ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

วัชชีปุตตสูตร ว่าด้วยการเจริญไตรสิกขาเพื่อละอกุศลมูล


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๕๒๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ กูฏาคารศาลา ในป่ามหาวัน ใกล้กรุงเวสาลี
ครั้งนั้น ภิกษุวัชชีบุตรรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สิกขาบทที่สำคัญ ๑๕๐ ถ้วนนี้
ย่อมมาสู่อุทเทส (สวดในท่ามกลางสงฆ์) ทุกกึ่งเดือน
ข้าพระพุทธเจ้าไม่สามารถศึกษา (ปฏิบัติรักษา) ในสิกขาบทมากนี้ได้พระพุทธเจ้าข้า.


พระผู้มีพระภาคเจ้า. ภิกษุ ก็เธอสามารถที่จะศึกษาในสิกขา ๓ คือ
อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา หรือไม่.


ภิกษุวัชชีบุตร. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าสามารถศึกษาในสิกขา ๓ คือ
อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขาได้.


พระผู้มีพระภาคเจ้า. ภิกษุ เพราะเหตุนั้น เธอจงศึกษาในสิกขา ๓ คือ
อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา นี้เถิด
ภิกษุ เมื่อใดเธอจักศึกษาทั้งอธิศีล ทั้งอธิจิต ทั้งอธิปัญญา
เมื่อเธอศึกษาทั้งอธิศีล ทั้งอธิจิต ทั้งอธิปัญญา
ก็จักละราคะ โทสะ โมหะได้
เพราะละราคะ โทสะ โมหะได้
กรรมใดเป็นอกุศล เธอก็จักไม่ทำกรรมนั้น
กรรมใดเป็นบาป เธอก็จักไม่เสพกรรมนั้น.


ต่อมา ภิกษุนั้นได้ศึกษาอธิศีล ได้ศึกษาอธิจิต ได้ศึกษาอธิปัญญา
เมื่อเธอศึกษาทั้งอธิศีล ทั้งอธิจิต ทั้งอธิปัญญา
เธอก็ละราคะ โทสะ โมหะได้
เพราะละราคะ โทสะ โมหะได้
กรรมใดเป็นอกุศล เธอก็ไม่ทำกรรมนั้น
กรรมใดเป็นบาป เธอก็ไม่เสพกรรมนั้น.


วัชชีปุตตสูตร จบ



(วัชชีปุตตสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๔)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP