จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

เนื้อคู่ตลอดไป


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it


150 destination



ในสัปดาห์ที่แล้ว เราก็เพิ่งผ่านพ้นวันวาเลนไทน์กันมานะครับ
ช่วงวันวาเลนไทน์นี้ก็มีญาติธรรมบางท่านส่งข้อความ Happy Valentine’s Day มาให้
ซึ่งหมายถึงว่าอวยพรขอให้มีความสุขในวันวาเลนไทน์
ทีนี้ ถ้าเรายึดถือตามพรนี้ว่า ให้เรามีความสุขในวันวาเลนไทน์แล้ว
ก็น่าจะมีคำถามตามมาว่า แล้ววันอื่น ๆ ที่เป็นวันธรรมดาไม่ใช่วันวาเลนไทน์
และไม่ใช่วันที่เราได้รับพรล่ะ เราจะมีความสุขด้วยหรือเปล่า
หรือเราจะมีความสุขเฉพาะแค่ในวันวาเลนไทน์และวันอื่น ๆ ที่ได้รับพรเท่านั้น


ในความเป็นจริงแล้ว วันต่าง ๆ นั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์เรากำหนดขึ้นมานะครับ
โดยทุกวันก็มีความเหมือนกันคือ แบ่งเป็นกลางวันและกลางคืนเหมือนกัน
และแบ่งเวลาออกเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนกัน
เราจะมีความสุขหรือไม่ในแต่ละวันและเวลาดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับว่า
เราสร้างเหตุปัจจัยให้เกิดผัสสะอะไรขึ้นมา
เพราะว่าเวทนาคือสุขและทุกข์นั้นเกิดขึ้นโดยผัสสะเป็นปัจจัย (ตามหลักปฏิจจสมุปบาท)
ไม่ได้เกิดขึ้นตามวันว่า วันนี้เป็นวันธรรมดา หรือเป็นวันพิเศษนะครับ


ในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ผมได้ฟังบางท่านบอกว่า
คนที่มีแฟนก็ย่อมมีความสุขในวันวาเลนไทน์
ส่วนที่คนไม่มีแฟนก็ไม่มีความสุขในวันวาเลนไทน์
ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการกล่าวแบบเหมารวมเกินไปนะครับ
ยกตัวอย่างว่า คนที่มีแฟนแล้วก็ตาม แต่หากแฟนทำตัวไม่ดี หรือเขาเองประพฤติตนเองไม่ดี
หรือเขาเองอาจมีปัญหาชีวิตอื่น ๆ เขาก็อาจจะไม่มีความสุขก็ได้
แต่สำหรับบางคนไม่มีแฟน แต่ก็มีความพอใจที่จะอยู่สันโดษ ไม่ได้อยากมีแฟน
และเขาประพฤติตนเองดี เขาเองก็อาจจะมีความสุขกว่าคนมีแฟนก็ได้
ดังนี้ การที่มีแฟนนั้นก็ไม่ได้แปลว่ามีแล้วจะมีความสุขมากกว่าคนไม่มีหรอกครับ
แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน


ถึงกระนั้นก็ตาม บางท่านก็ยังขวนขวายและมุ่งจะหาแฟนให้ได้
ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ก็ต้องยอมรับว่า หาผู้ชายมาเป็นแฟนยากมาก
เนื่องจากจำนวนผู้หญิงมีเยอะกว่า และจำนวนผู้ชายแท้ลดลงมาก
ยกตัวอย่างว่าผมเองทำงานในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งนะครับ
มีอยู่วันหนึ่งผมกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งลงลิฟท์มาด้วยกันในตอนเที่ยง
เพื่อจะเดินไปทานข้าวที่ศูนย์อาหาร ลิฟท์ก็แวะเปิดรับคนตามชั้นต่าง ๆ ลงมาเรื่อย ๆ
ซึ่งก่อนที่จะถึงชั้นล่างนั้น ปรากฏว่าคนในลิฟท์ทั้งหมดมี ๑๖ คน
โดยเป็นผู้หญิงอยู่ ๑๕ คน และมีผมเป็นผู้ชายคนเดียวในลิฟท์
พอออกจากลิฟท์มาแล้ว เพื่อนร่วมงานผมก็ถามผมว่าผู้ชายหายไปไหนหมด
ผมก็ตอบว่า ช่วยถามอะไรที่ผมรู้คำตอบหน่อยสิ คำถามนี้ผมไม่รู้คำตอบ
ถัดมาอีกไม่กี่วัน ผมกับเพื่อนร่วมงานคนเดิมก็ลงลิฟท์มาด้วยกันอีกในตอนเที่ยง
คราวนี้หนักกว่าเดิมอีก โดยคนในลิฟท์ทั้งหมดมี ๑๗ คน
โดยมีผู้หญิงอยู่ ๑๖ คนและมีผมเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในลิฟท์ขณะนั้น


ท่านผู้อ่านก็อาจจะลองสังเกตด้วยตนเองก็ได้นะครับ
โดยเวลาที่จะไปไหนมาไหนก็ตาม ท่านลองสังเกตตามป้ายรถเมล์
หรือบนรถเมล์ ในร้านอาหาร หรือตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ก็ได้
แล้วก็จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้ว จำนวนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายครับ
(นอกจากนี้ เรายังไม่ทราบด้วยว่าผู้ชายที่เราเห็นนั้น เขาชอบผู้หญิงหรือเปล่าด้วย)
สรุปแล้ว การจะหาผู้ชายมาเป็นแฟนในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ง่ายเลย


ในเรื่องของการหาแฟนหรือการเป็นเนื้อคู่กันนี้ ผมได้อ่านพบบางท่านกล่าวทำนองว่า
การที่ชายและหญิงจะเป็น “เนื้อคู่ตลอดไป” นั้น ทำได้ไม่ยาก
เพียงแค่ร่วมกันปฏิบัติตนให้มี ศีล ทาน และปัญญาให้เสมอกัน และมีอธิษฐานร่วมกัน
ก็จะสามารถเป็นเนื้อคู่ตลอดไปได้ โดยก็อ้างว่ามาจากคำสอนของพระผู้มีพระภาคด้วย
แต่หากเราได้ลองอ่านและพิจารณาคำสอนของพระผู้มีพระภาคแล้ว
เราจะพบว่าท่านไม่ได้ตรัสไว้อย่างนั้นนะครับ


ใน “สมชีวิสูตรที่ ๑” (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต) นั้น
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดูกรคฤหบดีและคฤหปตานี ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง

หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้
ทั้งสองเทียวพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ


ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ
มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน

ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก
ทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน
ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน
ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก”
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=1642&Z=1669&pagebreak=0


ทั้งนี้ ใน “สมชีวิสูตรที่ ๒” (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต) นั้น
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ในทำนองเดียวกัน
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=1670&Z=1682&pagebreak=0


สังเกตว่า “สมชีวิสูตร” ได้กล่าวว่าสามีและภรรยามีมีศรัทธาเสมอกัน
มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน
ซึ่งในส่วนของ “ปัญญา” นี้ โดยส่วนตัวผมแล้วเห็นว่าน่าจะหมายถึง “ปัญญาทางธรรม”
ไม่ใช่ “ปัญญาทางโลก” นะครับ ไม่ใช่ว่าจบปริญญาเอกแล้วไม่ควรแต่งงานกับปริญญาตรี
หรือจบปริญญาเอกแต่งงานกับปริญญาเอกแล้วจะได้พบกันบ่อยในชาตินี้และชาติหน้า
ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เก่งทางโลกกับเก่งทางโลกมาเจอกัน อาจจะทะเลาะกันอย่างจัดหนักก็ได้
และกลายเป็นคู่เวรจองล้างจองผลาญอย่างไม่เผาผีกันก็ได้


ทีนี้ เราลองสังเกตนะครับว่าใน “สมชีวิสูตร” ท่านกล่าวว่า
ผลของการที่สามีและภรรยามีมีศรัทธาเสมอกัน
มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกันนั้นก็คือ
“ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ” และ
“ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก”
โดย “สมชีวิสูตร” ไม่ได้บอกว่าจะเป็นเนื้อคู่กันตลอดไปนะครับ
แต่ว่าท่านใช้คำว่า “ย่อมได้พบกันและกัน” ซึ่งคำนี้ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นเนื้อคู่กัน
แต่อาจจะพบกันในฐานะพี่น้อง พ่อแม่ลูก ญาติสนิทอื่น ๆ ก็ได้ ก็ถือว่าได้พบกันและกันแล้ว
การที่บางท่านไปตีความเอาเองว่าจะเป็นเนื้อคู่กันไปตลอดนั้น ย่อมคลาดเคลื่อนครับ


นอกจากนี้ กรณีก็เป็นไปได้ว่า ทั้งสองคนได้พบกัน โดยเกิดมามีเพศเดียวกัน
เช่น เป็นชายเหมือนกัน เป็นหญิงเหมือนกัน
เป็นเทพบุตรเหมือนกัน เป็นนางฟ้าเหมือนกัน
ดังนั้น การที่จะตีความว่าจะได้เป็นเนื้อคู่กันตลอดไปนั้น
จึงน่าจะคลาดเคลื่อนจากถ้อยคำในพระสูตรครับ


ยิ่งไปกว่านั้น กรณีที่เราวนอยู่ในสังสารวัฏนี้
เราจะเลือกเกิดเป็นมนุษย์กับเทวดาเท่านั้น ก็เป็นไปไม่ได้หรอกครับ
เพราะบางช่วงก็จะต้องลงนรกกันบ้าง และบ่อย ๆ เสียด้วย
ทีนี้ เราจะมาบอกว่าต้องเป็นเนื้อคู่กันตลอดไปนั้น ไม่น่าจะทำได้ครับ
แม้แต่พระโพธิสัตว์เองในช่วงที่บำเพ็ญบารมีนั้น
ท่านก็ยังมีพลาดพลั้งไปนรกได้บ้างเป็นธรรมดา
ซึ่งเป็นความน่ากลัว และโหดร้ายของสังสารวัฏครับ
(โดยในช่วงสังสารวัฏที่ผ่านมา เราเองก็ย่อมจะเคยมีสามีภรรยามาแล้วนับไม่ถ้วน
มีพ่อแม่มาแล้วนับไม่ถ้วน มีลูกหลานมาแล้วนับไม่ถ้วน
แต่เราก็ยังไม่รู้จักพอนะครับ พอได้โอกาสมาเป็นมนุษย์อีก ก็อยากจะมีใหม่อีก)
ดังนั้นแล้ว ถ้าเราเข้าใจตรงนี้แล้ว
ไม่ควรไปฝากความหวังอะไรกับวันวาเลนไทน์ หรือเนื้อคู่
แต่ควรมุ่งประพฤติปฏิบัติเพื่อออกจากสังสารวัฏเลย จะเป็นประโยชน์มากกว่าครับ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


หมายเหตุ ขณะนี้ศาลาปฏิบัติธรรมที่อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์
อยู่ระหว่างการสร้างฐานของศาลาครับ
โดยยังขาดแคลนปัจจัยสำหรับก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก
จึงขอเรียนเชิญญาติธรรมท่านที่สนใจร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
เพื่อประโยชน์ในการจัดค่ายคุณธรรมสอนธรรมะแก่เด็ก ๆ เยาวชน
ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังต่อไปนี้


ชื่อบัญชี นายสันติ คุณาวงศ์ นางปราณี ศิริวิริยะกุล และนางพจนา ทรัพย์สมาน
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาแฟรี่แลนด์ นครสวรรค์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 881-223306-7


ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมได้ที่
http://www.facebook.com/rooguyroojai
และสามารถติดตามความคืบหน้าของการเรี่ยไรและสำเนาหน้าสมุดบัญชีรับบริจาคได้ที่
กระทู้ในเว็บไซต์ลานธรรมตามลิงค์นี้ครับ
เชิญร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ชมรมเรียนรู้กายใจ จังหวัดนครสวรรค์



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP