วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

ม่านมนตรา ๕


Literature

โดย ชลนิล

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

แสงแฟลชสว่างเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนมือกล้องจะเผยใบหน้าสดใสและรอยยิ้มสว่าง เด็กสาวอีกสองสามคนกำลังเก็บสมุดโน้ตกับวิทยุเครื่องเล็กเข้ากระเป๋า

รูปสุดท้ายนี่ต้องได้ขึ้นปกแหงแซะเลย ปีกแก้วพูดอย่างร่าเริง ก่อนถอดฟิล์มออกจากกล้อง

มากไปย่ะ แค่อาจารย์ให้ผ่านก็บุญแล้ว อย่าหวังว่าแกจะเลือกงานเราส่งลงนิตยสารเลย เพื่อนร่วมกลุ่มขัดขึ้น

โธ่ แค่เห็นรูปพี่มัค ขี้คร้านอาจารย์จะให้เอไม่ทัน

มากไปแล้วเจ้าแก้ว ถ้าพูดมากพี่ไม่เลี้ยงข้าวเที่ยงนะ มรรคาขัดแทนเพื่อนน้องสาว

ไม่ยอม ไม่ยอม...พี่มัคให้พวกแก้วมารอตั้งนานกว่าจะได้สัมภาษณ์ อย่างนี้ต้องเลี้ยงใหญ่ด้วยซ้ำ

เอาเถอะยอมแพ้ จะไปไหนก็บอกมา แต่พี่ต้องเข้าที่ทำงานก่อนบ่ายโมง

ก่อนที่น้องสาวจอมโวยจะมีปัญหามากกว่านี้ มรรคารีบลุกและเดินนำขบวนเด็กสาวกลุ่มเล็กๆ ออกจากห้องไป

พี่มัค อย่าเพิ่งรีบหนีสิ ปีกแก้วรีบเกาะแขนเขา และโดยมรรคาไม่ทันสังเกต เด็กสาวก็แอบหย่อนสิ่งบางอย่างลงในกระเป๋าเสื้อเขา...รอยยิ้มโล่งใจผุดขึ้นบนริมฝีปากหล่อน


มรรคามาถึงที่ทำงานก่อนบ่ายโมงเล็กน้อย พบประสิทธิ์รออยู่หน้าห้อง

เข้ามาสิ เขาเรียกพร้อมเดินนำ ประสิทธิ์ตามด้วยสีหน้าวิตกกังวล

เป็นเรื่องร้ายกว่าที่คิดใช่มั้ย มรรคาถามเมื่อนั่งเรียบร้อย

ครับ

ตอนเช้าที่คุณโทร.มาหาผมน่ะมีเรื่องอะไร มรรคารู้ ถ้าไม่มีปัญหาที่แก้ไม่ตก รับรองไม่มีใครกล้าโทร.ไปปลุกเขา แต่ถ้าไม่บอกธุระแต่เช้าก็แสดงว่าปัญหายังไม่เร่งด่วน

เรื่องให้ชาวบ้านไปตัดไม้ในที่ของเราน่ะครับ

ชายหนุ่มครุ่นคิด...เรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา

พวกเขา เจอดี เข้าเลยไม่มีใครกล้าเข้าไปตัดไม้อีกเลย

หมายความว่ายังไง เจอดี ของคุณน่ะ

คนที่เข้าไปตัดไม้วันแรกๆ พอกลับบ้านก็จับไข้ทุกคน แถมยังฝันเห็นผู้ชายตัวใหญ่มาขู่จะฆ่า ถ้ายังเข้าไปตัดไม้ที่นั่นอีก

มรรคานิ่งอั้น นัยน์ตาหรี่เรียวครุ่นคิด ประสิทธิ์สงบใจนั่งรอ

แม้มรรคาจะเป็นคนหนุ่ม แต่ใช่ว่าจะปฏิเสธเรื่องภูตผีปิศาจโดยสิ้นเชิง เขาไม่เคยคัดค้านว่าผีไม่มีจริงและเขาก็ไม่สนับสนุนเรื่องภูตผีปิศาจ ชายหนุ่มคิดว่ายังมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่มนุษย์เรียนรู้ไปไม่ถึง เขาเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด แต่ไม่ได้ยึดถือจริงจัง เขาเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าทุกคนเกิดแล้วต้องตาย แต่ไม่เคยใส่ใจ...ตายแล้วไปไหน...

กับเรื่องภูตผีที่ประสบอยู่ตรงหน้า ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงการเจอดีนั้นจะเกี่ยวกับปิศาจจริงหรือไม่ ปัญหาอันแท้จริงคือเวลานี้ไม่มีคนไปตัดไม้ให้เขา

ถ้างั้นเราว่าจ้างให้บริษัทรับเหมามาจัดการก็ได้ มรรคาบอกเรียบๆ น้ำเสียงไม่แสดงความรู้สึก

เวลานี้ไม่ได้แล้วครับ คำตอบแสดงความอึดอัด เมื่อเช้าผมตั้งใจจะโทรศัพท์ไปบอกข่าวนี้กับคุณ แต่พอคุณว่าจะเข้าออฟฟิศ ผมก็ว่าคงรอบอกตอนบ่ายได้ ดังนั้นพอวางหูจากคุณ ผมก็โทรศัพท์ติดต่อผู้ดูแลทางนั้น สั่งให้เขาหาผู้รับเหมาไว้ ก็เลยได้รู้ข่าวอีกข่าวว่า ชาวบ้านเขาไปตั้งศาลเพียงตา กราบไหว้ดงไม้นั้นแล้ว

มันเกี่ยวอะไรกัน ดงไม้นั่นออกกว้างขวาง เราก็ทำในส่วนที่เขาไม่ได้ตั้งศาลสิ

แล้วใครจะรับรองล่ะครับว่าพวกชาวบ้านจะไม่เอาเรื่องเจ้าที่มาบอกกับพวกคนงาน

มรรคาอึ้งไปชั่วครู่

ถ้าเราทำให้พวกเขาไม่เชื่อเรื่องเจ้าที่ล่ะ ชายหนุ่มพูด

ทำยังไงล่ะครับ

รื้อศาล มรรคาโพล่งขึ้น คนฟังแทบสะดุ้ง

คุณมัคพูดเป็นเล่นไปได้ ใครเขาจะกล้ารื้อล่ะครับ

ชายหนุ่มนิ่ง หากสมองทำงานอย่างหนัก ที่จริงงานไถปรับแต่งที่ดินแห่งนั้นไม่ใช่งานเร่งด่วน เพราะกว่าสาธารณูปโภคจะพร้อมก็ปีหน้า แต่งานอย่างนี้หากชักช้าเกินไปจะทำให้เสียเวลาและผลประโยชน์อย่างน่าเสียดาย

คุณเคยบอกผมใช่มั้ยว่า เมื่อก่อนเคยมีคนเข้าไปตัดพวกไม้ใหญ่ๆ อยู่เหมือนกัน มรรคาพูดช้าๆ

ครับ

ทำไมเวลานั้นถึงไม่มีปัญหา เขาเน้นคำท้าย นัยน์ตาทอประกายเจิดจ้า หรือมันจะมีปัญหาเฉพาะตอนพวกเราเข้าไปกัน

ประสิทธิ์พยายามตามความคิดของผู้เป็นนาย

หมายความว่ามีการกลั่นแกล้งกันหรือครับ

ถ้าพวกชาวบ้านฝันเห็นผีผู้ชายเหมือนกันหมดทุกคน ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ว่าจะมีใครสามารถทำได้ถึงขนาดนั้น

แล้วเรื่องจับไข้ ประสิทธิ์ถาม

เราน่าจะไปดูที่นั่นกันนะ มรรคาสรุปในที่สุด

ประสิทธิ์ดูนาฬิกา เวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว

ถ้าขับรถไปกันตอนนี้ กว่าจะถึงก็เย็นพอดีนะครับ กว่าจะกลับมาอีกมิดึกโขหรือครับ เพราะคุ้นเคยถึงกล้าแสดงความเห็นตรงๆ

คุณมีธุระอะไรมั้ย คำถามง่ายๆ แต่แววตาเจ้าตัวแฝงอำนาจโดยไม่รู้ตัว

ไม่มีหรอกครับ ประสิทธิ์อุบอิบ...นึกในใจ...ก็พ่อคุณเล่นมองแบบนี้ใครจะกล้าพูดว่าไม่ว่าง

มรรคาไม่เคยรู้ว่าตนเองมีสิ่งที่คล้ายพลังอำนาจแฝงอยู่ ทำให้คนอยู่ใกล้นึกเกรง ทั้งที่บางครั้งเขาพูดจากันเองก็ยังไม่มีใครกล้า เล่น กับเขา

ดี เขายิ้มนิดๆ เดี๋ยวผมจะโทร.ไปบอกที่บ้านก่อน คุณจะทำธุระอะไรก็ตามสบาย อีกสิบนาทีเจอกันที่ลานจอดรถ ผมขอเอกสารเกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้นด้วยนะ รวมถึงสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาด้วย

ครับ ประสิทธิ์รับคำ พร้อมออกจากห้องอย่างโล่งอก

หลังจากมรรคาโทรศัพท์บอกป้าแฉล้มเรียบร้อยเขาก็เตรียมตัวออกจากห้อง แต่มีเสียงโทรศัพท์มาขัดจังหวะ

มรรคาครับ

นี่แก้วนะคะพี่มัค วันนี้กลับบ้านกี่โมง แก้วเตรียมอาหารพิเศษไว้รอด้วย

ชายหนุ่มยิ้ม พี่กลับดึกจ้ะ เรื่องกับข้าว ไว้วันหน้านะจ๊ะ แล้วพี่จะรอชิม

พี่มัคจะไปไหนคะ คำถามมีรอยสะดุดนิดๆ

มรรคาจึงอธิบายง่ายๆ รวบรัดก่อนลงท้าย

แล้วพี่จะหาของฝากมาให้จ้ะ

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้ำเสียงปีกแก้วแปลกไป แค่พี่มัคกลับมาก็ดีแล้ว ระวังตัวด้วยนะคะ

ท้ายเสียงแฝงความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด

จ้ะ ประสิทธิ์ก็ไปด้วย ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เขาพูดอย่างสบายใจ

รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะคะ ระวังตัวให้มาก ปีกแก้วย้ำก่อนวางหู มรรคาเริ่มสะดุดใจ ครั้งนี้ปีกแก้วห่วงเขาจนผิดปกติเกินไป


ศาลเพียงตาแห่งนั้นถูกปกคลุมด้วยควันธูปสีเทาอ่อน มาลัยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมตลบ หน้ากระถางธูปขนาดใหญ่มีชาวบ้านกลุ่มเล็กๆ ปูเสื่อคุกเข่ากราบไหว้ด้วยความเคารพศรัทธาเจือหวั่นเกรง

มรรคายืนห่างจากกลุ่มชาวบ้านเล็กน้อย บันทึกทุกภาพที่เห็นไว้ในความทรงจำ จนเชื่อว่าชาวบ้านเคารพและเกรงกลัว สิ่งที่มองไม่เห็น อย่างจริงจัง

ประสิทธิ์กำลังพูดคุยตีสนิทกับชาวบ้านบางคนที่ค่อนข้างช่างพูดมากกว่าคนอื่น

ฉันไม่ได้มาขอหวยหรอกจ้า แต่มาขอขมาเอาของมาถวาย เจ้าพ่อ ท่านน่ะ

แล้วคนอื่นเขามาบนอะไรหรือน้า เห็นขนหัวหมู บายศรี มากันใหญ่

โอ้ย ไม่ได้บนกันหรอก พวกมากราบไหว้ถวายหัวหมู บายศรี ขอขมากันทั้งนั้น...คืออย่างนี้ พวกข้าเข้าไปตัดต้นไม้ในนั้น...ก็ไม่รู้ว่าเจ้าพ่อท่านเพิ่งมาอยู่ก็เผลอล่วงเกินท่านไป ท่านก็เลยแสดงอิทธิฤทธิ์มาเข้าฝันพวกเราทุกคน แถมยังทำให้จับไข้อยู่ตั้งหลายวัน นี่พอสร่างไข้ ก็เลยมาตั้งศาลให้ท่าน แล้วพากันมาขอขมานี่แหละ

เยอะขนาดนี้เชียวหรือจ๊ะ

ใช่สิ นี่ขนาดทยอยๆ กันมานะ บางพวกมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

แล้วที่แถวนี้ของใครล่ะน้า เจ้าของเขารู้มั้ย

คงไม่รู้มั้ง พวกเศรษฐีเมืองกรุงจะไปรู้อะไร เห็นว่าที่ให้พวกข้าตัดไม้ได้ก็เพราะกำลังจะไถที่ ทำเป็นโรงงานอะไรนี่แหละ

อ้าว แล้วเจ้าของที่เขาจะทำโรงงานได้หรือเปล่าน้า ถ้าเจ้าพ่อยังอยู่แบบนี้

ข้าก็ไม่รู้หรอก แต่ถ้าให้มาตัดไม้ในนี้อีก ข้าก็ไม่เอาแล้ว คนแถวนี้ทั้งหมดด้วย


ตะวันใกล้พลบทอแสงสีส้มๆ อาบไล้ผืนดินกว้าง ลมอุ่นๆ พัดกระไอดินและกลิ่นหอมของแม่น้ำเข้ามา บริเวณศาลเพียงตาเริ่มร้างผู้คน ชาวบ้านกลุ่มสุดท้ายเข้ามา ลาของไหว้ขอขมาจากเจ้าพ่อกลับไปยังบ้าน

กลิ่นหอมแปลกๆ เจือจางอบอวลอยู่รอบตัวมรรคา ฟ้าหม่นบรรยากาศเหมือนถูกครอบคลุมด้วยแหที่มองไม่เห็น ประสิทธิ์เหลียวหน้าเหลียวหลังกระสับกระส่าย

กลับหรือยังครับ ผู้ติดตามถาม

มรรคาถอนสายตาจากศาลตรงหน้าแล้วบอกง่ายๆ

ผมจะเข้าไปดูในดงไม้นั่นหน่อย ประสิทธิ์สะดุ้งโหยง

ขะ...เข้าไปทำไมครับ...ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก...เดี๋ยวมันจะมืดแล้ว

ผมอยากเข้าไปดู นอกจากศาลแห่งนี้แล้ว อะไรคือ เจ้าพ่อ ที่พวกเขากลัวกัน

มรรคายิ้มนิดๆ เป็นรอยยิ้มที่ผู้พบเห็นต้องแอบหนาวหัวใจ

คุณรออยู่ที่นี่แล้วกัน เขาสั่งห้วนๆ ก่อนจะเดินผ่านศาลเข้าไปในดงไม้อย่างรวดเร็ว

บรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยแมกไม้สงบเงียบกว่าด้านนอก แสงสว่างเหลือเจือจาง ต้นไม้ ใบไม้ทุกใบนิ่งสนิทไม่ไหวติงราวภาพวาด ไม่มีเสียงสายลม ไม่มีเสียงแมลง มรรคาเดินค่อนข้างเร็วตามทางเล็กๆ ที่พาเขาสู่กลางดงไม้

กลิ่นหอมแปลกๆ นั้นยังไม่จางหายคล้ายติดตามมาโดยตลอด มรรคาไม่รู้สึกอึดอัด หนำซ้ำเขาคิดว่าคุ้นเคยกับกลิ่นนี้ดี ชายหนุ่มมีจุดหมายอยู่ข้างหน้า แต่บอกไม่ถูกว่าเป็นที่ไหน เขาเดินไปเรื่อยๆ แล้วชะงักเท้าราวสะดุดกับตอไม้ เบื้องหน้ามีกอหญ้าขึ้นสูงระดับบั้นเอว ถัดไปเป็นต้นไม้ระเกะระกะ สายตาเขาพุ่งตรงสู่ต้นไม้ต้นเดียว

...ต้นไทร...

เวลานั้น สิ่งประหลาด ในตัวเขากำลังเคลื่อนไหวเหมือนถูกปลุกให้ตื่นด้วยกลิ่นหอมแปลกๆ และไทรข้างหน้า มันกำลังจะโลดแล่นออกมาจากหัวใจเพื่อเข้าเผชิญกับสิ่งที่เขาไม่รู้จัก

ไทรต้นนี้เขาเคยพบมาแล้ว มันไม่ใช่ไทรเก่าแก่อายุนับร้อยปี แต่เป็นไทรขนาดย่อมๆ อายุราวสิบ ยี่สิบปีเป็นอย่างมาก รากมันห้อยระโยงระยางลงมาราวกับจะปิดบังความลับบางอย่าง

กลิ่นหอมนั้นแรงจัดขึ้น จนรู้สึกว่ามันจะเป็นกลิ่นจากตัวเขาเอง สิ่งที่อยู่ในหัวใจของมรรคาคล้ายกระโจนออกมานอกอกจนไม่อาจควบคุมตัวเอง คำพูดบางคำหลุดมาโดยไม่ตั้งใจ

ฉันมาแล้ว เขาพยายามเม้มริมฝีปาก แต่ไม่อาจทำได้ ตามสัญญา

หลุดคำท้ายออกไปหัวอกค่อยโล่งขึ้น จิตใจแจ่มใส แม้สติจะบริบูรณ์ แต่ก็รู้สึกดั่งตนเองมีอีกคนอยู่ในร่าง เป็นคนกล้าที่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดง่ายๆ รอยยิ้มแปลกๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า มันคือรอยยิ้มของขุนศึก...ยามเผชิญหน้ากับศัตรู

เมื่อมรรคาออกจากดงไม้ ความมืดกำลังเคลื่อนตัวช้าๆ ขับไล่แสงตะวัน ลมพัดแรงกรรโชกจนยอดไม้โอนเอน เสียงใบไม้ดังกราวซู่ซ่า

คุณมัค ประสิทธิ์ร้องอย่างดีใจ ความเครียด อาการกังวลระหว่างรอคอยหายไปสิ้น

เป็นยังไงบ้างครับ ข้างในมีอะไร เขาถามชายหนุ่มเป็นชุด

มรรคามองหน้าด้วยแววตาเรียบลึก น่าเกรงขาม ก่อนแลเลยไปที่ศาลเพียงตา

พรุ่งนี้ติดต่อผู้รับเหมาให้มาจัดการเกรดไถได้เลยนะคุณประสิทธิ์ เขาสั่ง

แล้วเรื่องศาลกับเจ้าพ่อล่ะครับ

ไม่ต้องห่วง ถึงพวกชาวบ้านไม่กล้าตัด แต่คงไม่กล้าขัดขวางอะไรหรอก

แต่ถ้าพวกชาวบ้านเขามาเล่าเรื่องนี้ให้คนงานของผู้รับเหมาฟัง ผมกลัวว่าจะเกิดปัญหา ศาลก็ยังตั้งอยู่ทนโท่

สายตาของมรรคาเยือกเย็น

เจ้าพ่อก็อยู่ส่วนเจ้าพ่อสิ คำพูดแฝงความทระนงชนิดที่ประสิทธิ์ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ถ้าไม่ใช่เจ้าพ่อแท้ ก็ไม่น่าให้อยู่ศาลหรอกนะ

มรรคาหยุดยืนหน้าศาลเพียงตา มือไขว้หลังก้าวไปรอบๆ นัยน์ตาวาววับ เอื้อมมือหยิบมาลัยดอกไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ บนศาลลงมาอย่างใจเย็น จากนั้นก็ถอนเสาหลักหน้าตาเฉย ประสิทธิ์ตาโต มือสั่นระริกพูดอะไรไม่ออก

กลับกันเถอะ มรรคายิ้มให้แล้วออกเดินนำหน้า

ธรรมดาชายหนุ่มไม่ใช่คนชอบยิ้มแย้ม ใครได้เห็นนับว่าโชคดี แต่สำหรับประสิทธิ์เขายินยอมไม่ได้รอยยิ้มจากมรรคา ดีกว่าเมื่อได้แล้วต้องเสี่ยงกับเรื่องที่มองไม่เห็นเช่นนี้


...เราเป็นอะไรไป... มรรคาถามตนเองขณะขับรถกลับกรุงเทพฯ เขารู้ตัวดีทุกอย่างว่าทำอะไรลงไปบ้าง พูดคำพูดแปลกๆ บ้าบิ่นขนาดบุกเข้าไปในดงไม้คนเดียว กระทั่งรื้อศาลเพียงตา เขาบ้าหรือเปล่า...

เขาไม่มีทางทำสิ่งเหล่านี้เด็ดขาดหากเป็นเวลาปกติ...แต่เขาก็ทำไปแล้ว

...เพราะอะไร เขาถึงมีความกล้าเช่นนี้...

คำตอบคือความเงียบงันในห้วงความคิด

ประสิทธิ์ มรรคาพูดลอยๆ คนนั่งข้างๆ สะดุ้ง

คะ...ครับ...มีอะไรครับ ท่าทางของประสิทธิ์ออกจะกลัวเขาเกินธรรมดา

คุณกลัวผมเรื่องอะไร ชายหนุ่มถาม คนตอบยิ้มแหยๆ ใครจะกล้าตอบว่าเจ้านายเขาน่ากลัวอย่างไร

มรรคาเป็นคนดุมานานแล้ว ทุกคนรู้ดีแต่กับคนคุ้นเคยเช่นเขาไม่ใคร่กลัวนัก แต่มรรคาที่เขาเห็นเมื่อครู่ดูแปลกไปเหมือนไม่ใช่คนเดิม ท่าทางการเดิน การมอง การยิ้ม และคำสั่งที่เด็ดขาดน่าเกรงขามอยู่ในที ทำให้ดูไม่ต่างจากผู้ทรงอำนาจคนหนึ่งทีเดียว

ได้กลิ่นอะไรบ้างมั้ย เมื่อไม่ได้คำตอบแรกมรรคาจึงเปลี่ยนคำถาม

กลิ่นอะไรครับ ประสิทธิ์สงสัย

กลิ่นหอมๆ เหมือนดอกไม้ มรรคาพึมพำ ใช่ กลิ่นดอกไม้ เป็นกลิ่นดอกไม้เคยคุ้น ที่ติดตามเขามา

เอ...ผมได้กลิ่นแต่แอร์เฟรชนะครับ ใช่กลิ่นนี้มั้ยครับ ผู้ติดตามพยายามหาคำตอบมาให้

ไม่ใช่... มรรคาหยุดคำถาม

ฟ้ามืดสนิท เหลือระยะทางอีกไกลกว่าจะถึงกรุงเทพฯ ถนนสายนี้ค่อนข้างว่าง แสงไฟหน้ารถส่องกราดเป็นทางไกล รถแล่นด้วยความเร็วกว่าปกติจนผู้โดยสารต้องแอบเหลือบมองคนขับอยู่บ่อยๆ

มรรคานั่งนิ่ง เอนหลังพิงพนักท่าทางสบาย นัยน์ตามองถนนเบื้องหน้า มือกำพวงมาลัยหลวมๆ กลิ่นดอกไม้ที่เขาหาที่มาไม่ได้ยังแฝงอยู่ในอณูบรรยากาศ เขาพยายามหาต้นตอของมัน จนชั่วครู่ รู้สึกว่ามันน่าจะมาจากกระเป๋าเสื้อตนเอง ขณะที่กำลังเอื้อมมือล้วงกระเป๋า เสียงสั่นๆ ของประสิทธิ์ก็ดังขึ้นมา

คะ...คุณมัค

อะไร มรรคาหันไปดูผู้ร่วมทาง เห็นเจ้าตัวกำลังมองมาทางหน้าต่างรถด้านเขาด้วยนัยน์ตาเหลือกลาน

ชายหนุ่มพลิกสายตากลับทันที!


นอกหน้าต่าง มีเงาขาวๆ ก่อตัวคล้ายผู้ชายคนหนึ่ง กำลังลอยติดตามรถมาชนิดไม่ห่าง ส่วนที่เป็นใบหน้าเห็นชัดเจนกว่าส่วนอื่น เริ่มจากนัยน์ตาแดงก่ำ จมูกบานพะเยิบ ริมฝีปากเม้มสนิทเป็นเส้นตรง

มันตามมาในขณะที่รถแล่นไม่ต่ำกว่าร้อยสี่สิบ...!

มรรคาแทบมืออ่อนปล่อยพวงมาลัย ส่วนลูกน้องตัวสั่นงกๆ

เรา...จะ...เจอ...ดี...เข้า...แล้ว...

ประสิทธิ์พูดเหมือนเอาเสียงเป็นเพื่อน

คุณมัค...ไม่น่าเลย...ไปรื้อศาลท่านอย่างนั้น...ดูสิ...ท่านมาเอาเรื่องแล้ว

คำพร่ำบ่นของลูกน้องทำให้มรรคาเริ่มเข้าใจ แต่เขาไม่อาจวอกแวก นี่คือครั้งแรกในชีวิต ที่ประสบกับเหตุการณ์พิสดารเช่นนี้

เขาไม่สนใจถามแล้วว่า ผีมีจริงหรือไม่ แต่เขาต้องการรู้ สิ่งที่รูปร่างหน้าตาคล้ายคนเช่นนี้ ต้องการอย่างไรกับเขา

จอดรถคุยกับเขาดีมั้ย คุณประสิทธิ์ เสียงมรรคาแฝงอารมณ์ขันลึกๆ

บ้าน่ะสิคุณมัค ครั้งแรกจริงๆ ที่เขาโดนลูกน้องขึ้นเสียง ไม่ต้องคุยอะไรกันแล้ว ทำยังไงให้เขาไปดีกว่า...อ้อ ผมนึกได้แล้ว สวดมนต์ไล่ดีกว่า...นะโม...ตัสสะ...พุทโธ ธัมโม...

จากปลายหางตามรรคาเห็นเจ้าสิ่งนั้นกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้รถมาเรื่อยๆ ริมฝีปากเม้มสนิทกำลังแสยะยิ้มอย่างลำพอง ประสิทธิ์ประนมมือ หลับตาสวดมนต์อย่างเอาเป็นเอาตาย มรรคากลับนึกขัน และยิ้มได้ในสถานการณ์เช่นนี้

ปิศาจตนนั้นเกาะประตูรถ เอาใบหน้าแนบกระจก พยายามจะแทรกร่างเข้ามา...น่าแปลกเพราะขณะเขามีอารมณ์ขันต่อท่าทางของประสิทธิ์ สติ กลับตั้งมั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จิตใจสงบอิ่มเอม มือเท้าขับรถตามปกติ ริมฝีปากกลับขมุบขมิบบทสวดสั้นๆ

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ยามใดเกิดความกลัวให้ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์...


(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP