จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

เจริญมรณสติ


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



248 destination



เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ผมได้เห็นข่าวหนึ่งเรื่องคุณลุงท่านหนึ่งอายุ ๖๖ ปี
โดยคุณลุงท่านนี้ทานเป็ดย่าง แล้วเป็ดย่างติดคอทำให้เสียชีวิต
https://mgronline.com/crime/detail/9610000120115
เห็นข่าวนี้แล้วก็ลองไปค้นดูข่าวอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
ก็ได้พบอีกหลายข่าวเรื่องทานอาหารแล้วก็ทำให้ติดคอเสียชีวิตได้


ยกตัวอย่างเช่น ตามข่าวในเดือนตุลาคม ๒๕๖๑
หนุ่มชาวจีนคนหนึ่งอายุ ๓๐ ปีได้มาเที่ยวเมืองไทย
และได้ทานผัดขาไก่ แล้วขาไก่ติดคอทำให้ถึงแก่ความตาย
https://www.one31.net/news/detail/4959
ตามข่าวในเดือนมีนาคม ๒๕๖๑
ชายอายุ ๖๐ ปีคนหนึ่ง ทานหมูกระทะแล้วไปนอนก็สำลักเสียชีวิต
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_788862
ตามข่าวในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐
ชายอายุ ๔๑ ปีคนหนึ่งทานขนมปังราดน้ำแดงแล้วติดคอตาย
https://www.thaich8.com/news_detail/34808
ตามข่าวในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
คุณยายอายุ ๙๙ ปีคนหนึ่งทานกล้วยน้ำหว้าแล้วติดคอตาย
https://www.dailynews.co.th/regional/554291
ตามข่าวในเดือนมีนาคม ๒๕๕๙
ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งทานกล้วยน้ำหว้าแล้วติดคอตาย
https://mgronline.com/local/detail/9590000032294
ตามข่าวในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘
ชายอายุ ๕๓ ปีคนหนึ่งทานข้าวกับภรรยาแล้วข้าวติดคอตาย
https://www.thairath.co.th/content/517703


กรณีทั้งหลายเหล่านี้ก็เป็นตัวอย่างว่า
ความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้อยู่เสมอ
แม้กระทั่งเวลาเราทานอาหารก็ตาม
เราก็อาจจะสำลักอาหารติดคอตายได้
ฉะนั้นแล้ว เราก็ไม่ควรประมาท แต่ควรหมั่นระลึกว่า
ความตายจะต้องมาถึงเราเป็นธรรมดา
หรือที่เรียกว่าการ “เจริญมรณสติ” นั่นเอง


ในพจนานุกรมพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ได้อธิบายว่า
“มรณสติ” แปลว่า “ระลึกถึงความตายอันจะต้องมีมาถึงตนเป็นธรรมดา
พิจารณาให้ใจสงบจากอกุศลธรรม เกิดความไม่ประมาท และไม่หวาดกลัว
คิดเร่งขวนขวายบำเพ็ญกิจ และทำความดี”
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%C1%C3%B3&original=1


ในการระลึกถึงความตาย หรือการเจริญมรณสตินี้
ยิ่งเราระลึกได้บ่อย ก็ยิ่งดีนะครับ
ใน “ปฏิปทาสูตรที่ ๓” (พระไตรปิฎก พระสุตตันตปิฎก
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต)
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอนเรื่องการเจริญมรณสติว่า
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า เราพึงเป็นอยู่ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่ง
พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก
ภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า เราพึงเป็นอยู่ตลอดวันหนึ่ง
พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก
ภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า เราพึงเป็นอยู่ครึ่งวัน
พึงมนสิการคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก
ภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาบริโภคบิณฑบาตมื้อหนึ่ง
พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก
ภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาบริโภคบิณฑบาตครึ่งหนึ่ง
พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมากหนอ
และภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า
เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาเคี้ยวข้าวได้ ๔-๕ คำแล้วกลืนกิน
พึงมนสิการคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านี้เรากล่าวว่าเป็นผู้ประมาทอยู่
เจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะช้า


ภิกษุทั้งหลาย ส่วนภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า
เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาเคี้ยวข้าวคำหนึ่งแล้วกลืนกิน
พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก
และภิกษุใดเจริญมรณสติอย่างนี้ว่า
เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาหายใจออกแล้วหายใจเข้า หรือหายใจเข้าแล้วหายใจออก
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านี้เรากล่าวว่าไม่ประมาทอยู่
ย่อมเจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะ
ภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เราทั้งหลายจักไม่เป็นผู้ประมาทอยู่ จักเจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะ
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=6680&Z=6768&pagebreak=0


ดังนี้แล้ว การเจริญมรณสติย่อมให้ประโยชน์มาก
นอกจากช่วยให้ใจสงบจากอกุศลธรรม
เกิดความไม่ประมาท ไม่หวาดกลัว
คิดเร่งขวนขวายบำเพ็ญกิจ และทำความดีแล้ว
ยังเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะอีกด้วย



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP