สารส่องใจ Enlightenment

ละกามตัณหา



วิสัชนาธรรม โดย หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่




ปุจฉา - หลวงปู่ให้ละให้วางให้หมด อย่างบางคนเรารักเขา แล้วก็ละก็วาง
อย่างนี้เรียกว่าใจร้ายไหม



วิสัชนาจะนำมาหลายสิ่งมันเลยรก มันก็อยู่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนี่แหละ
ศีลห้าก็ประจำอยู่ที่นี่ ขาสอง แขนสอง หัวหนึ่ง
รูป เสียง กลิ่น รส ธรรมารมณ์ทั้งห้านี่
ก็ปล่อยให้เขาผ่านมาแล้วผ่านไปๆ เท่านั้นแหละ
ดีหรือร้าย ดีเขาก็ว่า ไม่ดีเขาก็ว่า ว่าอยู่เรื่อย เต็มโลก เต็มบ้านเต็มเมือง
เราก็วางเสีย อย่าเอาเข้ามาหมักไว้ในใจของตน
วางเสียตรงนี้แหละ ละเสียที่ใจนี้แหละ ไม่ได้ไปละที่อื่น
เอาใจนี่แหละละ มันจึงใช้ได้หนา

อย่าไปพกแผนที่ ดูแผนที่ ดูทิศดูทาง จำได้มากๆ พูดกันได้
แต่เอาไปทำเมืองไม่ได้หนา
มันต้องเข้ามาหากาย บัญญัติลงที่กายนี้ บัญญัติลงที่ใจนี้ รวมอยู่นี้
ละก็ละอยู่ในกายในใจนี้แหละ ไม่ได้ไปละที่อื่นหนา
อดีตอนาคตก็มาละอยู่ที่ใจนี้ มันนำมาก็คุบอยู่นั่นแหละ
คุบไปคุบมาก็เดือดร้อนแล้ว



ต้องรู้เท่ามันนี่แหละ ตัดก็ตัดอย่างนี้แหละ
เวลาที่เราทำจิตใจของเราให้สงบแล้ว มันก็สว่างหมด
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งอดีตอนาคต ให้นำออกให้หมด
ใจเราไปเก็บมาหมด อดีต อนาคต
แล้วก็ระลึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่เรื่อย
มันต้องทำความพอ เวลานี้เราจะทำจิตทำใจของเรา วางหมดน่ะแหละ
อะไรก็เห็นมาพอแล้ว ได้ยินมาพอแล้ว
ทางฝ่ายโลกก็ดี ได้ยินมาพอแล้ว อย่าเอาเข้ามาหมักไว้ในใจอีก



กงจักรอันใหญ่หลวงคือความเกิด แก่ เจ็บ ตาย
มันกำลังบดเราอยู่ มันเป็นของจริง

เราจะมัวไปหอบเอาอันโน้นอันนี้มา มันก็เป็นธรรมเมาเท่านั้นแหละ
อารมณ์ก็สัญญานี่แหละ สัญญาไปจำมันมา
ใจเรารับมันมา คิดไปคิดมามันก็เดือดร้อนอีก
เวลานี้เรามาทำความพอ อะไรๆ ทำให้มันพอ
หลงก็พอแล้ว โลภก็พอแล้ว โกรธก็พอแล้ว
อันนี้เป็นรากเป็นเหง้าของกิเลสตัณหาทั้งหลาย
ความพอใจก็เพราะตัณหา ความไม่พอใจก็เพราะตัณหานี่แหละ



กามตัณหานี่อุปมาเหมือนน้ำในแม่น้ำลำธาร
เล็กๆ น้อยๆ นับไม่ถ้วน ไหลลงสู่ทะเล ไม่มีเต็มสักที
อันนี้ฉันใดก็เหมือนกันนั่นแหละ มันก็ไหลลงไปของมันนั่นแหละ
อันนี้ตัณหามันไม่พอ
เราจะทำความพอใจอยู่เดี๋ยวนี้ ทำใจให้ผ่องใส
ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งอยู่ในสมาธิ
เราทำความพออยู่เดี๋ยวนี้ อย่าเอามาเว้าอีก
อดีตอนาคตหมดแล้ว ดับไปหมดแล้ว กวาดออกหมดแล้ว
ตัณหานี่มันไม่มีพอหรอก แต่เวลานี้เราจะนำเอาตัณหาความไม่พอนี้ออกเสีย
เวลานี้เราจะทำจิตทำใจของเรา ทำกายของเราให้รู้แจ้งในภายในของเรานี้
นอกนั้นปล่อยหมด วางอยู่ที่ใจนี้แหละ ละอยู่ที่ใจนี่แหละ บนสังขารนี่แหละ



สังขารมันปรุงมันแต่ง มันเกิดมันดับ
โทษทุกข์ภัย ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ว่าอยู่นี่แหละ
นี่มันว่าจากสังขารก๊า มันปรุงมันแต่งขึ้น เป็นโน่นเป็นนี่ อดีตอนาคตมันก็เป็นนี่
ตัดนี่แหละ จิตก็นิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้อยู่กับปัจจุบัน ละอยู่กับปัจจุบัน
ละที่จิตนี่แหละ จะไปละที่ไหน จะหอบเอาก็ไม่ได้หนา มันเสียเวลา
เวลานี้เราทำความพอใจให้หมด ทำจิตใจให้ผ่องใส
รู้แจ้งในมรรคในผล ในสมาธิปัญญา



ใจนี่แหละละอยู่นี่แหละ วางอยู่นี่แหละ จะไปวางที่ไหน
อดีตอนาคตก็วางอยู่ในใจนี่แหละ
เอาใจนี่แหละละ เอาใจนี่แหละถอน ถอนเอาๆ
รู้เท่าอารมณ์นี้แล้วมันก็วางหมด อารมณ์มันก็ใจ
ใจมันก็เป็นปกติ ตามันก็ปกติ หู จมูก ลิ้น กาย มันก็ปกติ
มีแต่รูป เสียง กลิ่น รส ธรรมารมณ์ทั้งห้า นี่ก็ปล่อยให้เขาผ่านไปผ่านมา
แล้วก็พอแล้ว ไม่ให้มาหมักไว้ในใจ ใจมันก็ไม่เดือดร้อน



ความโลภ ความโกรธ ความหลงเหล่านี้ เรามีอยู่ทุกอย่าง
กิเลสพันห้า ตัณหาร้อยแปด มันก็มีอยู่ที่นี่แหละ อย่าไปหอบเอามา
ความหลงมันก็มีอยู่ที่นี่ ความโง่ก็มีอยู่นี่ อวิชชาความมืดก็มีอยู่นี่
ของเราก็ถมเถไปแล้ว ไม่ต้องเอาของใคร
มันก็ต้องถอนไปเรื่อยๆ แหละ เอาใจนี่แหละถอน
ที่ร้ายก็ผ่านมา ที่ดีก็ผ่านมา ผ่านมาหมด
ใจนี้ก็เป็นกลาง มีอิสระเท่านั้น
อิสระแล้ว ใจนี้ก็หัวเราะ
ธรรมทั้งหลายที่ดีก็ดี ที่ชั่วก็ดี มันไหลมาจากเหตุ
ครั้นรู้เท่าเหตุแล้วมันก็ดับ อวิชชาก็ดับ รู้แจ้งเห็นจริงไปหมดละ
ใจมันสำคัญนี่ เหตุมันเกิดจากใจนี่แหละ
พอละก๊ะ ตั้งต้นหัดเอาละก๊ะ อธิษฐานไว้ เวลานี้ได้โอกาสที่ว่าง
เราจะทำจิตทำใจของเรา ทิ้งทั้งหมด
พอหมดแล้ว ผ่านมาพอแล้ว วางหมด



ถ้ามีสัจจะ จริงกาย จริงวาจา จริงใจนะ ไม่หลงไปตามเขา
อารมณ์ทั้งหลายที่ผ่านมา อดีตอนาคตก็เพราะอารมณ์
เราจำเอามาหมักไว้ในใจ มันก็เดือดร้อน
ทำความพอหมด ความโกรธ ความโลภ ความหลง
ที่มันเป็นเหง้าเป็นกกแห่งกิเลสทั้งหลาย
เราจะวางให้หมด ละให้หมด



กิเลสมันมาทุกด้าน ความพอใจ ความไม่พอใจ นั่นก็กิเลสนั่นแหละ
ความรักความชังนั่นก็กิเลส ตัวกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาไม่มีที่พอ พอละก๊า
เวลานี้เราจะทำใจให้พอทุกอย่าง ใจนี้เป็นผู้ละ เป็นผู้วาง ผู้ถอนหนา
ใจนี้แหละเป็นตัวเหตุ มันจำมาๆ แล้วก็มาคิดมาอ่าน
แล้วบางทีจะนั่งก็มาเจ็บหลัง เจ็บเอว ง่วงเหงาหาวนอน มันไม่ได้ธรรมนี่
จะว่าพุทโธๆ มันก็กลายเป็นธรรมเมาไปเสียแล้ว
ต้องละอยู่ในใจนี่ วางอยู่ในใจนี่ ทำความพอใจอยู่ในใจนี่แหละ
ตั้งความสัตย์จะทำจริง จริงกาย จริงวาจา จริงใจ เท่านั้นแหละ
เมื่อจิตมันละหมดแล้ว วางหมดแล้ว
มันก็มีแต่ดวงใจที่บริสุทธิ์เท่านั้นแหละ
แจ้งในพระนิพพานก็แจ้งนั่นแหละ แจ้งที่ใจที่เป็นปกติอยู่นั่นแหละ



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


จาก เทปของมูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ม.ร.ว. ส่งศรี เกตุสิงห์ ผู้ถอดเทป
ใน สุจิณโณรำลึก (๒๕๒๘) ใน จิตตภาวนา มรดกล้ำค่าทางพระพุทธศาสนา
รวบรวมโดย มูลนิธิหลวงปู่มั่นและชมรมคุณภาพชีวิต พิมพ์เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๓.



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP