วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

ม่านมนตรา ๘


Literature

โดย ชลนิล

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

หนังสือค่อนข้างเก่า แม้ไม่ใช่ฉบับพิมพ์ครั้งแรก แต่เนื้อกระดาษบางส่วนเริ่มเหลือง ชายหนุ่มพลิกอ่านทีละหน้า เมื่อถึงตอนสำคัญ เขาจะจดหัวเรื่องไว้ในสมุด บางครั้งหยุดมองตัวหนังสือหากสายตาแลไกลสู่ความว่างเปล่าข้างหน้าราวกับจะมองหาภาพบางภาพที่คุ้นเคย ชินตา

พออ่านจบ เขาปิดหนังสือ ภาพหน้าปกปรากฏเด่นชัด...

...หลวงปู่ใหญ่...พระภิกษุในฝันมีตัวตนจริงๆ

มรรคาเอนหลังพิงเก้าอี้ นัยน์ตามองเพดาน บนสมุดที่ชายหนุ่มใช้จดหัวเรื่องสำคัญ ข้อความแรกที่เขียนคือ... ...มีเทวดามาใส่บาตร...

เนื้อหาในประวัติท่านช่วงนี้กล่าวถึงตอนออกธุดงค์สมัยหนุ่มๆ มีครั้งหนึ่งท่านธุดงค์ผ่านป่าลึก ต้องอดอาหารหลายวัน ฉันเพียงน้ำ ร่างกายแทบทนไม่ไหว...

ท่านเล่าว่า เช้าวันหนึ่ง ท่านเห็นชายหนุ่มใบหน้าหมดจด มีราศี แต่งกายคล้ายชาวบ้านป่า มายืนรอใส่บาตรท่าน ชายแปลกหน้าคนนั้น ใส่เพียงข้าวเปล่าสามทัพพี แต่เป็นข้าวที่มีกลิ่นหอมไม่เหมือนข้าวทั่วไป เมื่อได้ฉันหมดก็รู้สึกอิ่มพอดี มีแรงกำลังพอจะเดินออกจากป่ามาพบหมู่บ้านได้

ท่านไม่ได้บอกว่า ชายที่มาใส่บาตรท่านเป็นใคร แต่พวกลูกศิษย์มั่นใจว่าต้องเป็นเทวดาที่เลื่อมใสปฏิปทาของท่าน เพราะบริเวณนั้นไม่มีบ้านคนอยู่เลย ใครจะมาใส่บาตรได้

มรรคาใช้ปลายนิ้วไล้สันหนังสือเบาๆ เหตุการณ์ในประวัติท่าน ช่างตรงกับความฝันของเขา...แสงสีเงินแวบเข้ามาในใจ ภาพเลือนๆ ปรากฏอยู่ตรงหน้า ความฝันที่ชัดเจนจนเกือบเป็นความจริง...ความทรงจำที่หลับใหล กำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา

แต่แล้ว...

ก๊อก...ก๊อก...ๆๆ เสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงใสๆ พี่มัคคะ

แสงประหลาดหายไป ภาพตรงหน้าดับสนิท ทุกสิ่งคืนสู่สภาพเดิม มรรคากะพริบตา ในแวบนั้น เขาเกือบได้ เห็น อะไรบางอย่าง แต่ภาพนั้นกลับถูกกระชากหาย

แก้วเข้าไปได้มั้ยคะ เด็กสาวเรียกอีกครั้ง

พี่ไม่ได้ล็อกประตู เขาตอบออกไป

สิ้นเสียง ประตูเปิดออก ใบหน้านวลแอร่มทาแป้งขาวโผล่ขึ้นมายิ้มกว้าง มรรคาวางหนังสือลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นรับน้องสาว

ร่างโปร่งบางอยู่ในชุดกางเกงนอนตัวหลวม เส้นผมหยักสลวยปล่อยยาวเกือบถึงหลัง มือข้างหนึ่งถือนิตยสารผู้หญิงเล่มโต อีกข้างโอบเอวมรรคาไว้

มีอะไรจะมาอวดพี่จ๊ะ แค่มองเห็นนิตยสารเขาก็เดาได้

พี่มัคลองทายสิคะ เด็กสาวย่นจมูกถาม ชายหนุ่มโอบไหล่บอบบางหลวมๆ พาไปนั่งบนเตียง

ไม่ทายหรอก เดี๋ยวเราก็เฉไฉพี่ เขายีหัวหล่อนอย่างรู้ทัน

นี่ไง คงเพราะอยากอวดเต็มที่ ปีกแก้วจึงรีบเปิดนิตยสารฉบับนั้นออกมา

ชายหนุ่มก้มลงมองนิดเดียว เห็นรูปตนเองพิมพ์อยู่ด้านในประกอบเรื่องสัมภาษณ์ที่ปีกแก้วเขียน

ได้ลงจนได้นะเรา เขาส่ายหน้า ยิ้มขัน

แหมที่จริงแก้วบอกพี่มัคตั้งแต่ตอนที่อาจารย์เขาคัดเลือกงานของกลุ่มพวกแก้วแล้วนะคะ

จ้ะ ก็ได้ลงเร็วดี จำได้ว่าแก้วเพิ่งบอกพี่ไม่นานมานี่เอง เขาพูด

แล้วชอบมั้ยคะ เด็กสาวเบียดตัวซุกในอ้อมแขนเขา พร้อมกับเงยหน้าฉอเลาะ

มรรคาใช้ปลายนิ้วจิ้มจมูกรั้นเบาๆ

ไม่ชอบเลย พี่บอกตั้งนานแล้วว่าไม่ชอบให้ใครมาสัมภาษณ์

แหม เด็กสาวลากเสียงยาว เอียงศีรษะพิงไหล่กว้าง มือที่โอบเอวเขากระชับแน่นขึ้น พี่มัคนี่ ไม่ยอมให้กำลังใจกันบ้างเลย

มรรคาโยกศีรษะหล่อนเบาๆ ได้กลิ่นหอมของแชมพูสระผมกับกลิ่นแป้งเด็กจางๆ

ฮื่อ พี่ยอมให้สัมภาษณ์ก็ดีแล้วน่า บอกก่อนนะว่าครั้งนี้ครั้งเดียว

เจ้าค่ะ เด็กสาวตอบรับแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย แก้วได้ยินคุณนายแฉล้มเขาคุยว่าจะไปช่วยงานแซยิดของคุณลุงหรือคะ

ใช่มั้ง แกบอกพี่ตั้งนานแล้ว

แล้วพี่มัคเตรียมของขวัญอะไรให้คุณลุงคะ

ยังเลย แก้วช่วยหาแทนให้พี่ทีสิ

ปีกแก้วกำลังจะพูดต่อ แต่สายตาหล่อนปะทะกับสิ่งบางอย่างที่มุมห้องนอนของมรรคา

พี่...มัค เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแล้วมองไปยังมุมห้อง ชายหนุ่มมองตามแต่กลับไม่เห็นอะไร

มีอะไรจ๊ะ เขาแปลกใจมากกว่าสงสัย เด็กสาวกะพริบตาถี่ๆ มรรคาไม่เห็นหรือว่า เจ้าตัว จงใจให้หล่อนเห็นคนเดียว


ร่างร่างหนึ่งซุกตัวเงียบๆ ตรงมุมห้อง ปีกแก้วเห็น หล่อน ชัดเจน...หญิงสาวคนนั้น นั่งกอดเข่าหันหน้ามายังหล่อนและพี่ชาย เด็กสาวเห็นกระทั่งแววตาเศร้าที่มีร่องรอยเว้าวอนจากเธอ

น่าแปลกที่ปีกแก้วไม่กลัว หล่อน หนำซ้ำยังขยับตัวห่างจากมรรคาด้วยความกระดากต่อสายตาบุคคลที่สาม

แม้จะไม่มีใครพูดถึง แต่ปีกแก้วก็รู้ดีว่า หล่อนไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของมรรคา

เป็นอะไรไปจ๊ะ ชายหนุ่มถามอีกครั้ง เด็กสาวหันมาฝืนยิ้มให้เขา

ไม่มีอะไร ช่างเถอะค่ะ ปีกแก้วพยายามไม่สนใจ บางที หล่อน คนนั้นอาจนั่งอยู่นานแล้ว เพิ่งนึกอยากปรากฏตัวให้เห็นก็ได้...รอเดี๋ยวเถอะ ถ้าคุยเรื่องที่ตั้งใจมาถามมรรคาเรียบร้อยเมื่อไหร่ หล่อนจะลองติดต่อกับผู้แปลกปลอมดู

คืออย่างนี้ค่ะ เด็กสาวพยายามดึงการสนทนาให้เข้าสู่เรื่องเดิม แก้วเองก็ไม่รู้จะซื้ออะไรให้คุณลุงดี เร็วๆ นี้พี่มัคจะไปต่างจังหวัดมั้ยคะ แก้วว่าลองซื้อของแปลกๆ จากแถวนั้นมาก็ดีนะคะ

เอาอย่างนั้นหรือ เขาถามย้ำทั้งที่ไม่ได้คิดเป็นเรื่องสำคัญนัก คงได้มั้ง มะรืนนี้พี่ว่าจะไปดูงานปรับปรุงที่ที่เราจะทำโรงงานสักหน่อย ขากลับคงมีเวลาว่างดูให้

ที่ตรงนั้นอีกแล้วหรือคะ ปีกแก้วนิ่วหน้า หล่อนรู้สึกไม่ดีต่อที่แห่งนั้นจริงๆ เราตัดต้นไม้ได้แล้วหรือคะ

ยังหรอก มรรคาตอบ สีหน้ามีร่องรอยหนักใจเล็กน้อย พี่ให้เขาทำในส่วนที่ทำได้ไปก่อน บริเวณดงไม้นั้น คงต้องรออีกสักพัก ชายหนุ่มไม่อยากบอกน้องสาวว่า ขนาดเขาสั่งให้คนไปนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แล้ว แต่ทุกสิ่งยังเหมือนเดิม

เมื่อพูดถึงที่ดินอาถรรพณ์ หญิงสาวที่มุมห้องสะดุ้งเฮือก จนปีกแก้วสังเกตเห็น เด็กสาวค่อยๆ เบือนหน้ามองโดยไม่ให้มรรคาสะดุดใจ และส่งกระแสคำถามอย่างที่เคยคุยกับ คุณอา

เราจะคุยกันได้มั้ยคะ ร่างนั้นหันมามองปีกแก้ว แววตาหล่อนบอกถึงความแปลกใจ

ดึกแล้วยังไม่ไปนอนอีกหรือเรา

คะ ปีกแก้วชะงัก เสียสมาธิ

ดึกแล้ว ทำไมยังไม่รีบไปนอน มรรคาทวนคำถาม อีกวันสองวันก็จะเริ่มสอบแล้วไม่ใช่หรือ

เด็กสาวยิ้มแก้มใส นัยน์ตาเหลือบมองวิญญาณนิรนามชั่วแวบก่อนตอบชายหนุ่ม

ค่ะ งั้นคืนนี้แก้วขอนอนกับพี่มัคนะคะ

มรรคาเคาะหน้าผากเด็กสาว พร้อมกับหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี

ไม่ได้จ้ะ ไม่ใช่เด็กๆ นี่เรา เมื่อก่อนยังมาอ้างกับพี่ได้ว่ากลัวผีไม่กล้านอนคนเดียว แต่โตเป็นสาวอย่างนี้เลิกกลัวผีได้แล้ว

มรรคาไม่ทันสงสัยเหตุผลที่น้องสาวขอนอนด้วย ถ้ารู้เขาคงยิ่งแปลกใจ... ปีกแก้วไม่ได้กลัวผี แต่หล่อนต้องการติดต่อกับผีที่นั่งเฝ้าห้องเขาต่างหาก


ปีกแก้วกลับห้องอย่างขัดใจ วิญญาณนั้นมองส่งจนหล่อนออกนอกประตูโดยไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนตัว

คุณอาคะ เด็กสาวสงบใจ ส่งกระแสจิตเรียก

...เงียบ...

ปีกแก้วทิ้งตัวลงบนเตียง นอนหงายมองเพดาน ก่อนจะหลับตารวบรวมสมาธิ ส่งเสียงจากใจไปอีกครั้ง

คุณอา...ถ้ายังไม่ยอมคุยกับแก้วอีก คราวหน้าไม่ต้องพูดกันแล้ว

นี่เป็นไม้ตายที่เด็กสาวใช้ประจำ เมื่อไม่ได้รับการติดต่อ

เสียงหัวเราะเบาๆ กังวานมาในโสตประสาท...

เอ้า...อยากรู้อะไรก็ถามมา

แหม ทำไมเพิ่งติดต่อคะ เด็กสาวกระฟัดกระเฟียด

นี่เป็นคำถามหรือเปล่า

ปีกแก้วคิดจะต่อว่าต่อขานอีกสักพัก แต่คิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญต้องการคำตอบเร่งด่วน

คุณอาคะ วิญญาณผู้หญิงในห้องพี่มัคเป็นใคร แล้วเธอจะทำอันตรายพี่มัคหรือเปล่า

ผู้หญิงคนนั้นไม่มีวันทำอันตรายมรรคาได้หรอก คุณอาเลือกตอบคำถามหลัง

แล้วเธอไปนั่งเฝ้าพี่มัคอย่างนั้นทำไม แถมยังปรากฏตัวให้ป้าแล่มเห็นจนแกจะช็อกตาย

เขาก็มีเหตุผลของเขาสิ คำตอบเลี่ยงๆ

แล้วผู้หญิงคนนี้ใช่เงาดำๆ ที่แก้วอนุญาตให้เข้าบ้านหรือเปล่าคะ

ใช่

แสดงว่ายังมีอีกตัว แล้วเขาไปไหนล่ะคะ

ไม่เห็นก็แสดงว่าไม่อยู่ คำพูดเหมือนหยอกล้อ ไม่จริงจัง

คุณอา... ปีกแก้วจงใจส่งกระแสเสียงให้ลากยาว แก้วซีเรียสนะ อย่าพูดอะไรเป็นเล่นสิ

หมดคำถามแล้วใช่มั้ย คุณอาตัดบนเอาดื้อๆ

ปีกแก้วนึกไตร่ตรองเรื่องบางอย่าง ปัญหามีอีกมากมาย หากเจ้าตัวรู้เสียแล้วว่าผู้ตอบจงใจเลี่ยง

แก้วยอมให้คุณอาสุณีพาหมอผีเข้ามาในบ้านดีไหมคะ

รับปากกับแม่แฉล้มเขาแล้วไม่ใช่หรือ คำถามแทนการตอบ

ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ หล่อนถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

เสียงซึ่งไร้ที่มาเงียบไป จนปีกแก้วคิดว่าคงหยุดการติดต่อเสียแล้ว

คุณอา เด็กสาวลองเรียกอีกครั้ง

อะไรอีกล่ะ

แก้วสงสัยเรื่องกลีบดอกไม้ ที่คุณอาให้แก้วแอบใส่ในกระเป๋าพี่มัคน่ะมันหายไปไหนคะ

วันที่ปีกแก้วไปสัมภาษณ์มรรคา หล่อนได้รับกลีบดอกไม้สีแดงจากคุณอา พร้อมคำสั่งให้นำไปใส่ในกระเป๋าเสื้อของเขา โดยหล่อนไม่รู้ที่มาของกลีบดอกไม้และเหตุผลเช่นเคย

ดอกไม้นั่น เขาก็กลับไปยังที่เขาอยู่น่ะสิ

แล้วกลีบดอกไม้นั่นใช่ไหมคะที่ช่วยพี่มัคเอาไว้ ตอนเจออิทธิฤทธิ์เจ้าพ่อ

...ไม่มีคำตอบ...คราวนี้ปีกแก้วมั่นใจ...คุณอาไปแล้ว

เด็กสาวลุกขึ้น เอามือชันเข่า มองความมืดสีหมึกนอกห้อง หล่อนไม่เข้าใจว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นในบ้านที่สงบสุขมานานปี...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หล่อนต้องขออยู่เคียงข้างมรรคาตลอดไป

เมื่อปีกแก้วออกจากห้อง มรรคาจึงหันไปสนใจหนังสือบนโต๊ะอีกครั้ง ตะกี้เขาเกือบได้เห็นอะไรบางอย่าง...มันอาจเป็นภาพต่อเนื่องจากความฝันของเขาก็ได้ เขาอยากรู้ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร

จู่ๆ ขนบนแขนลุกเกรียวโดยไม่มีสาเหตุ เขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องอีกแล้ว ตรงมุมห้องเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังมองมาอย่างไม่วางตา เขาเหลียวมองเพื่อพบความว่างเปล่า...ทุกสิ่งปกติ

มรรคาคิดถึงเรื่องผีของป้าแฉล้ม...ใช่ว่าเขาจะปฏิเสธเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มยอมรับว่ามีบางสิ่งติดตามเขามา แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือใครและมีจุดประสงค์อย่างไร...

ที่สำคัญ...มันเกี่ยวกับความฝันของเขาหรือไม่...

ชายหนุ่มระบายลมหายใจแผ่วๆ ก่อนจะดับไฟเข้านอน...เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เขาสวดมนต์อย่างจริงจัง


ยายแก้ว! จะรีบไปไหนยะ เดินอ้าวๆ เชียว เสียงแหวๆ ของเพื่อนสนิทดังตามหลัง ขณะปีกแก้วลงจากตึกเรียน

กลับบ้านสิยะ เด็กสาวหันมาตอบ

อะไรกัน ไหนเมื่อเช้าตกลงกันว่า บ่ายนี้ไม่มีเรียน จะไปกินข้าวเที่ยงกับไอศกรีมกันไง

ปีกแก้วทำหน้ากระอักกระอ่วน เห็นเพื่อนๆ ลงมาสมทบอีกสองสามคน

แหม มะรืนเราก็จะสอบกันแล้ว ไม่รีบไปอ่านหนังสือกันบ้างเหรอ

หล่อนไม่ต้องมาทำเป็นเด็กขยันเรียนตอนนี้หรอกย่ะ ฉันรู้ดี พอโดนจับได้ปีกแก้วจึงยิ้มแห้งๆ

เอาน่าวันนี้ฉันเผอิญมีธุระ ต้องรีบกลับบ้าน ปีกแก้วพยายามพูด

ไม่ได้ เพื่อนที่เพิ่งมาถึงท้วงขึ้น เราตกลงกันว่าจะกินข้าวเที่ยงฉลองปิดคอร์สกัน แล้วจะได้นัดกันเรื่องไปเที่ยวหลังสอบเสร็จไง

ใช่ๆ แก้ว ตัวจะรีบกลับไม่ได้นะ เพื่อนอีกคนคะยั้นคะยอ

สาวน้อยมองหน้าเพื่อนซ้ายทีขวาที แล้วพยายามยิ้มหวานที่สุด

เพื่อนๆ จ๋า รู้ไหมว่าเพื่อนคนนี้มีธุระสำคัญมาก ต้องรีบกลับบ้านด่วนไม่ไปไม่ได้เด็ดขาด ไอ้เรื่องเที่ยวน่ะฉันยังไงก็ได้ ค่อยบอกกันวันสอบก็ยังทัน ฉันลุยได้ทุกที่อยู่แล้ว

อะไรวะ เมื่อเช้ายังตกลงกันอยู่ดีๆ เลย หนึ่งในกลุ่มเพื่อนๆ บ่น แต่ปีกแก้วไม่รอฟัง เด็กสาวจ้ำอ้าวอย่างรวดเร็ว จิตใจยิ่งรุ่มร้อน นึกบ่นไม่ขาดสาย

คุณอานะคุณอา พี่มัคจะยกเลิกการเดินทางก็ไม่บอกตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้พวกหมอผีมาถึงบ้านหรือยังก็ไม่รู้

วันนี้มรรคาบอกปีกแก้วว่าจะไปต่างจังหวัด ป้าแฉล้มจึงนัดคุณสุณีให้พาหมอผีมาที่บ้าน งานนี้ปีกแก้วไม่อยากร่วมด้วย ประกอบกับเป็นวันสุดท้ายของการเรียน หล่อนจึงปล่อยให้ป้าแฉล้มกับคุณสุณีจัดการกันสองคน คิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย แต่แผนการกลับล้มระเนระนาด เมื่อจู่ๆ คุณอา ส่งเสียงบอกสั้นๆ

วันนี้มรรคางดเดินทาง

ปีกแก้วตะลีตะลานรีบกลับบ้าน ทั้งๆ ที่รับนัดเพื่อนเอาไว้ พิธีกรรมน่าจะเริ่มตั้งแต่ก่อนเที่ยง หล่อนคงโทรศัพท์ไปห้ามไม่ทัน ทางที่ดีที่สุด คือรีบไปขัดตาทัพ หากมรรคากลับถึงบ้านก่อนพิธีเลิก

ขณะจ้ำไป หล่อนยังได้ยินเสียงหัวเราะขบขันแว่วมาเบาๆ


หลังเสร็จจากประชุมช่วงเช้า มรรคานัดคนขับรถกับลูกน้องอีกสองสามคนให้เตรียมตัวเดินทาง แต่แล้วกลับมีเหตุทำให้เขาไม่สามารถไปได้

สวัสดีครับคุณลุง มรรคายกมือไหว้ชายสูงวัย ท่าทางภูมิฐาน ที่ยืนรออยู่หน้าห้องประชุม

คุณธมคลี่ยิ้ม เดินเข้ามาตบบ่าหลานชายแรงๆ

เป็นยังไงบ้างฮึ ไม่ยอมไปเยี่ยมเยียนลุงบ้างเลยนะเรา เสียงกึ่งต่อว่ากึ่งสัพยอก

ขอโทษครับคุณลุง พอดีมันยุ่งๆ หลายเรื่อง ท่าทางเขาจริงจังจนอีกฝ่ายนึกขัน

ใช่เรื่องที่ดิน ที่จะไปตั้งโรงงานนั่นหรือเปล่า คำถามตรงจุด

ครับ คำตอบสั้น ได้ใจความ

จริงสิ ปัญหาเรื่องคน เรื่องของ เรายังพอแก้ไขได้ แต่มีปัญหากับสิ่งที่มองไม่เห็นนี่มันคงยาก

ประสิทธิ์คงรายงานคุณลุงแล้ว สีหน้าชายหนุ่มราบเรียบ

ทุกเรื่อง คำตอบคืน สั้น ตรง เฉกเช่นหลานชาย

คุณลุงเชื่อไหมครับ เขาถาม

คุณธมยิ้ม มือโอบบ่าหลานชาย เดินไป คุยไป

แล้วหลานเชื่อในสิ่งที่หลานเจอมั้ยล่ะ

ครับ ผมยอมรับว่าได้เห็นจริงกับตา แต่มันอาจไม่มีจริงก็ได้

สองลุงหลานหยุดเดิน

เอาอย่างนี้ เราไปกินข้าวกลางวันกัน เลื่อนการเดินทางวันนี้ไปก่อน ลุงอยากให้หลานได้รู้จักคนคนหนึ่ง

มรรคาพยายามมองหาสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนัยน์ตาของผู้อาวุโส หากที่เขาได้รับคือแววอาทรอย่างจริงใจ

ครับ เขารับปาก

(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP