วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

ม่านมนตรา ๙


Literature

โดย ชลนิล

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

ชั่วเวลาไม่นาน มรรคาก็ขับรถตามคุณธมเข้าไปยังโรงแรมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศเขามากนัก สองชายต่างวัยนั่งคุยกันในห้องอาหารของโรงแรม ทั้งคู่กำลังคอยคนที่นัดไว้ มรรคาไม่รู้ว่าคือใคร

หลังเกิดเรื่องคราวนั้น มัคทำยังไงกับเจ้าพ่อ แล้วก็ศาลนั้นล่ะ

ผมนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ครับ แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร คนที่เข้าไปตัดไม้ยังเจอดีเหมือนเดิม ผมทำได้แค่จัดการกับพื้นที่ส่วนอื่นก่อน ส่วนศาลนั้น หลังจากที่ผมรื้อไปแล้ว ก็สั่งห้ามชาวบ้านเข้าไป ประกอบกับทางเราเริ่มงานปรับปรุงพื้นที่รอบๆ ด้วย เลยไม่มีใครกล้าเข้าไปวุ่นวาย

แล้วเราจะปล่อยดงไม้สนธยาไว้อย่างนั้นหรือ คุณธมถาม

ผมยังคิดไม่ตกเลยครับ มรรคาตอบตามตรง

ลองวิธีของลุงไหม นัยน์ตาคุณธมฉายแววหมายมาด จนชายหนุ่มประหลาดใจ

อ้อ มาแล้ว เสียงอุทานของคุณธมทำให้มรรคาหันกลับไปมองตรงประตูทางเข้า และสายตาสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่ง

หญิงสาวคนนั้นนับว่าสูงเด่นกว่าสตรีทั่วไป ร่างเพรียวสมส่วน สวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าหม่น เส้นผมยาวเหยียดตรง ถูกรวบและมัดไว้ด้านหลังเรียบร้อย นัยน์ตาโตลึก แลตรงมายังสองชายต่างวัย

มรรคา นี่คุณพันเกลียว คุณธมแนะนำ ชายหนุ่มก้มหน้าทักทาย

สวัสดีครับ หญิงสาวก้มหน้ารับในลักษณะเดียวกัน ดวงตาลึก จ้องชายหนุ่มเขม็ง และชั่วแวบคล้ายจะแลเลยไปเบื้องหลัง ราวกับ เห็น อะไรบางอย่าง

หลังจากนั่งประจำที่และสั่งอาหารเรียบร้อย คุณธมจึงเริ่มพูดเป็นทางการ

คุณพันเกลียวจะช่วยหลานได้ มรรคาชะงัก

เรื่องนั้นหรือครับคุณลุง น้ำเสียงของชายหนุ่มแสดงว่าไม่เชื่อถือ

คุณเชื่อไหมคะ คำพูดเรียบๆ ไร้ความรู้สึกของหล่อน ทำให้เขานิ่งอั้น

ถ้าคุณไม่มีความเชื่อต่อดิฉัน พันเกลียวมองปฏิกิริยาของชายหนุ่มก่อนพูดต่อ เราคงร่วมงานกันยาก

ขอโทษครับ มรรคาตั้งสติได้ ผมทราบว่าคุณคงรู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมดจากลุงผมแล้ว และการที่คุณมาที่นี่ ก็แสดงว่าคุณมั่นใจที่จะทำงานชิ้นนี้

คุณธมมองหนุ่มสาวทั้งสองอย่างขันๆ แกมประหลาดใจ พันเกลียวกับมรรคามีลักษณะหนึ่งที่คล้ายกัน คือความเฉยเมยต่อคนแปลกหน้า และชอบซ่อนสีหน้า อารมณ์ของตนไว้ลึกเร้น

เรื่องเจ้าพ่อ...มัคคิดจะจัดการยังไง

มรรคามองพันเกลียว ใจผมอยากให้เราต่างคนต่างอยู่ นี่ผมพูดในลักษณะที่ว่าเขามีอยู่จริงนะครับ

นี่หลานยังไม่เชื่ออีกหรือ

ใบหน้ามรรคาฉายแววบางอย่างที่ยากเข้าใจ

สำหรับผม ความรู้สึกมันไม่ใช่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมบอกว่า ถ้ามีอยู่จริง ซึ่งถ้ามี ผมก็ไม่ติดใจสงสัยอะไร แต่อยากให้เราต่างคนต่างอยู่ ผมทำหน้าที่ของผม ส่วนเขาก็อยู่ของเขาไป ไม่น่าจะรบกวนกันได้

การที่เขาขัดขวางคุณ ก็แสดงว่าคุณกำลังรบกวนเขา พันเกลียวพูดเรียบๆ มรรคาสนใจ

ถ้าอย่างนั้น เจ้าพ่อ องค์นี้คงเป็นรุกขเทวดา ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกต

ดิฉันไม่เคยไปที่นั่น ยังไม่แน่ใจ

แต่เท่าที่ผมเคยรู้ รุกขเทวดาเขาจะอาศัยตามต้นไม้ใหญ่ๆ ไม่ใช่หรือครับ ซึ่งที่นั่นไม่มีเลยสักต้น

ถ้าดิฉันได้ไปที่นั่น ก็คงพอติดต่อกับเขาได้ หญิงสาวพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

คุณแน่ใจ เขาย้ำถาม

คุณบอกเองนี่คะ ว่า...ถ้าฉันมาที่นี่ ก็แสดงว่าฉันมั่นใจจะทำงานชิ้นนี้

ตกลง คำตอบรับสั้น คุณพร้อมจะไปได้เมื่อไหร่

พรุ่งนี้คงได้

งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณ เขาพูด

ไม่ต้อง พันเกลียวขัด ฉันจะไปที่ออฟฟิศของคุณเอง

มรรคามองคุณธมเชิงหารือ

ตามใจคุณพันเกลียวเธอเถอะ นี่เป็นข้อสรุป

ระหว่างที่พันเกลียวขอตัวไปเข้าห้องน้ำ มรรคาจึงมีโอกาสถามคุณธมเกี่ยวกับตัวหญิงสาว

คุณลุงรู้จักเธอได้ยังไงครับ

สุณีเขาแนะนำผ่านทางป้าแกมา คุณธมตอบ

คุณอาสุณีเองหรือครับ เขานึกสงสัย ขอโทษเถอะครับคุณลุง เราเชื่อเธอได้แค่ไหน

ลุงยิ้ม ตบไหล่หลานชายเบาๆ

ดูฝีมือของเธอก่อนเป็นไง

ครับ เขาได้แต่รับคำ

หลังอาหาร คุณธมให้หลานชายไปส่งพันเกลียว แต่หญิงสาวขัดด้วยเสียงเรียบๆ

ไม่จำเป็นค่ะ ดิฉันมีงานต้องทำอีก

คุณจะไปแถวไหน บ่ายนี้ผมว่าง เขาพูดด้วยความจริงใจมากกว่าตามมารยาท

พันเกลียวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะบอกสถานที่สั้นๆ

แถวนั้นใกล้ๆ บ้านผม ดีเหมือนกัน ผมส่งคุณแล้วจะได้กลับบ้านเลย เขาบอกง่ายๆ หญิงสาวไม่คัดค้าน

ถนนยามบ่ายคลาคล่ำไปด้วยรถนานาชนิด แดดจ้าราวจะแผดเผาทุกสรรพชีวิตที่ตกคลั่กอยู่บนกระทะสีเทาให้มอดไหม้กลายเป็นควันดำๆ

ในรถยังคงเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศชั้นดี มรรคาเหลือบมองผู้โดยสารสาวสองสามครั้ง เห็นหล่อนนั่งท่าเดิมไม่เปลี่ยนตั้งแต่ขึ้นมาบนรถ เขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้แปลก หล่อนดูจะเฉยชากับทุกเรื่อง สีหน้าแววตาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมาให้เห็น แต่ในความแปลก มรรคาเหมือนจะมองเห็นเงาสะท้อนของตัวอยู่ในท่าทางของหล่อน

ซอยไหนครับ ชายหนุ่มถามเมื่อรถผ่านการจราจรที่ติดขัดออกมาได้

หญิงสาวดูเศษกระดาษในมือก่อนตอบสั้นๆ

ซอยข้างหน้า มรรคาเริ่มแปลกใจ แต่ก็พยายามระงับสีหน้า จนรถมาถึงที่หมาย...

ขอบคุณที่มาส่ง พันเกลียวขยับตัวจะลง

เดี๋ยวก่อนก็ได้ มรรคาขัด ตามองบ้านที่หมายเขม็ง มือบีบแตรสั้นๆ เรียกคนในบ้าน

ไม่จำเป็นหรอก ดิฉันลงไปกดกริ่งเองสะดวกกว่า คำพูดสุภาพ ห่างเหิน

บอกได้ไหม ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ ชายหนุ่มถามระหว่างรอคนมาเปิดประตู

ฉันบอกแล้วว่า มาทำงาน

ขอโทษ เขาพูดเรียบๆ พยายามเก็บความแคลงใจ คุณทำงานอะไร

นัยน์ตาดำลึกมองเขาแน่วนิ่ง ท่าทางรำคาญใจ

ลุงคุณน่าจะบอกนะว่าฉันเป็นหลายอย่าง หมอดู นักพยากรณ์ กระทั่งหมอผี

คิ้วเข้มของชายหนุ่มเลิกขึ้นเล็กน้อย ประตูหน้าบ้านเปิดออก

งั้นคุณมาที่บ้านนี้ทำไม เขาถาม

เขาจ้างฉันมาไล่ผี คุณสงสัยอะไรหรือ คำตอบเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ

มันน่าให้ผมสงสัยมั้ยล่ะ ว่าทำไมผมถึงไม่รู้ ทั้งๆ ที่ผมเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้

หญิงสาวสบตาเขาอย่างไม่แปลกใจ หนำซ้ำ มรรคายังค่อนข้างแน่ใจว่า เขาได้เห็นรอยขำขันซ่อนเร้นในดวงตาหล่อน


เหล่าผู้รอคอยอยู่ในห้องรับแขกประกอบด้วยคุณสุณี ปีกแก้ว และป้าแฉล้ม ทันทีที่เห็นมรรคาเดินมาพร้อมกับพันเกลียว ทุกคนแทบตกตะลึงโดยเฉพาะคุณสุณี

สองหนุ่มสาวมองกลุ่มคนทั้งสามด้วยแววตาผิดกัน พันเกลียวพยักหน้าให้คุณสุณีเป็นเชิงทักทาย ส่วนมรรคานั้น มีแต่คนใกล้ชิดที่รู้ว่า...แววตาแบบนี้คือสัญญาณอันตราย

สวัสดีค่ะอาจารย์ คุณสุณีทักทายพันเกลียวแล้วหันไปทางหลานชาย เป็นยังไงจ๊ะตามัค ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านเร็วได้

มรรคาเบือนสายตาคมดุผ่านอาสาวอย่างเฉยเมย ปีกแก้วรีบเข้าไปกอดแขนเขาพลางยิ้มหวานประจบ

นั่งก่อนนะคะพี่มัค แดดข้างนอกร้อนมั้ย เดี๋ยวแก้วเอาน้ำเย็นๆ มาให้

ไม่ต้อง นานๆ ครั้งหรอก เขาถึงจะใช้เสียงเด็ดขาดเช่นนี้กับน้องสาว มีใครบอกได้ไหมว่า บ้านเราเชิญคุณพันเกลียวมาเพราะอะไร

ชายหนุ่มกวาดสายตาผ่านทุกคน ป้าแฉล้มรีบหลบตา คุณสุณีทำเป็นกุลีกุจอพา อาจารย์ นั่งพักบนเก้าอี้รับแขก

พี่มัคคะ ท่ามกลางพายุร้ายเช่นนี้ มีแต่ปีกแก้วที่พอจะชะลอแรงลมได้บ้าง

นั่งคุยกันก่อนนะคะ เด็กสาวเงยหน้ามองพี่ชายด้วยแววตาเว้าวอน นะคะพี่มัค

มรรคายอมนั่งลงแต่โดยดี

ทุกคนมีสีหน้าอึดอัด มองตาเกี่ยงกันให้อีกฝ่ายเป็นผู้เอ่ยปาก มีแต่พันเกลียวที่นั่งเฉย ไม่รู้สึกรู้สมราวกับตนเองเป็นผู้ดูละคร

คืออย่างนี้ค่ะพี่มัค ที่สุด หน้าที่ไกล่เกลี่ยตกเป็นของปีกแก้วจนได้

เวลาผ่านไป คำพูดและเหตุผลมากมายทยอยออกจากปากเด็กสาว โดยมีป้าแฉล้มและคุณสุณีเสริมเป็นช่วงๆ สีหน้าของมรรคาเฉยเมยจนยากจะคาดเดาความรู้สึก ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอย่างไร และจะทำอะไรต่อไป


จนกระทั่งปีกแก้วพูดจบ ชายหนุ่มเลื่อนสายตาจากเด็กสาวไปยังพันเกลียว เขาพยักหน้าเล็กน้อย พูดสั้นๆ

เชิญคุณทำงานตามสะดวก ผมจะคอยดู

นอกจากหญิงสาวผู้ถูกเอ่ยชื่อแล้ว ทุกคนต่างเบิกตาโพลง ตะลึงและคาดไม่ถึง

ชายหนุ่มลุกขึ้น ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ถ้าคุณต้องการเครื่องประกอบพิธีก็บอกคนที่จ้างคุณมาแล้วกัน

ลับหลังชายหนุ่ม คุณสุณี ป้าแฉล้ม และปีกแก้ว ต่างถอนใจพร้อมกันราวกับนัด

นี่ป้าไม่ได้หูฝาดไปนะคะคุณแก้ว แม่บ้านใหญ่ยังไม่เชื่อ

นั่นสิคะ แก้วยังสงสัยว่าพี่มัคโดนวางยาหรือเปล่า

ป้าเห็นลูกตาแกตอนแรกแล้วยังเสียวสันหลังไม่หาย กลัวพายุถล่ม แต่แหมไม่ยักมีอะไร

จริงสิคะอาจารย์ คุณสุณีนึกถึงพันเกลียว อาจารย์มาพร้อมกับตามัคได้ยังไงคะ

หญิงสาวมองคุณสุณีด้วยแววตาเฉยเมย

คุณธมพาฉันไปพบเขา พอได้ยินคำตอบ คุณสุณีทำท่าเหมือนนึกได้

จริงสิ แหม๋ฉันก็ลืมไปว่าพี่ฉัตรฉวีก็รู้จักอาจารย์เหมือนกัน พี่ธมเขาพาอาจารย์ไปหาตามัคเรื่องอะไรหรือคะ เสียงถามซ่อนความอยากรู้อยากเห็นไม่มิด

พันเกลียวมองคุณสุณีด้วยแววตาหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้หญิงช่างซักเช่นหล่อนต้องสงบปากทันที

อาจารย์ต้องการอุปกรณ์อะไรประกอบพิธีบ้างไหมคะ ป้าแฉล้มถาม อิฉันถามคุณสุณี เธอก็ว่าไม่รู้ อิฉันก็เลยเตรียมแต่พวกดอกไม้ ธูปเทียน...

แววตาของพันเกลียวอ่อนลง น้ำเสียงราบเรียบแต่ไม่กระด้าง

ขอขันเงินใบใหญ่สักใบ ถ้าไม่มีจะเป็นขันอะไรก็ได้ ขอให้ดีหน่อย ใส่น้ำสะอาดสักครึ่งขัน เป็นน้ำฝนได้ยิ่งดี ส่วนดอกไม้ ถ้ามีมะลิ จะเอามาก็ได้

ค่ะ...ค่ะ... แม่บ้านใหญ่รับคำ

ปีกแก้วรู้สึกทึ่งหญิงสาวตรงหน้า ดูๆ ไปเหมือนมีมรรคาอีกคน

อาจารย์คะ นี่ปีกแก้ว น้องสาวของตามัค คุณสุณีแนะนำ ปีกแก้วยิ้มและทักทายด้วยเสียงแจ่มใส

สวัสดีค่ะ ตอนแก้วได้ยินคุณอาสุณีเล่าให้ฟัง ยังคิดว่าคุณพันเกลียวอายุมากกว่านี้เสียอีก

พันเกลียวมองเด็กสาวด้วยแววตาพิศวง ชั่วแวบหนึ่งหล่อนมองเห็นรัศมีบางๆ ปกคลุมปีกแก้ว

...เด็กสาวคนนี้ ต้องมีเทพคุ้มครอง... หล่อนบอกกับตนเอง

ตอนที่พบมรรคาครั้งแรก พันเกลียวก็เห็นคลื่นพลังงานเจือจางคอยติดตามชายหนุ่ม คลื่นนั้นไม่อาจรวมเป็นรูปร่างชัดเจน แต่หล่อนกล้ายืนยันว่าคือวิญญาณสาวที่เห็นในอ่างน้ำมนต์

...พี่น้องคู่นี้มีอะไรแปลกๆ...

คุณพันเกลียวจะทำพิธีในห้องไหนคะ เมื่อทักทายแล้วไม่ได้คำตอบ เด็กสาวจึงถามต่อ

ห้องรับแขกก็ได้...แต่ขอให้เอาม่านลงหน่อย

ค่ะ ปีกแก้วรับคำ

อีกอย่างหนึ่ง พันเกลียวพูดแล้วหันไปทางคุณสุณี ตอนทำพิธีขอให้อยู่แค่ฉันกับเจ้าของบ้านก็พอ

ทำไมล่ะคะอาจารย์ ดิฉันก็อยากดูเหมือนกัน

ไม่จำเป็น นี่ไม่ใช่จำอวด คำปฏิเสธห้วนสั้น

ต้องให้พี่มัคลงมาด้วยใช่ไหมคะ ปีกแก้วถาม

คุณด้วย พันเกลียวเสริม ในใจคาดเดาได้หลายส่วน ดวงวิญญาณที่ปรากฏในบ้านน่าจะเกี่ยวข้องกับมรรคา หากเขาไม่ร่วมพิธี จะเรียกดวงวิญญาณออกมาได้อย่างไร ส่วนเด็กสาวผู้นี้มีเทพคุ้มครอง น่าจะมีผลดีต่อพิธีบ้าง

ถ้างั้นแก้วต้องไปบอกพี่มัคก่อน เด็กสาวยิ้มแห้งๆ ขืนไม่ไปตามเอง จ้างให้มรรคาก็ไม่ลงมา

จ้ะ...หนูแก้วรีบขึ้นไปตามพี่เขาก่อนเถอะ อาจะนั่งคุยเป็นเพื่อนอาจารย์เอง

ปีกแก้วรับคำแล้วเลี่ยงออกมา นึกขันท่าทางของคุณสุณี ที่จริงเด็กสาวรู้ว่าอาหญิงคนนี้ไม่ได้นิยมชมชอบหล่อนนัก แต่เพราะต้องการเอาใจมรรคาถึงทำดีด้วย คิดๆ ไปก็น่าสงสาร คุณสุณีไม่เหลือใครจริงๆ จึงยึดหลานชายคนเดียวไว้เป็นที่พึ่งยามแก่ คอยฝากผีฝากไข้

ความคิดสะดุดลงเมื่อมายืนหน้าห้องมรรคา เด็กสาวเคาะประตูเบาๆ แล้วส่งเสียงเข้าไปก่อน

แก้วเองค่ะ เข้าไปได้มั้ยคะ มีเสียงเบาๆ ดังลอดมาเหมือนเสียงคนคุยโทรศัพท์ ก่อนจะมีคำตอบ

ได้...


ห้องของมรรคาสว่างไปด้วยแสงแดดยามบ่าย ม่านถูกรูด หน้าต่างทุกบานเปิดออก มรรคาสวมกางเกงลำลองขาสั้นตัวเดียว เปลือยอกกว้างยืนพิงกรอบหน้าต่าง พูดโทรศัพท์เป็นการเป็นงาน

มีปัญหาอะไรอีกไหมลักษณา มรรคาพูดกับเลขา บ่ายนี้ผมไม่เข้าออฟฟิศ เรื่องที่จะให้เซ็นคุณวางไว้บนโต๊ะผมแล้วกัน พรุ่งนี้เช้าผมจะจัดการให้

ปีกแก้วนั่งรอบนเก้าอี้ แสงแดดจับใบหน้าคร้ามคมของชายหนุ่มตัดกับส่วนเงาดำของเสี้ยวใบหน้าอีกด้าน แผ่นอกกว้างแข็งแรง หน้าท้องเป็นลอนแกร่งบอกถึงความเอาใจใส่สุขภาพ เด็กสาวอมยิ้ม แอบชมในใจ มรรคาเป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีคนหนึ่ง แม้บางครั้งจะเหมือนรูปปั้นไปหน่อย ยิ่งยืนให้แสงสว่างตัดกับเงาดำเช่นนี้ ช่างไม่ต่างจากหุ่นปั้นที่ทรงพลังชิ้นหนึ่งจริงๆ

มรรคาเห็นปีกแก้วมองเขาแล้วอมยิ้ม จึงเลิกคิ้วถาม แต่ปากยังพูดต่อ

อย่าลืมนัดเวลาประสิทธิ์กับคนขับรถแล้วก็พวกนายช่างให้ดีล่ะ ผมคิดว่าจะออกเดินทางไม่เกินเก้าโมงครึ่ง

ชายหนุ่มสั่งงานอีกสองสามคำจึงวางหู

มีอะไรล่ะเรา ไม่ดูเขาไล่ผีหรือไง ปีกแก้วอมยิ้ม...หล่อนไม่เคยโดนมรรคาประชดมานานแล้ว

พรุ่งนี้พี่มัคจะไปไหนหรือคะ เด็กสาวถามแทนการตอบ

ไปทำงาน ตอบแค่นี้เป็นอันเข้าใจกัน

อ้าวไหนว่าจะไปวันนี้กันไงคะ

ถ้าพี่ไปวันนี้ก็อดดูพิธีไล่ผีที่บ้านเราน่ะสิ ดวงตาวาววับ ดุกึ่งจริงกึ่งเล่น แอบวางแผนกันดีนะ รู้ว่าวันนี้พี่ไม่อยู่ เลยพาหมอผีเข้าบ้าน

ใครว่า เด็กสาวเถียงตาใส พี่มัคต่างหากเป็นคนพาหมอผีเข้าบ้าน

ชายหนุ่มคร้านจะเถียง

แล้วมากับคุณพันเกลียวเขาได้ยังไงคะ หล่อนล้อเลียนกึ่งอยากรู้

อย่ารู้เลย ชายหนุ่มตัดบท แล้วมาหาพี่มีเรื่องอะไรมั้ย

ก็มาเชิญเจ้าของบ้านไปร่วมพิธีไล่ผีไงคะ

ไม่จำเป็น ใครเชิญมาก็ไปจัดการกันเอง เขาพูดเสียงห้วน

โกรธหรือคะ ปีกแก้วกอดแขนออเซาะ

มรรคาใช้นิ้วจิ้มหน้าผากหล่อนแรงๆ

มันน่าโกรธไหมล่ะ โดนทุกคนในบ้านรวมหัวกันหลอกแบบนี้

แหม... เด็กสาวเลื่อนมือมากอดรอบเอว ซุกตัวในอกกว้างแทน อย่าโกรธเลยนะคะ ทุกคนในบ้านเขากลัวพี่มัคกันจะตาย เขารู้ว่าพี่มัคไม่ชอบเรื่องนี้ ก็ได้แต่แอบทำกัน

ถึงกลัวพี่ แต่ก็กลัวผีมากกว่าใช่มั้ย คำถามล้อเลียน จนปีกแก้วรู้ว่าเขาอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว

ไม่หรอกค่ะ ยังไงพี่มัคต้องมาเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว ลงไปด้วยกันนะคะ ท้ายประโยคหยอดเสียงหวาน

มรรคาโอบไหล่เด็กสาวพาออกมายืนกลางห้อง

เอาเถอะ ถ้าพี่ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วจะตามลงไป

ปีกแก้วคลายมือ ผละจากอกชายหนุ่ม แล้วยืนยิ้ม ชูนิ้วก้อยตรงหน้าเขา

สัญญานะคะ

ชายหนุ่มรวบมือเล็กๆ นั้นไว้ บอกว่าไปก็ไปสิ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องสัญญาก็ได้

ค่ะ...แล้วแก้วจะรอ

ประตูปิด มรรคายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ชั่วครู่เขาหันกลับไปที่โต๊ะทำงาน ภาพ หลวงปู่ใหญ่ ยืนเด่นบนปกหนังสือกระแสใจโยงใยถึง

...ไปสิ...เสียงกระซิบเบาๆ แว่วเข้ามาในกึ่งกลางสมอง

(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP