จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

ลงทุนได้ผลคุ้มค่ากว่า


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it


153 destination



เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมได้ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพงานหนึ่ง
โดยได้รับแจกของที่ระลึกเป็นหนังสือธรรมะ และหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยถึงผู้ถึงแก่กรรม
ในส่วนของหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยนี้ทำได้ดีทีเดียว
ผมสันนิษฐานว่าเจ้าภาพต้องลงทุนลงแรงไม่น้อย เพราะจัดทำขึ้นในเวลาไม่กี่วัน
ซึ่งก็ถือว่าเป็นการที่บุตรหลานได้ประกาศเกียรติคุณของผู้ถึงแก่กรรม


อย่างไรก็ดี หากเราจะลองพิจารณาเปรียบเทียบระหว่าง
การแจกหนังสือธรรมะและการแจกหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยแล้ว
เราจะเห็นได้ว่าหนังสือธรรมะนั้นลงทุนลงแรงน้อยกว่า
เพราะเพียงแต่ไปเลือกซื้อเล่มที่สนใจแล้วก็นำมาแจกเท่านั้น
แต่ในส่วนหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยนั้น ต้องรวบรวมข้อมูลเนื้อหา
ต้องเขียนข้อมูล ใส่ภาพ และรวบรวมข้อมูลคำไว้อาลัยจากผู้ไว้อาลัยท่านอื่น ๆ
ต้องติดต่อโรงพิมพ์ และต้องดำเนินการจัดพิมพ์ ฯลฯ ซึ่งมีเวลาอันจำกัดคือไม่กี่วัน
จึงต้องลงทุนลงแรงเยอะกว่ามาก


แต่หากเราพิจารณาในแง่ของบุญกุศลแล้ว
หนังสือธรรมะที่แจกให้ย่อมเป็นประโยชน์ในการให้ธรรมะแก่ผู้อ่านได้
และเมื่อผู้อ่านนำไปศึกษาและปฏิบัติย่อมเป็นบุญกุศลแก่ผู้อ่าน
ในส่วนหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยนั้นย่อมเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้อ่าน
และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านเช่นกัน แต่ว่าจะก่อบุญกุศลแก่ผู้อ่านหรือไม่นั้นยังไม่แน่
ดังนั้นแล้ว หากเราเปรียบเทียบในแง่ของบุญกุศลที่เราจะอุทิศให้แก่ผู้ถึงแก่กรรมแล้ว
โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่าการแจกหนังสือธรรมะนั้น เราจะอุทิศบุญกุศลให้แก่ผู้ถึงแก่กรรมได้มากกว่า
ทั้งที่การจัดหาหนังสือธรรมะมาแจกนั้นลงทุนลงแรงน้อยกว่าหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยเสียอีก


อนึ่ง เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน ผมไม่ได้บอกว่าเราไม่ควรแจกหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยนะครับ
ในส่วนของงานพระราชทานเพลิงศพที่ผมได้ไปร่วมงานนั้น

เจ้าภาพของงานก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีสำหรับผู้ถึงแก่กรรมแล้ว
โดยก็แจกทั้งหนังสือธรรมะ และหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยด้วยกัน


แต่หากสมมุติว่าเราเป็นเจ้าภาพและเราสามารถแจกหนังสือได้เพียงเล่มเดียวแล้ว
ผมกำลังเปรียบเทียบให้เห็นว่าหนังสือชีวประวัติและคำไว้อาลัยนั้นลงทุนลงแรงมากกว่า
แต่ว่าได้บุญกุศลที่จะนำไปอุทิศให้แก่ผู้ถึงแก่กรรมน่าจะมีน้อยกว่า
ในขณะที่หนังสือธรรมะนั้นลงทุนลงแรงน้อยกว่า
แต่ว่าเราจะได้บุญกุศลที่จะนำไปอุทิศให้แก่ผู้ถึงแก่กรรมมากกว่า
ฉะนั้นแล้ว หากเรามองในแง่ของการลงทุนลงแรง
และการได้บุญกุศลเพื่อนำไปอุทิศให้แก่ผู้ถึงแก่กรรมแล้ว
การแจกหนังสือธรรมะเป็นการลงทุนลงแรงน้อยกว่า แต่ให้ผลที่คุ้มค่ามากกว่าครับ


ในเรื่องของการลงทุนสร้างบุญกุศลในชีวิตจริงของเรา เพื่อให้ผลที่คุ้มค่านั้น
เหตุการณ์ทำนองนี้ก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ ๆ นะครับว่า
ในบางที เราอาจจะมุ่งลงทุนลงแรงทำโครงการอะไรใหญ่โต ซึ่งต้องลงทุนลงแรงมาก
แต่กลับจะได้บุญกุศลน้อยกว่าการที่เราทำอย่างอื่นที่ลงทุนลงแรงน้อยกว่าเสียอีก
ยกตัวอย่างเช่น บางทีเราอาจจะต้องการลงทุนทำโครงการงานบุญใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง
ทำให้เราต้องดิ้นรนขวนขวายเหน็ดเหนื่อยไปทำงานหาเงินมากมาย
แต่เรากลับจะได้บุญกุศลน้อยกว่าการที่เราตั้งใจรักษาศีล และตั้งใจภาวนาเสียอีก
อย่างผมเอง เคยฟังญาติธรรมบางท่านหนึ่งบอกว่าเขาตั้งใจจะเก็บเงินไว้เยอะ ๆ
เพื่อไปทำโครงการบุญกุศลบางอย่างในอนาคต เช่น สร้างมูลนิธิหรือสร้างวัด เป็นต้น
ซึ่งในการเตรียมเงินเพื่อการดังกล่าว ย่อมจะต้องลงทุนลงแรงทุ่มเททำงานมากและเก็บเงินเยอะ
แต่ในทางกลับกัน หากเรามุ่งจะรักษาศีล และมุ่งปฏิบัติภาวนาในปัจจุบันแล้ว
เราไม่ต้องลงทุนลงแรงทำงานเก็บเงินอะไรมากมาย
แต่ผลของการรักษาศีล และการมุ่งปฏิบัติภาวนาในปัจจุบันนี้
กลับจะให้ผลที่คุ้มค่ายิ่งกว่าการมุ่งเก็บเงินเพื่อโครงการบุญดังกล่าวในอนาคตด้วย


บางท่านอาจจะสงสัยว่าที่กล่าวเช่นนี้จริงหรือไม่
เราก็อาจจะลองพิจารณาเปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า
หากจะให้เราทำงานเก็บเงินให้ได้สิบล้านหรือร้อยล้าน ถามว่ายากไหม และเป็นไปได้ไหม
เทียบกับว่าเราไม่ต้องเก็บเงินให้ถึงสิบล้านหรือร้อยล้าน
แต่ให้เราตั้งใจถือศีลให้แข็งแรง ถามว่ายากไหม และเป็นไปได้ไหม
ระหว่างการตั้งใจถือศีลให้แข็งแรงกับการมุ่งเก็บเงินให้ได้ร้อยล้านอย่างไหนน่าจะง่ายกว่ากัน
ในขณะที่การถือศีลให้แข็งแรงนั้นให้อานิสงส์ที่สำคัญหลายประการ
แต่การเก็บเงินให้ได้ร้อยล้านนั้นจะได้อานิสงส์อะไรก็ยังไม่ทราบ
เพราะขึ้นอยู่กับว่าจะนำเงินนั้นไปใช้ประโยชน์อะไร


สำหรับโครงการงานบุญใหญ่ ๆ ในปัจจุบันก็เช่นเดียวกันนะครับ
หากเราจะทำโครงการงานบุญใหญ่ใด ๆ แล้ว
เราก็ควรพิจารณาว่าเราจะต้องลงทุนลงแรงและใช้เวลาเพียงใด และได้ผลคุ้มค่าหรือไม่
เทียบกับว่าเรานำแรงและเวลาดังกล่าวไปตั้งใจรักษาศีล และปฏิบัติภาวนาแล้ว
เราอาจจะพบว่าต้องลงแรงและเวลาน้อยกว่า แต่ให้ผลคุ้มค่าที่มากกว่าอย่างมากมายครับ
ฉะนั้นแล้ว เราจะลงทุนลงแรงและเวลาอะไร ก็ต้องพิจารณาด้วยครับว่า
ลงทุนแล้วได้ผลคุ้มค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าอย่างไรหรือไม่ เพราะเวลาชีวิตเรามีจำกัดมาก


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


หมายเหตุ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ศาลาปฏิบัติธรรมได้วางแผ่นปูนสำเร็จ
และเทพื้นปูนตรงศาลา และระเบียงเสร็จแล้ว และกำลังเริ่มทำแบบเสาครับ
โดย ณ วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๘ มียอดเรี่ยไรสะสมทั้งหมดประมาณ ๔.๘๗ ล้านบาท (๗๕% ของงบประมาณ)
ยังขาดปัจจัยสำหรับก่อสร้างอยู่อีกประมาณ ๑.๖๓ ล้านบาท (๒๕% ของงบประมาณ)


จึงขอเรียนเชิญญาติธรรมท่านที่สนใจร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
เพื่อประโยชน์ในการจัดค่ายศีลธรรมสอนธรรมะแก่เด็ก ๆ เยาวชน
ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังต่อไปนี้
ชื่อบัญชี นายสันติ คุณาวงศ์ นางปราณี ศิริวิริยะกุล และนางพจนา ทรัพย์สมาน
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาแฟรี่แลนด์ นครสวรรค์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 881-223306-7


ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมได้ที่
http://www.facebook.com/rooguyroojai
และสามารถติดตามความคืบหน้าของการเรี่ยไรและสำเนาหน้าสมุดบัญชีรับบริจาคได้ที่
กระทู้ในเว็บไซต์ลานธรรมตามลิงค์นี้ครับ
เชิญร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ชมรมเรียนรู้กายใจ จังหวัดนครสวรรค์



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP