกโคนั้น ก็ว่ายตัดกระแสแม่น้ำคงคาขวางไป ได้ถึงฝั่งโดยสวัสดี
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=12&A=7247&Z=7322&pagebreak=0


ใน “ราโชวาทชาดก” (พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก) สอนว่า
ถ้าเมื่อโคทั้งหลาย ว่ายข้ามแม่น้ำไป โคหัวหน้าฝูงว่ายคด
เมื่อโคผู้นำฝูงว่ายคดอย่างนี้ โคทั้งหมดก็ย่อมว่ายคดไปตามกัน
ในมนุษย์ทั้งหลายก็เหมือนกัน ผู้ใดได้รับสมมติแต่งตั้งให้เป็นใหญ่
ถ้าผู้นั้น ประพฤติไม่เป็นธรรม ประชาชนนอกนี้ก็ประพฤติไม่เป็นธรรมไปตามโดยแท้
ถ้าพระราชาผู้เป็นใหญ่ไม่ตั้งอยู่ในธรรม รัฐก็ย่อมอยู่ไม่เป็นสุขทั่วกัน


ถ้าเมื่อโคทั้งหลาย ว่ายข้ามแม่น้ำไป โคหัวหน้าฝูงว่ายข้ามตรง
เมื่อมีโคผู้นำฝูงว่ายข้ามตรงอย่างนั้น โคทั้งหมดก็ย่อมว่ายข้ามตรงไปตามกัน
ในหมู่มนุษย์ทั้งหลายก็เหมือนกัน ผู้ใดได้รับสมมติแต่งตั้งให้เป็นใหญ่
ถ้าผู้นั้น ประพฤติเป็นธรรม ประชาชนนอกนี้ก็ย่อมประพฤติเป็นธรรมไปตามโดยแท้
ถ้าพระราชา ผู้เป็นใหญ่ตั้งอยู่ในธรรม รัฐก็ย่อมอยู่เป็นสุขทั่วกัน
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=3085&Z=3098&pagebreak=0



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP