ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

ชราสูตร ว่าด้วยความแก่


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๙๖๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ปราสาทของนางวิสาขามิคารมารดา
ในบุพพาราม ใกล้กรุงสาวัตถี.
ก็สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากที่หลีกเร้นในเวลาเย็น
แล้วประทับนั่งผินพระปฤษฎางค์ผิงแดด ในที่มีแสงแดดส่องมาจากทิศประจิมอยู่.
ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว
บีบนวดพระกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยฝ่ามือพลางกราบทูลว่า.


[๙๖๓] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้ว เวลานี้
พระฉวีวรรณของพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเมื่อก่อน
พระสรีระก็หย่อนย่นเป็นรอย พระกายก็ค้อมไปข้างหน้า
และความแปรปรวนของอินทรีย์ คือ พระจักษุ พระโสตะ พระฆานะ
พระชิวหา พระกาย ก็ปรากฏอยู่.


[๙๖๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อานนท์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
ชราธรรมย่อมมีในความเป็นหนุ่มสาว พยาธิธรรมย่อมมีในความไม่มีโรค
มรณธรรมย่อมมีในชีวิต. ผิวพรรณไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเมื่อก่อน
สรีระก็หย่อนย่นเป็นรอย กายก็ค้อมไปข้างหน้า
และความแปรปรวนแห่งอินทรีย์ คือ จักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย ก็ปรากฏอยู่.


[๙๖๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
ถึงท่านจะติความแก่อันเลวทราม
ถึงท่านจะติความแก่อันทำให้ผิวพรรณทรามไป
รูปอันน่าพึงใจก็คงถูกความแก่ย่ำยีอยู่นั่นเอง
แม้ผู้ใดพึงมีชีวิตอยู่ได้ ๑๐๐ ปี (ผู้นั้นเองก็ไม่พ้นความตายไปได้)
สัตว์ทั้งปวงมีความตายเป็นเบื้องหน้า
ความตายย่อมไม่ละเว้นอะไร ๆ ย่อมย่ำยีทั้งหมดทีเดียว.


ชราสูตร จบ



(ชราสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๑)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP