ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer
เป็นคนอ่อนน้อมแต่กลับถูกมองว่าอ่อนแอ ควรทำอย่างไร
ถาม – ดิฉันเป็นคนให้เกียรติคน อ่อนน้อม ไม่ถือสาหาความใคร
แต่กลับถูกมองว่าอ่อนแอ จนถูกบางคนเอาเปรียบอยู่เป็นประจำ
ควรทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกผู้อื่นมองว่าเป็นคนอ่อนแอคะ
ความเข้มแข็งกับความอ่อนแอ มันแตกต่างกันที่ความรู้สึกทางใจนะ
ถ้าหากว่าใจเราเป็นทุกข์อยู่ มีความรู้สึกระส่ำระส่ายอยู่
กระแสความอ่อนแอมันจะส่งออกมา ถึงแม้ว่าภายนอกจะยังดูแข็งๆ นะ
แต่ถ้าหากว่าภายในมีความรู้สึกสว่าง มีความรู้สึกนิ่ง มีความรู้สึกตั้งมั่นอยู่
ก็อันนั้นจะส่งกระแสของความเข้มแข็งออกมา อันนี้พูดถึงหลักการก่อน
อย่าเพิ่งพูดว่าผมตอบคำถามนี้แล้วหรือยังนะครับ ตรงตัวแล้วหรือเปล่านะ
โดยหลักการก็คือมนุษย์จะสามารถรับรู้ได้
ว่าภายในของอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังอยู่ต่อหน้า คนที่กำลังอยู่ต่อหน้า
มีความรู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ มีความอึดอัดหรือมีความสบาย
ลองสังเกตตัวเองดูนะ อันนี้เป็นประสบการณ์ทางใจที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันเลย
บางทีเราเข้าไปหาใครที่เขาเป็นผู้นำ เราก็รู้สึกว่าเขาน่าเกรงใจ
เขามีความเข้มแข็ง เขามีลักษณะของคนที่เราจะไปรังแกไม่ได้
หรือเอาง่ายๆ อย่างถ้าหากว่าเราเจ็บไข้ได้ป่วยเล็กๆ น้อยๆ นะ แล้วก็ไปหาหมอ
ถ้าเป็นหมอใจดี ถ้าเป็นหมอที่มีความกระตือรือร้นในการรักษาคนไข้อยู่ทั้งวันทั้งคืน
มีความแข็งแรงออกมาจากความเมตตาปรานีที่อยากจะช่วยคน
เราจะรู้สึกเลยว่า เอ๊ แค่เข้าไปในห้องตรวจนะครับ
ก็เกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าอาการเราดีขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว
นั่นเป็นเพราะว่าเราได้รับกระแสความรู้สึกดีๆ มาจากหมอ
ได้รับกระแสความรู้สึกเข้มแข็งของคนที่ไม่ยอมแพ้กับโรคภัยไข้เจ็บ
มันทำให้เราเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บของตัวเองขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
นี่เป็นการถ่ายทอดกระแส เห็นได้ชัดนะครับ ในตัวอย่างชีวิตประจำวันทั่วไปนะครับ
ที่ผมยกตัวอย่างมาอย่างคนที่เป็นผู้นำ หรือคนที่เป็นหมอใจดี
ก็จะเป็นกรณีความเข้มแข็งที่ค่อนข้างจะหาได้ยาก
แต่ถ้าหากว่าเรามาพูดถึงคนทั่วๆ ไปที่พูดง่ายๆ แหละว่าก็มีกิเลส
แล้วก็มีความรู้สึกกลับไปกลับมาระหว่างอยากให้อภัยกับอยากเอาคืนนะ
หรือว่ามีความรู้สึกเหมือนกับว่าเราต้องชั่งใจแหละว่าจะอภัยดี ไม่อภัยดี
จะพูดอย่างไรถึงจะให้ฟังดี แล้วก็เขาไม่ระคายใจด้วย
และในขณะเดียวกันเราก็ไม่ถูกเข้าใจผิดด้วย
มันจะยังมีความแกว่งไปแกว่งมาได้อยู่นะครับ
อันนี้มองเป็นเรื่องของจิตไปก่อนนะ
ทีนี้มาเข้าคำถามนะครับว่า การที่เราเป็นคนอ่อนน้อมให้เกียรติคน
แล้วถูกมองว่าอ่อนแอ ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ
ตรงนี้มันบางทีนะครับความอ่อนน้อมหรือให้เกียรติคน
มันอาจจะทำให้คนบางคนนะที่เป็นพาล มองว่าเราหงอ
มองว่าเราดูเหมือนกับปกป้องตัวเองไม่ได้ เราเป็นคนอ่อนแอนะ
ให้สังเกตลักษณะของใจในขณะที่เราอ่อนน้อมแล้วก็ให้เกียรติคน
เราอ่อนมากเกินไปหรือเปล่า หรือว่าเรายังมีความสดใส มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่
ถ้าหากว่าเรายังมีความสดใส ยังมีความเข้มแข็ง ยังมีความเป็นตัวของตัวเองนะ
ความอ่อนน้อมนั้นจะถูกมองว่าเป็นการให้เกียรติ
แต่ถ้าหากว่าเราอ่อนน้อมแล้ว ใจข้างในของเราเหมือนกับยอมเขาได้ทุกอย่าง
กระแสความรู้สึกมันจะพลิกกลับไปเป็นอีกแบบหนึ่ง
คือเขาจะรู้สึกว่าเราตัวงอเกินไป เราหงอเกินไปหน่อย แล้วก็ดูน่ารังแกเสียด้วย
อันนี้เป็นธรรมชาติที่ค่อนข้างจะเป็นที่สังเกตได้ละนะ
มันไม่มีถูกไม่มีผิดนะ แต่เป็นที่สังเกตได้
ถ้าหากว่าใครมาทำหงอๆ ธรรมชาติของคนที่ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นเต็มที่
จะรู้สึกว่าคนคนนี้น่ารังแก คนคนนี้น่าแกล้ง น่ากลั่นแกล้ง
คนคนนี้ไม่น่าเห็นใจเสียด้วยซ้ำนะครับ
คือมนุษย์เรานะ กิเลสมันเป็นอย่างนี้แหละ
เห็นใครที่อ่อนกว่าด้อยกว่า จะอยากเหยียบย่ำ เห็นเป็นบันไดน่ะ
เพราะคนส่วนใหญ่อยากจะมีอัตตา อยากจะมีความยิ่งใหญ่ อยากจะมีความเป็นนาย
เพราะฉะนั้นสรุปก็คือว่า เราต้องสังเกตตัวของเราเองด้วยว่า
การอภัย การเมตตา ไม่ถือสาหาความ
เป็นไปด้วยอาการที่เรายังมีความรู้สึกชัดเจนอยู่ข้างในหรือเปล่า
เรายังมีสติอยู่ชัดเจนหรือเปล่านะ
ยืนอยู่รู้ว่ายืนอยู่ไหม พูดอยู่กับเขารู้สึกถึงอาการพูดไหม
หรือแม้กระทั่งการกล่าวว่าไม่เป็นไร ดิฉันไม่ถือ
ด้วยอาการแบบนี้ เป็นอาการของคนที่ยังมีความเป็นตัวของตัวเอง
มีความตรง ยังยืดตัวได้ตรง ยืดอกได้ตรง หน้าตั้ง คอตั้ง หลังตรงอยู่หรือเปล่า
ถ้าหากว่ามีความสง่างามในการให้อภัย
ถ้าหากว่ามีความสง่างามในการอ่อนน้อมนะครับ
เขาจะรู้สึกว่าเขากำลังได้รับเกียรติจากเราอยู่
แต่ถ้าอ่อนน้อมของเราหมายถึงการอ่อนไปทั้งตัวเลย ระทดระทวย หรือว่างอไปทั้งตัวนะ
อันนั้นเขาจะรู้สึกว่าเรามาก้มศีรษะให้เขาด้วยอาการที่อยากจะมารับใช้เขา
หรือว่าอยากจะมายอมให้เป็นบันได
ให้เขาเหยียบขึ้นไปมีความรู้สึกภูมิใจในตัวตน ภาคภูมิอะไรของเขานั่นแหละ
อันนี้ขอให้สังเกตด้วยก็แล้วกัน
การที่เราจะไม่เป็นคนอ่อนแอในสายตาของคนอื่นได้
จำไว้เลยว่าความรู้สึกของเรานะครับ จะต้องยังเป็นตัวของตัวเองเต็มร้อย
แล้วก็ไม่งอแบบหงอนะ
แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
| < Prev | Next > |
|---|
