สารส่องใจ Enlightenment
ธัมมะในลิขิต ฉบับที่ ๔
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
(รวบรวมโดย คุณเอี๋ยน ธัมมัญญู จ.จันทบุรี)
ฉบับที่ ๔
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
๒๐ มิถุนายน ๒๔๙๙
การปฏิบัติธรรมทางจิต โปรดได้ค้นคิดในขันธ์ให้มาก
เรื่องมัคคสมังคีหรืออริยมรรคที่กล่าวถึงในฉบับก่อนนั้น
เป็นผลของงานซึ่งตัดกิเลสขาดไปเป็นตอนๆ ขอยกไว้
จะกล่าวถึงเรื่องงาน คือการดำเนินปฏิปทา
ซึ่งเราควรหยิบยกมาปฏิบัติให้พอดีแก่นิสัยวาสนาของเรา
นิสัยของคุณไม่ใช่นิสัยที่จะอยู่นิ่งๆ โดยอาการบังคับจิตไม่ให้คิดนึก
ที่ถูกควรค้นคว้าพิจารณาในขันธ์ภายนอกภายในด้วยปัญญาอยู่เสมอ
แต่ระวังความหมายรู้ล่วงหน้าไปก่อน จะเป็นการมักง่ายเกินไป
จะเสียทางปัญญาเรื่องอารมณ์
อดีตอนาคตไม่ควรโน้มน้าวมาสู่ใจที่บริสุทธิ์อยู่ในปัจจุบัน
จะทำจิตซึ่งตั้งอยู่ในปัจจุบันอันบริสุทธิ์ให้ขุ่นมัว
อดีตอนาคตไม่ใช่ตัวกิเลสและบาปธรรม ไม่ใช่ตัวนรก สวรรค์ และนิพพาน
ดวงจิตที่รู้อยู่ในปัจจุบันนี้เองจะเป็นดีเป็นชั่ว
ในเมื่อเราปล่อยไปคว้าอารมณ์ทำให้เป็นอดีตอนาคตขึ้น
ตัวปัจจุบันเลยหลงหลักที่ถูกแท้
จิตซึ่งรู้อยู่ในปัจจุบันไม่ได้ไปทำเสียหายชั่วร้ายอะไร
มีแต่การชำระตนอยู่ด้วยปัญญา
แม้ว่าท่านพระอริยเจ้า ในคราวท่านหลงท่านก็ทำบาป
แต่เมื่อรู้ตัวแล้วท่านพยายามละโดยปัจจุบัน ก็หลุดพ้นได้อย่างทันตา
ภพก่อนเราจะเคยทำดีทำชั่ว แต่เราจำไม่ได้ก็ไม่เดือดร้อน
ตกลงคนเราร้อนก็เพราะสัญญาความจำของตนเอง
หากว่าขณะใดเราลืม มิได้เอาใจใส่ที่เราเคยเดือดร้อน
ขณะนั้นเราก็สบายเป็นธรรมดาของจิตไปเสีย
ที่เล่ามานี้คือโทษของอดีตที่เราไม่สำรวม แล้วปล่อยให้คิดตามอำเภอใจ
ดังนั้น ความผิดหรือถูกมีทุกคน
แต่เวลานี้เราไม่ทำและไม่ตั้งใจจะสั่งสมเก็บเอาไว้
เราตั้งใจจะบำเพ็ญหรือสั่งสมเก็บเอาไว้เฉพาะธรรมที่เป็นปัจจุับัน
อันสัมปยุตด้วยปัญญาเครื่องแก้ไขกิเลสและบาปธรรมอันเป็นทางพ้นทุกข์เท่านั้น
ดังนั้น สิ่งใดที่เกิดขึ้นในจิตซึ่งเป็นฝ่ายนิวรณ์
เราพึงทราบด้วยปัญญาทันทีว่าสิ่งนั้นคือมายาของจิตเอง
ไม่ใช่บาปกรรมมาจากอื่นที่ไหนเลย
การอบรมจิตจึงต้องรู้มายาของจิต
ไม่อย่างนั้นจะหลงกลมายาของจิต หาความบริสุทธิ์ไม่ได้เลย
เมื่อเรารู้มายาของจิตที่หลอกลวงเราทุกอย่างด้วยปัญญาแล้ว
จิตจะไปหามายามาจากไหนอีก
เหมือนเรารู้กลอุบายของคนที่จะมาหลอกลวงเรา
เราไม่เชื่อเขาแล้ว เขาจะต้มเราได้ที่ไหน
อันนี้ก็ฉันนั้น เมื่อกำลังสติปัญญารู้ทันความปรุง ความคิด หรือความหมายอยู่แล้ว
อาการเหล่านี้ก็ค่อยหมดมายาไปเอง
จิตเมื่อได้สติกับปัญญาเป็นพี่เลี้ยง
คอยสอดส่องความชั่วร้ายหมายโทษมิให้เกิดขึ้นได้
จิตก็จะนับวันผ่องใสบริสุทธิ์ไปเอง
นี่แหละคุณทั้งสอง อุบายเครื่องแก้ทุกข์ให้พ้นได้ในปัจจุบัน
ไม่ต้องไปคำนึงคำนวณถึงอำนาจวาสนาที่ไหน
การชำระใจให้บริสุทธิ์อยู่ทุกเมื่อด้วยสติปัญญามิได้ขาดวันขาดคืน
ห้วงน้ำในมหาสมุทรก็นับวันจะตื้นขึ้นทุกที
ความดีนับวันมากล้น ก็พ้นได้ตามใจหวัง เอวํ โปรดได้พิจารณาด้วยปัญญา
ขอให้พากันสนใจ สมบัติใหญ่ได้แล้วกินไม่รู้จักหมดสิ้น
แม้แผ่นดินหนาสองแสนสี่หมื่นโยชน์จะหมดไป
สมบัติใหญ่เรายังคงที่ไม่แปรผัน เป็นของอัศจรรย์เหลือโลก
โชคเรามีจึงได้เกิดมาพบศาสนา มีศรัทธาได้หว่านพืชอย่าได้จืดจาง
จงพยายามปล่อยวางด้วยปัญญา.
บัว
< Prev | Next > |
---|