โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

ยามเมื่อรักจากไป


Aims Astro



ถาม – เมื่อไม่นานมานี้สามีของดิฉันได้เสียชีวิตลงหลังจากป่วยมานาน ที่จริงแล้วดิฉันพยายามทำใจมาตลอด แต่จนถึงวันนี้ก็ยังอดที่จะเศร้าอยู่ไม่ได้ ควรจะคิดอย่างไรดีคะ


ความทุกข์อันใหญ่หลวงประการหนึ่งของมนุษย์ คือการต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รักใคร่ ดังพุทธพจน์ว่า ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก เป็นทุกข์ ในเรื่องนี้ผู้ที่เคยประสบความสูญเสียย่อมซาบซึ้งถึงความโศกเศร้าอันสาหัสนี้ค่ะ


อย่างไรก็ตามการพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก ด้วย “การจากเป็น” คือเลิกรากันไปนั้น แม้จะมีหลายคนที่พบว่าเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจได้ ต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเยียวยาให้ทุกข์นั้นคลายลง แต่บ้างกลับพบว่ากลับไม่ได้ก่อทุกข์มากมายนัก เพราะยอมรับความจริงแล้วว่าเข้ากันไม่ได้ หรือทนทุกข์เพราะอีกฝ่าย หรือต่างคนต่างทุกข์เพราะกันและกันมานาน เลยกลายเป็นว่าการแยกทางกันไปอย่างสันตินั้น หมายถึงการปลดความทรมานออกจากใจ ในที่สุดแล้วกลับมีความสุขมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป


ส่วนความทุกข์เพราะพรากจากไปที่ดูจะสาหัสที่สุดก็คงไม่พ้น “การจากตาย” ผู้ที่ประสบเหตุนี้บางคนรู้สึกว่าเป็นการถูกบังคับให้จากทั้งที่ยังรัก แต่จำเป็นต้องยอมรับว่าจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว ในยามที่ผู้เป็นที่รักเหลือเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ ความทรงจำที่แสนดีดูเหมือนจะปรากฏอย่างชัดแจ้ง นั่นย่อมทำให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่สุดแสนจะอาวรณ์ เกิดความโทมนัสท่วมหัวใจ บ้างต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะอยู่กับความทรงจำแสนดีได้โดยไม่มีน้ำตาแห่งความอาลัย ยิ้มได้ยามระลึกถึงอดีตที่สวยงาม


เช่นเดียวกันกับคุณเกอร์ทรูด (นามสมมติ) ลูกค้าหญิงวัยกลางคน ซึ่งตรวจดวงกันมาหลายปีแล้วค่ะ ตามดวงแล้วเธอเป็นผู้ที่ทุ่มเทเพื่อครอบครัวและญาติพี่น้อง เป็นทั้งผู้หญิงทำงานและเป็นแม่ศรีเรือนที่เพียบพร้อม คุณเกอร์ทรูดมีสามี (ขอสมมตินามว่าคุณเฮอร์มานน์) ซึ่งเป็นคนเก่ง รับผิดชอบครอบครัวได้ดี การครองคู่โดยรวมเป็นไปอย่างราบรื่น ลูกค้ามีความมีความผูกพันกับคู่ครองของตนเองมาก มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นอย่างยิ่งค่ะ


ทว่าเมื่อหลายปีก่อนคุณเฮอร์มานน์ได้ล้มป่วย จนเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้จากไป คุณเกอร์ทรูดเล่าว่าจนถึงวันนี้ก็ยังคิดถึงและเศร้าโศกอยู่ ฟังแล้วก็ปลอบลูกค้าว่าเป็นธรรมดาที่คนเราย่อมต้องโศกเศร้าเพราะพลัดพรากจากผู้ที่เป็นที่รัก สามีและเธอครองคู่กันมากว่าสองทศวรรษก็ย่อมต้องมีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น แต่อย่าลืมว่าคนที่ตัดสินใจแต่งงานร่วมชีวิตกันในทางโลกนั้น ต่างก็หวังฝากฝีฝากไข้ได้ดูแลกัน ปรารถนาให้ความรักยืนยาวตราบลมหายใจสุดท้าย ดังที่เธอและสามีได้ปฏิบัติต่อกันมา แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายจากไปก่อน แต่ก็ด้วยความตายมาพรากอันเป็นเรื่องสุดวิสัย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาคุณเกอร์ทรูดได้ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดูแลสามีจนนาทีสุดท้ายของชีวิต


ในเรื่องของการดูแลกันนี้ ลูกค้าหญิงไม่เพียงดูแลทางกายเท่านั้น แต่ได้ช่วยอย่างยิ่งในทางใจ กล่าวคือยามที่คุณเฮอร์มานน์เจ็บป่วยนั้น ทั้งสองตลอดจนสมาชิกในครอบครัวได้หมั่นสร้างกุศลหลายอย่าง ทั้งการสวดมนต์ ทำทาน รักษาศีล ตลอดจนการเจริญสติ ว่าไปแล้วคนเราเมื่อมีโรคภัยไข้เจ็บมาเยือนก็เหมือนการเตือนว่าเวลาลดน้อยลงไปทุกขณะ ทำให้รีบขวนขวายในการทำบุญ เวลาในช่วงท้ายของคุณเฮอร์มานน์จึงมีคุณค่าอย่างยิ่งค่ะ คุณเกอร์ทรูดเล่าด้วยว่าสามีและเธอได้ขออโหสิกรรมต่อกันและกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงให้กำลังใจลูกค้าหญิงด้วยว่าถ้าหากจะมีบางครั้งในอดีตที่เธอรู้สึกว่าได้ทำอะไรที่ไม่ถูกใจสามีไปบ้าง ก็เป็นธรรมดาของชีวิตคู่ที่ย่อมต้องมีกระทบกระทั่งกันเหมือนลิ้นกับฟัน ก็ขอให้เธอให้อภัยตัวเองด้วย เชื่อเถิดว่าสามีต้องอยากให้เธอมีความสุขกับความทรงจำที่สวยงาม และเขาย่อมไม่อยากให้เธอเศร้าโศกเป็นทุกข์ไปยาวนานค่ะ



"...แม้กระทั่งลมหายใจ เรายังเอาไว้ไม่ได้
แล้วชีวิตทั้งชีวิต จะมีความเป็นไปได้ที่เราจะรักษาไว้ได้อย่างไร
เมื่อเราไม่สามารถจะรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้
ก็ไม่สามารถที่จะรักษาชีวิตของคนอื่นไว้ได้เช่นกัน


มันต้องมองออกมาจากตัวเองก่อนนะ มองอย่างตระหนัก
ลมหายใจของเราไม่เที่ยง ลมหายใจของคนอื่นก็ไม่เที่ยงเช่นกัน
อิริยาบถของเราไม่เที่ยง อิริยาบถของคนอื่นก็ไม่เที่ยงเช่นกัน
ความสุข ความทุกข์ หรือว่าจิตจะสงบหรือฟุ้งซ่านของเรา มันก็ไม่เที่ยง
ถ้าสังเกตอยู่ เห็นอยู่ แล้วก็เปรียบเทียบกับคนอื่น เออ ของเขาก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน
แยกดูเป็นส่วนๆ อย่างนี้ รู้จริงเป็นส่วนๆ อย่างนี้
ในที่สุดมันจะถอนจากความยึดมั่นถือมั่น
ว่าคนเราจะไม่ตาย คนรักเราจะไม่จากไป ได้อย่างเด็ดขาดนะครับ..."



จาก "ดังตฤณวิสัชนา" ตอน "วิธีรับมือยามสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก"
อ่านทั้งบทความ (คลิก)



ในเมื่อลูกค้าหญิงและสามีได้ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่ายี่สิบปี เคยร่วมสร้างกุศลมากมาย หากว่าแต่ละคนยังจะมีภพชาติต่อไปและได้พบเจออีกไม่ว่าจะเป็นในสถานะใดก็ตาม กรรมดีร่วมสร้างไว้ย่อมส่งผลให้รู้สึกดีต่อกันค่ะ แต่ว่าการเวียนว่ายตายเกิดเรื่อยไป ก็ย่อมไม่พ้นไปจากความทุกข์มหันต์ได้ ดังที่ลูกค้าก็ซาบซึ้งอยู่แล้วในปัจจุบันนี้ ให้กำลังใจคุณเกอร์ทรูดซึ่งเป็นผู้ที่สนใจการปฏิบัติธรรมอยู่แล้วด้วยว่า ความทุกข์ครั้งนี้อาจเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธอมุ่งมั่นละกิเลสจนพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ค่ะ


การเริ่มต้นเกิดขึ้นของสิ่งใดในโลก ก็คือการมุ่งหน้าไปสู่การสิ้นสุด เช่นเดียวกับลมหายใจของทุกชีวิต เมื่อมีความเกิดก็คือการนับถอยหลังไปสู่การสูญสิ้นสลาย อันเป็นความจริงที่ต้องยอมรับแม้จะขื่นขมเพียงใดก็ตาม ในฐานะที่ได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา แม้ในยามที่ทุกข์ท่วมท้นใจเพราะความพลัดพราก เราสามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจให้ขวนขวายปฏิบัติธรรมเพื่อพ้นจากสังสารวัฏ ไม่ต้องพบพานความทุกข์ทั้งปวงอีกแล้ว ซึ่งย่อมเป็นสิ่งประเสริฐสุดค่ะ


(^/\^)



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP