ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ความเหงาเกิดจากกรรมอะไร



ถาม – ผมเห็นเพื่อนจำนวนมากเขียนในเฟสบุ๊คว่าเหงาจังๆ
เลยสงสัยว่าความเหงาเกิดจากกรรมอะไรครับ



ความเหงาเป็นอารมณ์หนึ่งของใจนะครับ
ที่เกี่ยวข้องกับกรรมในปัจจุบันมากกว่าที่จะเป็นกรรมในอดีตนะ
ถ้าดู
‘อารมณ์เหงา’ มันก็เป็นการปรุงแต่งอย่างหนึ่งของจิตของใจ
ที่พูดง่ายๆ เลยก็คือไม่มีงาน

ถ้าลองอย่างนี้นะสำหรับคนเหงานะ
ถ้าหากว่า คราวหน้ามีความรู้สึกเหงาหงอย มีความรู้สึกเซื่องซึม มีความรู้สึกหดหู่
มีความรู้สึกว่าตัวเองเนี่ย ขนาดที่มีเพื่อนอยู่ในเฟซบุ๊คเป็นร้อยเป็นพัน
หรือในทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นไปอีกนะ ทั้งในประเทศทั้งต่างประเทศ
แล้วยังรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวราวกับว่าอยู่ลำพังในโลกนี้ อยู่คนเดียว
ลองดู ลองคิดอยู่ในใจดูว่า เนี่ย ใจไม่มีงาน
เอาแค่นี้เลยนะ แค่คิดอย่างเดียว ขณะเหงานี่ว่า
ใจไม่มีงาน ใจไม่มีงานๆ

เหมือนกับท่องคาถาอะไรซักอย่างหนึ่ง แต่ไม่ต้องไปคิดอะไรทั้งสิ้นนะ
เอาแค่ทำความรู้สึกเข้าไปนะว่าเนี่ย ที่เหงาได้เนี่ยเพราะใจไม่มีงาน



ตอนแรกๆ อาจจะยังไม่รู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง
เพราะจิตใจคล้ายๆ กับมีอะไรกั้นอยู่
ระหว่างความเข้าใจกับความจริงนะครับ ที่มันเป็นธรรมชาติของจิต
ตอนแรกๆ จะไม่เข้าใจ มันจะมีความเหงา
แล้วก็ความเหงาน่ะเรียกหาอะไรก็ไม่ทราบ เรียกหาใครก็ไม่รู้
แต่พอท่องไปเรื่อยๆ ใจไม่มีงาน ใจไม่มีงาน ใจไม่มีงาน ไปเนี่ย
วันหนึ่งมันเกิดความรู้สึกปิ๊ง ขึ้นมาเองว่า
เออ ที่เกิดอารมณ์เหงา ก็เพราะว่ามันว่างงาน
ต่อให้กำลังทำงาน คิดว่ากำลังทำงานอยู่ก็ตามนะ
ต่อให้กำลังขีดเขียนอะไรอยู่ก็ตาม
มันอาจจะไม่ใช่งาน มันอาจจะไม่ใช่อะไรที่เป็นประโยชน์มากพอที่จะทำให้หายเหงา
การปรุงแต่งของใจเนี่ยนะ ที่ก่อให้เกิดอารมณ์เหงาได้
เหตุสำคัญที่สุดเลยก็เพราะว่าใจมันมีความฟุ้งซ่าน มีความเลื่อนลอย มีความเหม่อ
มีความรู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นที่พึ่ง ไม่มีอะไรเป็นที่เกาะของใจ
ถ้าหากว่าเราท่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันเกิดการนึกขึ้นมาได้ว่า
ถ้าหากมีงานที่เป็นประโยชน์ ถ้าหากมีงานที่เป็นสาระ
ถ้าหากว่าใจจดใจจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่มันมีความเจริญขึ้นได้
ไม่มีทางเลยที่จะเหงา



แต่ถ้าหากว่าใจไม่มีงานเนี่ยนะ
แล้วก็เหมือนกับมาบ่น มาระบาย มาแสดงออกถึงความฟุ้งซ่านไปเรื่อยเนี่ย
ต่อให้มีเพื่อนกี่ร้อยกี่พันคนมาช่วยกันเฮนะ มาช่วยกัน
เหมือนกับปลอบใจ หรือว่ามาช่วยกันทำให้ดูเหมือนกับมีความคึกคัก
อยู่ในสเตตัสของเรา หรือว่าในทวิตเตอร์ของเรา
อารมณ์เหงานั้นมันก็ไม่หายไป
แต่ถ้าหากว่าแทนที่จะมาระบายอารมณ์เหงาในเฟซบุ๊ค
เราไปหาอะไรอ่าน ที่มันมีความรู้สึกว่าอ่านแล้ว เจริญจิตเจริญใจขึ้นมา
อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าใจมันมีความสว่างขึ้นมา

อ่านแล้วมีความรู้สึกว่า เออ เนี่ย ปรุงแต่งความคิดไปอีกแบบหนึ่ง
เพราะว่าแทนที่จะว่าง ว่างเปล่า หรือว่ากลวงจากสาระหรือประโยชน์
มันได้อะไรบางอย่างมา อย่างเช่นธรรมะ



อย่างบอร์ดธรรมะตอนนี้มีเยอะแยะนะ
นอกจากอ่านแล้ว ลองเข้าไปเขียน ลองเข้าไปร่วม
เอาแบบที่เลือกแล้ว คัดสรรแล้วว่าเขาพูดกันเรื่องจรรโลงใจ พูดกันเรื่องที่มันไม่ทิ่มแทง
คุยกันในเรื่องที่ชี้เข้ามาหาความรู้จักกายรู้จักใจตัวเอง
หรืออย่างน้อยที่สุดชี้ไปให้เกิดความรู้จักพระพุทธเจ้า
หันกลับไปรู้จักพระพุทธเจ้า ทำความรู้จักกับธรรมะของพระพุทธเจ้า
อย่างน้อยที่สุดถามไปนิดหนึ่งก็ยังดีว่า ธรรมะคืออะไร
อาจจะมีคำตอบออกมาหลากหลาย
แต่ในที่สุดแล้ว ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าธรรมะคืออะไร
แล้วได้คำตอบเป็นการมองเข้ามาภายในตัวเอง
มองให้เห็นว่าที่กำลังเหงาอยู่ มันเพราะขาดธรรมะที่อบอุ่น
ตรงนี้น่ะนะ ถ้าหากว่าก่อกรรมแบบนี้แล้ว
ในทางที่มันสร้างสรรค์ ในทางที่มันเป็นมหากุศล
ไม่มีทางเลยที่จะเงียบเหงาได้



ถ้าไม่ชอบใจที่จะเริ่มต้นจากธรรมะ ก็อาจจะไปทำงานอย่างอื่นก็ได้
อย่างน้อยที่สุดนะ ขอให้จิตใจนี่รู้สึกถึงประโยชน์
รู้สึกถึงความปรุงแต่งในทางที่มันเป็นประโยชน์สุขก็แล้วกัน
ก็ลองเอาแนวทางนี้ไปบอกกล่าวนะครับ คนที่ชอบบ่นในเฟซบุ๊คว่าเหงาจังๆ
ก็จะได้เห็นกรรมในปัจจุบันที่เปลี่ยนความเหงาให้กลายเป็นประโยชน์ขึ้นมาได้



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP