ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ผีอำคืออะไร ถ้าเกิดขึ้นจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร



ถาม - "ผีอำ" คืออะไร ถ้าเกิดขึ้นจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไรคะ



ที่เขาวิเคราะห์กันมานะ คนที่บอกว่ามีอาการผีอำ
หรือว่านอนๆ อยู่แล้วเหมือนมีอะไรมากดทับ
ทำให้หายใจไม่ออกบ้าง ทำให้ขยับตัวไม่ได้บ้าง
ก็โดยมากจะเป็นเรื่องของประสาท อาการทางประสาท
มากกว่าที่จะมีอะไรภายนอกเข้ามานะ
ลักษณะที่เรารู้สึกกันว่าถูกกดทับหรือว่าหายใจไม่ออก
เป็นการทำงานของอวัยวะบางส่วนที่ทำงานไม่ได้
เท่าที่ผมเคยฟังหมอๆ เขาวิจัยหรือว่าเขาคาดคะเนกัน



ทีนี้ถ้าหากว่าในกรณีสำหรับบางคนนะ
ที่ไม่ใช่แค่รู้สึกเหมือนขยับไม่ได้ หรือว่าหายใจไม่ออก
แต่ว่าสามารถเห็นเลยทีเดียว ว่ามีบางสิ่งบางอย่างนะ
ที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เป็นเหมือนกับระดับเดียวกับเรานะครับ
เป็นอะไรอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเห็นได้ผ่านนิมิตเท่านั้น
แล้วก็สามารถที่จะรับรู้ถึงกระแสเจตจำนงประทุษร้าย
หรือว่ารับรู้ถึงเจตนาที่จะเข้ามาสื่อสารอะไรบางอย่างด้วย
อันนี้ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง
ซึ่งไม่ได้มีเหตุผลจำกัดว่ามีเป้าประสงค์อะไรอย่างใดอย่างหนึ่งแบบเดียวกัน
เหมือนคนที่เข้ามาจะทำร้ายเราอย่างนี้
ถ้าหากว่าลองสอบถามดูว่าทำไมต้องมาทำร้ายกัน
แต่ละคนที่เข้ามาก็จะมีคำตอบที่แตกต่างกันไป
อาจจะเคยผูกเวรกันมาด้วยมีเรื่องบาดหมางกัน หรือว่ามีใครจ้างวานมาอะไรต่างๆ
ไม่ใช่ว่ามีจุดประสงค์เดียวครอบจักรวาล


คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องของผีอำหรือว่าการถูกวิญญาณเข้ามารบกวน
มันไม่มีอะไรที่ตายตัว มันไม่มีอะไรที่ครอบจักรวาล
แต่มีหลักการอย่างหนึ่งที่เราสามารถที่จะใช้ได้โดยทั่วไป
นั่นก็คือแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล

ซึ่งฟังดูแล้วมันก็เหมือนกับเป็นเรื่องที่เคยๆ ได้ยินกันมา
แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการ ก็จะทราบนะครับว่าทำไมต้องทำแบบนั้น
การที่ใครเข้ามานี่นะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลคือมาขอแบ่งส่วนบุญ
หรือว่าเข้ามาด้วยความอยากจะประทุษร้าย เพราะว่ามีกรรมเก่าต่อกันมา
หรือเหตุผลใดๆ ก็ตามที่จะมารบกวนกัน
การที่เรามีใจที่เป็นกุศลตอบกลับ ย่อมช่วยให้เวรระงับลงได้
หรือว่าการมาขอส่วนบุญของเขาได้ผลสำเร็จมีความชุ่มชื่นกลับไป



บางคนก็ถามว่า บางทีโดนกันทั้งตึกเลย โดนกันทั้งบ้านเลยอย่างนี้นะ
แล้วก็สวดมนต์ก็แล้ว อุทิศส่วนกุศลก็แล้ว
พาพระมาทำบุญก็แล้วนะ นิมนต์มาให้ปัดรังควานอะไรต่างๆ
ก็ยังไม่เวิร์ก ยังไม่ประสบความสำเร็จ จะให้ทำอย่างไร
จริงๆ ถ้ามองอย่างนี้ว่าต่อให้เป็นวิญญาณก็ตาม ต่อให้เป็นสิ่งที่อยู่ในภพภูมิอื่น
ถ้าหากว่าเขาเข้ามา มันไม่มีหรอกที่จะมาด้วยอยู่ๆ ก็อยากมาก็มา แล้วก็มารังควานไม่เลิก
ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่าง และเหตุผลนี่ถ้าเรามองเป็นแรงผลักดันแรงจูงใจนะครับ
ก็ต้องมีแรงผลักดันหรือว่าแรงต่อต้าน หรือว่าแรงที่จะเอามารับมือกันได้
การที่เรามองว่ากุศลธรรมหรือว่าความสว่าง
หรือว่าจิตที่มีความเป็นมงคลนี่นะ ไปต้อนรับหรือไปตอบกลับแรงที่เขาผลักเข้ามา
ถ้าหากว่าพอดีกันแล้ว ก็สามารถที่จะทำให้สิ่งนั้นถอยไปได้ หรือว่าหายไปได้


ถ้าหากว่าคนเดียวไม่พอ อย่างเคยมีคำถามว่าโดนกันหลายคนอย่างนี้นะ
ก็เอาหลายคนนั่นแหละมารวมกัน
ให้เป็นกุศลที่มีพลังมากพอ ที่มีความสว่างมากพอ

ส่วนใหญ่เวลาเรามารวมตัวกัน เราเอาความกลัวมารวมกัน มันยิ่งกลายเป็นความมืด
มันยิ่งกลายเป็นแรงดึงดูดให้เขาอยากเข้ามาหนักเข้าไปใหญ่
แต่ถ้าหากว่าเรารวมกันหลายๆ คน แล้วก็พูดง่ายๆ ว่าสร้างบรรยากาศให้มีความสว่าง
สร้างบรรยากาศให้มีความเป็นกุศล พร้อมใจกัน
พลังที่ตอบรับต่อต้าน มันก็มีมากพอ
ที่จะทำให้เจตนามืดหรือว่าเจตนาขอส่วนบุญอะไรต่างๆ
ได้สมความปรารถนาเขาไป



หลักการที่เราจะรวมจิตให้มีความเป็นกุศล มีความเป็นมงคลได้
อย่างหนึ่งก็คือต้องมีใจเดียวกัน ต้องมีอะไรสักอย่างหนึ่งที่ผูกใจไว้
อยู่กับความสว่างแบบเดียวกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มันถึงจะมีพลัง
อย่างถ้าสมมตินะในกรณีที่โดนหลอกกันทั้งบ้าน มีห้าคน
แล้วห้าคนนั้นนะมาทำอะไรเป็นกุศลร่วมกัน
เช่น ตื่นเช้าขึ้นมาใส่บาตรพระพร้อมกัน แล้วก็มีจิตอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาด้วยกัน
พลังจะมีความใหญ่ แล้วก็ความสว่างนี่ มันจะมีความเจิดจ้า
มันเป็นไปในทางเดียวกัน พร้อมใจกันนี่นะ
ถ้าเขามาแค่คนเดียว เป็นวิญญาณแค่ดวงเดียวมา อย่างไรเขาก็ต้องยอมรับ
อย่างไรเขาก็ไปสู้ความสว่างของจิตคนห้าคนไม่ได้หรอก



โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเราเปรียบเทียบแล้ว อย่างภูมิอื่น ภูมิที่ต่ำกว่าเรา
จะเป็นพวกเปรตมีฤทธิ์หรืออะไรก็แล้วแต่
เขาไม่สามารถที่จะรวมกำลังหนักแน่นได้เท่ากับจิตของมนุษย์นะ
แต่ต้องเป็นจิตของมนุษย์ที่มีความตั้งมั่น แล้วก็มีลักษณะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วย
ไม่ใช่ว่าอย่างในบ้านห้าคน มีคนกลัวเสียสาม ครึ่งกล้าครึ่งกลัวเป็นคนที่สี่
แล้วคนที่ห้าค่อยมีความกล้าอยู่แค่คนเดียว มีความหนักแน่นในบุญกุศลอยู่แค่คนเดียว
ก็เหมือนกับเอาความกลัวของคนสี่คนไปเพิ่มความได้ใจให้กับคนที่เขามารบกวนได้
ถ้าเขาจะมาแบบนักเลงนะ
คือลองคิดดูแล้วกัน อย่างเวลาที่เรายังเป็นมนุษย์อยู่นี่
ถ้าหากเห็นใครกลัว มันจะมีความรู้สึกกระหยิ่ม มันจะมีความรู้สึกย่ามใจ
มันจะมีความรู้สึกว่า เออ เรามีอำนาจเหนือกว่า แล้วก็อยากจะมารังแกได้เรื่อยๆ
แต่ถ้าหากว่าต้องไปเจอกับคนที่เขามีความกล้า เขามีความเข้มแข็งนะ
ความรู้สึกอยากรังแก ความรู้สึกอยากจะมาเบียดเบียนกันก็ลดลงหรืออาจจะไม่เหลือเลย



อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่จะบอก ถือว่าเป็นการตอบไปโดยรวมเลยแล้วกันนะ
เมื่อกี้ถามเรื่องผีอำ ช่วงหลังๆ จะมีคนถามมากันอยู่เรื่อยๆ
ว่าถ้าหากโดนในลักษณะที่รบกวนเลย มาให้เห็นตัวกัน
มาให้เห็นเป็นนิมิต มาให้เห็นเป็นเรื่องเป็นราว
ก็ถือว่าตอบรวมกันไปนะครับ
ถ้าคนยังไม่เคยเจอ บางทีอาจจะฟังแล้วเป็นการ์ตูน
หรือว่าเป็นเหมือนกับเรื่องของอุปาทาน เรื่องของอะไร
แต่คนที่เขาเคยเจอ เขาจะไม่รู้สึกอย่างนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าบางแห่งนี่ก็เจอพร้อมๆ กัน หรืออาจจะเรียกว่าเจอกันเป็นทีมนะ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP