สารส่องใจ Enlightenment

อานิสงส์ของการทำบุญกฐิน



วิสัชนาธรรม โดย หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร




ปุจฉา (๑) หลานอยากทราบว่าอานิสงส์ของการทำบุญกฐิน เหตุใดจึงเรียกว่ากฐิน
เหตุใดจึงมีเฉพาะ ๑ เดือนหลังจากออกพรรษาแล้วเท่านั้น



วิสัชนา (๑)  อานิสงส์ของการทำบุญกฐินได้ ๘๐ กัปป์
กัปป์หนึ่งมีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์บ้าง ๔ พระองค์บ้าง
ส่วนกัปป์เราปัจจุบันนี้มีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
คือ ๑. กกุสันโธ ๒. โกนาคมโน ๓. กัสสโป ๔. โคตโมกำลังเป็นอยู่นี้
๕. อริยเมตไตยโย แต่จะมาในข้างหน้า ยังเป็นเวลาอีกหลายล้านปีในเมืองมนุษย์
จึงจะเรียกว่ากัปป์หนึ่งนับทั้งที่ล่วงมาแล้ว กกุสันโธ



ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น เหตุที่เรียกว่า "กฐิน" นั้น
เพราะเรียกตามชื่อไม้สดึงที่ลาดหรือกางออกเพื่อขึงจีวรเย็บ
เพราะในครั้งพุทธกาลเย็บมือคน ไม่ได้เย็บจักรเหมือนทุกวันนี้ เพราะไม่มีจักร
ที่ว่าเป็นไม้สดึงที่ขึงลาดและกางออกนั้น เพื่อให้ผ้าตึงไม่ให้หดหู่เป็นต้น
มีปัญหาว่าเราเย็บจักรแทนไม่ได้เอามือเย็บ จะใช้ได้หรือไม่
ก็ใช้ได้อยู่เต็มภูมิ เพราะเย็บจักรก็เอามือเย็บ
และเหตุที่มีเฉพาะ ๑ เดือน หลังออกพรรษาแล้วเท่านั้น

เพราะเหตุว่า พระบรมศาสดาทรงให้ภิกษุทำจีวรกาลอันเป็นการใหญ่
แต่ละปีก็กำหนดไว้นับแต่ออกพรรษาแล้วถึงเพ็ญเดือนสิบสองเท่านั้น



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - - -



ปุจฉา (๒) เรื่องกฐิน ผมเคยได้ยินมาว่า ถ้าเราจะทำกฐินวัดใด
พระในวัดนั้น ห้ามพูดบอกเกี่ยวกับเรื่องกฐิน แต่ถ้าถามพระวัดอื่นๆ ก็ได้ไม่ผิด
แต่หลวงปู่บอกว่าถ้าพระบอกแล้วจะเป็นกฐินวจีวิญญัติ
ผมขอความกระจ่างแนะนำด้วยครับ



วิสัชนา (๒) –  เรื่องกฐินที่ห้ามไม่ให้พระเทศน์เอาตามอำเภอใจนั้น
หมายความว่าโดยไม่ได้ปรึกษาแล้วพระไปเทศน์เอาเองหมด น้อมมาใส่ตัวและวัดของตัวด้วย
แต่เมื่อทายกถามเพื่อจะเข้าใจความหมาย
พระผู้ตอบจะเป็นพระวัดกฐินนั้นก็ดี หรือวัดอื่นก็ดี ก็เป็นของพูดยากอยู่บ้าง
นี้พูดตามนิสัยของหลวงปู่โดยไม่ได้หมายทั่วไปกับท่านพระภิกษุอื่น
หลวงปู่เข้าใจว่าถ้าญาติโยมตั้งใจไว้อย่างหนึ่ง
คือประมาณมูลค่าไว้ในใจของโยม จะซื้ออัฐบริขารเพียงเท่านั้นในใจของตนอยู่
ถ้าพระไปบอกให้เกินค่าของตนที่ตั้งไว้ก็คงจะไม่เหมาะ
ถ้าหากว่าเราตั้งใจไว้ในราคาบริขารสูง
บังเอิญพระผู้บอกไปบอกเพียงราคาที่เราตั้งไว้ในใจนั้นก็ดีไป
ถ้าหากว่ามันเหนือที่ตั้งไว้ในใจ ข้อนี้แหละมันตัดสินยาก
ถ้าน้อยกว่าที่ญาติโยมตั้งไว้ในใจก็ไม่เป็นปัญหาอะไร


อนึ่ง เราถามพระวัดอื่นให้พระวัดอื่นบอก
ถ้าวัดอื่นเป็นนิกายเดียวกัน พระผู้ตอบถ้าเป็นนิสัยของหลวงปู่ก็ตอบยากอยู่อีก
แต่ถ้าเป็นองค์อื่น เมื่อถูกถามเข้าท่านก็จะตอบไปตามธรรมดาที่เคยได้ทำมาก็อาจเป็นได้
แต่จะถึงอย่างไรก็ต้องให้เอาตามศรัทธาเดิมที่ตั้งไว้ซะ
ข้อนี้เป็นที่สะดวกของหลวงปู่ หลวงปู่ตอบได้เพียงแค่นี้
ส่วนท่านผู้อื่นจะตอบอย่างไรก็ให้เป็นเรื่องของท่านผู้อื่นซะ
นิสัยของหลวงปู่ ถ้าจะมีผู้บริจาคมาในวัดของตนก็ดี มาในวัดของท่านผู้อื่นก็ดี
จะฉลองว่าดีละๆ อย่างเดียวก็คล้ายๆ กับว่าฉลองกิน
แต่เมื่อเจตนาไม่เป็นอย่างนั้น ก็ไม่พ้นจะระวังคำพูด
เพราะเรื่องเหล่านี้ ถ้าพลาดเข้ามันก็เป็นโลกวัชชะโลกติเตียน
ผู้ใจต่ำติเตียนไม่เป็นปัญหา ผู้ที่ใจสูงติเตียนนั่นหนาควรคิด
จะอย่างไรก็ตามขอให้ทำตามเจตนาของพวกลูกๆ ที่ตั้งไว้นั่นเถิด



อีกประการหนึ่ง ธรรมเนียมของพระกัมมัฎฐานชอบกรานผ้าสบง
แต่เป็นผ้าที่พระกัมมัฎฐานตัดเองย้อมเองเย็บเองในวันนั้น
ผ้าสบงผืนหนึ่ง ถ้าหากว่าผ้ากว้าง ๙๐ ซม. อย่างนี้ก็ยาวประมาณ ๕ เมตร มาตัดก็พอ
และก็ต้องเป็นผ้าที่หนาบ้างคือผ้าขาว
ส่วนผ้าบริวารและของอื่นๆ นั้นก็แล้วแต่ศรัทธา
และให้เข้าใจว่า ผ้าในองค์กฐินนั้น ซึ่งจะเป็นตัวกฐินแท้ๆ นั้นมีผ้าอยู่ ๓ ผืนเท่านั้น
คือผ้าสังฆาฏิหนึ่ง ผ้าจีวรหนึ่ง ผ้าสบงหนึ่ง
ทั้ง ๓ ตัวนี้จะเอาเป็นองค์กฐินตัวใดตัวหนึ่งก็ได้
ธรรมเนียมพระกัมมัฏฐานก็ต้องตัดผ้าสบง
เพราะตัดง่าย เสร็จเร็ว เย็บแล้วง่าย ย้อมแล้วง่าย สำเร็จทันในวันนั้น
ส่วนผ้าจีวรมันได้ใช้ผ้ามาก ผ้าสังฆาฏิก็ได้ใช้มาก
ผ้าจีวรก็ไม่ต่ำกว่าสิบเมตรสำหรับคนขนาดกลาง
ผ้าสังฆาฏิสองชั้นก็ไม่ต่ำกว่า ๑๘ เมตรคนขนาดกลางไม่ใหญ่โต
แต่ผ้าสังฆาฏิและจีวรเนื้อบาง เนื้อแน่นและเนื้อถี่ แต่ว่าบางกว่าสบง


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


คัดจาก หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP