สารส่องใจ Enlightenment

ทำบุญอย่างไรจึงจะได้บุญมาก



วิสัชนาธรรม โดย พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี)
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



อุบาสิกาคนหนึ่งถามว่า

ปุจฉา – ทำบุญอะไร มากและน้อยอย่างไร จึงจะได้บุญมาก

วิสัชนา - ทำบุญอย่างหนึ่ง ทำทานอย่างหนึ่ง ทำกุศลอย่างหนึ่ง ไม่เหมือนกัน
แต่ลงที่เจตนาอันเดียวเป็นรากฐาน



ทำบุญ นั้น มีเจตนาศรัทธาเป็นทุนก่อน จะมีวัตถุหรือไม่ก็ตาม
ศรัทธานั้นเต็มเปี่ยมบริบูรณ์อยู่ในใจแล้ว
ยิ่งมีวัตถุสิ่งของเป็นเครื่องแสดงให้ไปก็ยิ่งเพิ่มศรัทธาขึ้นเป็นทวีคูณ นี่เรียกว่าบุญ
บุญคือความยินดีในสิ่งที่ตนให้แล้วเกิดเต็มเปี่ยมขึ้นมาในใจ



ทำทาน นั้น จะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม คิดจะให้แล้วก็ให้ไปเลย
ไม่ว่าสิ่งของอะไรทั้งหมด ถ้ามีเจตนาศรัทธาเลื่อมใสในบุคคลผู้รับและสิ่งที่ตนให้นั้น
หรือเอ็นดูต่อบุคคลผู้รับนั้น แล้วให้ไปเรียกว่า ทาน
สมดังคำว่า ทานํ เทติ เท ก็หมายความว่า เทให้ ทอดให้ ให้สิ่งของจึงเรียกให้ทาน



สรุปได้ว่าทำทาน คือให้สิ่งของพัสดุนั้นไม่ว่ามากหรือน้อย หยาบหรือละเอียด
ไม่ปรารถนาผลตอบแทน แต่มีเมตตาจิตเป็นพื้นฐาน
แม้ที่สุดให้ด้วยแก้ความรำคาญ เรียกว่าทำทาน



การทำบุญนั้น ต้องมีเจตนาศรัทธาเป็นพื้นฐาน ก็การให้นั่นแหละเรียกว่าทำบุญ
จะให้สิ่งของอะไรมากและน้อย หยาบและละเอียดก็ตาม
ให้แล้วหวังผลตอบแทน เช่น ปรารถนาว่าด้วยอำนาจอานิสงส์ที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญแล้วในครั้งนี้
ขอให้ได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ เป็นต้น



ทำกุศล นั้นคือทำบุญทำทานนั่นเอง แต่เป็นกุศโลบายของท่านผู้รู้ทั้งหลาย
ที่จะให้พ้นจากความอยากและความหิวทั้งปวง ทำไปเพื่อให้ใจผ่องใสสะอาด
ไม่พึงปรารถนาสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่จิตคิดจะทำภาวนาสมาธิก็เช่นเดียวกัน



ทำบุญ ทำทาน ทำกุศล ไม่ว่ามากหรือน้อย
วัตถุมิใช่ตัวบุญแท้ ตัวบุญแท้มันเกิดที่หัวใจ
คือเจตนาของบุคคลนั้นต่างหาก
ถ้าเจตนาศรัทธาในขณะใด ในบุคคลใด ในสถานที่ใด ในที่นั้นๆ ได้บุญมาก
ฉะนั้นบุญในพุทธศาสนานี้ คนทำจึงไม่รู้จักหมดจักสิ้นสักที
พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาไว้สองพันกว่าปีแล้วว่าทำบุญได้บุญเช่นไร
มาในปัจจุบันนี้หรือในอนาคต ต่อไปก็ได้อย่างนั้นเช่นเคย
คนทำบุญมากเท่าไรก็จะได้บุญมากเท่าที่ตนนั้นสามารถจะรับเอาไปได้
เหมือนกับคนนับเป็นหมื่นๆ แสนๆ ถือเทียนมาคนละเล่ม
ไปขอจุดจากผู้ที่มีเทียนที่จุดอยู่แล้ว ย่อมได้แสงสว่างตามที่ตนมีเทียนเล่มโตหรือเล่มเล็ก
ส่วนดวงเดิมที่ตนขอจุดต่อนั้นก็ไม่ดับ เทียนหลายดวงยิ่งเพิ่มแสงสว่างยิ่งๆ ขึ้นไปอีก



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


คัดจาก ปุจฉาวิสัชนาในประเทศและต่างประเทศ
พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี). กรุงเทพ : ชวนพิมพ์ ๕๐
, ๒๕๕๓


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP