ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

จูฬนีสูตร ว่าด้วยแสนโกฏิจักรวาล


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๕๒๐] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง
ได้กราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าได้สดับได้รับมา
เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อานนท์ สาวกชื่ออภิภู
ของพระผู้มีพระภาคเจ้านามว่าสิขี สถิตอยู่ในพรหมโลก
ใช้เสียงให้ ๑,๐๐๐ โลกธาตุทราบชัดได้
ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสามารถเพื่อจะใช้พระสุรเสียง
ให้โลกธาตุมีประมาณ เพียงไรทราบชัดได้พระพุทธเจ้าข้า.


พระผู้มีพระภาคเจ้า. อานนท์ พระอภิภูนั้นเป็นสาวก
พระตถาคตทั้งหลาย ใคร ๆ จะพึงประมาณมิได้.


แม้ครั้งที่ ๒ ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าได้สดับได้รับมา
เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อานนท์ สาวกชื่ออภิภู
ของพระผู้มีพระภาคเจ้านามว่าสิขี สถิตอยู่ในพรหมโลก
ใช้เสียงให้ ๑,๐๐๐ โลกธาตุทราบชัดได้
ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสามารถเพื่อจะใช้พระสุรเสียง
ให้โลกธาตุมีประมาณ เพียงไรทราบชัดได้พระพุทธเจ้าข้า.


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อานนท์ นั้นเป็นเพียงสาวก
ส่วนตถาคตทั้งหลาย ใคร ๆ จะพึงประมาณไม่ได้.


แม้ครั้งที่ ๓ ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าได้สดับได้รับมา
เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อานนท์ สาวกชื่ออภิภู
ของพระผู้มีพระภาคเจ้านามว่าสิขี สถิตอยู่ในพรหมโลก
ใช้เสียงให้ ๑,๐๐๐ โลกธาตุทราบชัดได้
ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสามารถเพื่อจะใช้พระสุรเสียง
ให้โลกธาตุมีประมาณ เพียงไรทราบชัดได้พระพุทธเจ้าข้า.


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อานนท์ เธอได้ฟังเพียงเรื่อง
๑,๐๐๐ โลกธาตุขนาดเล็กเท่านั้น


พระอานนท์กราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า บัดนี้ถึงเวลา
ข้าแต่พระสุคต บัดนี้ถึงเวลาแห่งเทศนาที่พระองค์จะพึงตรัส
ภิกษุทั้งหลายได้สดับพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วจักทรงจำไว้.


พระผู้มีพระภาคเจ้า. อานนท์ ถ้าเช่นนั้น เธอจงฟัง จงจำใส่ใจไว้ เราจักกล่าว.


ท่านพระอานนท์รับพระพุทธพจน์แล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง (เรื่องโลกธาตุ) ว่า
อานนท์ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์โคจรส่องแสงสว่างไปทั่วทิศ
ตลอดที่มีประมาณเท่าใด โลก (หนึ่ง) ก็ที่ประมาณเท่านั้น
มีโดยจำนวน ๑,๐๐๐ ในโลกจำนวน ๑,๐๐๐ นั้น
มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ภูเขาสิเนรุ อย่างละ ๑,๐๐๐ มีชมพูทวีป
อปรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหทวีปอย่างละ ๑,๐๐๐
มีมหาสมุทร มีมหาราช อย่างละ ๔,๐๐๐ มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราช ๑,๐๐๐
มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์ ๑,๐๐๐ มีเทวโลกชั้นยามา ๑,๐๐๐
มีเทวโลกชั้นดุสิต ๑,๐๐๐ มีเทวโลกชั้นนิมมานรดี ๑,๐๐๐
มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัตดี ๑,๐๐๐ มีพรหมโลก ๑,๐๐๐
นี้เรียกว่า สหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุ (โลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล).


สหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุเท่าใด โลกเท่านั้นคูณโดยส่วน ๑,๐๐๐ นี้
เรียกว่า ทวิสหัสสีมัชฌิมิกาโลกธาตุ (โลกธาตุกลางมีล้านจักรวาล).


ทวิสหัสสีมัชฌิมิกาโลกธาตุเท่าใด โลกเท่านั้นคูณโดยส่วน ๑,๐๐๐ นี้
เรียกว่า ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ (โลกธาตุใหญ่มีแสนโกฏิจักรวาล).


อานนท์ ตถาคตเมื่อจำนง พึงใช้เสียงให้ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ ทราบชัดได้
หรือใช้เสียงให้ทราบชัดได้เท่าที่จำนง.


พระอานนท์. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าพึงใช้พระสุรเสียง
ให้ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ ทราบชัดได้
หรือใช้พระสุรเสียงให้ทราบชัดได้เท่าที่จำนง อย่างไร


พระผู้มีพระภาคเจ้า. อานนท์ ตถาคตอยู่ในที่นี้
จะพึงแผ่รัศมีไปทั่วติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ
พอสัตว์ทั้งหลาย (ในโลกธาตุ) เหล่านั้น รู้จักแสงสว่างนั้น
ตถาคตก็จะพึงบันลือให้สัตว์เหล่านั้นได้ยินเสียงได้
อานนท์ ตถาคตพึงใช้เสียงให้ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ ทราบชัด
หรือใช้เสียงให้ทราบชัดได้เท่าที่จำนง ด้วยวิธีอย่างนี้แล.


เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว
ท่านพระอานนท์จึงได้กล่าวกะท่านพระอุทายีดังนี้ว่า
เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ
ที่เราได้พระศาสดามีฤทธิ์มากอย่างนี้ มีอานุภาพมากอย่างนี้.


เมื่อพระอานนท์กล่าวอย่างนี้ ท่านพระอุทายีจึงได้กล่าวกะพระอานนท์อย่างนี้ว่า
อาวุโสอานนท์ ท่านได้ประโยชน์อะไรในเรื่องนี้
หากว่าพระศาสดาของท่านมีฤทธิ์มากมีอานุภาพมากอย่างนั้น.


เมื่อท่านพระอุทายีกล่าวอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสกะพระอุทายีว่า
อย่าพูดเช่นนั้น อุทายี ถ้าอานนท์จะพึงเป็นผู้ยังไม่สิ้นราคะอย่างนี้มรณภาพไป
ด้วยความที่จิตเลื่อมใสนั้น เธอจะพึงได้ครองเทวราชสมบัติในเทวโลก ๗ ชาติ
ครองมหาราชสมบัติในชมพูทวีปนี้ ๗ ชาติ
แต่ที่แท้ อานนท์จักปรินิพพานในชาติปัจจุบันนี้.


จูฬนีสูตร จบ



(จูฬนีสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๔)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP