จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว Lite Talk

ฉบับที่ ๑๔๗ ไม่มีใครพบกันโดยบังเอิญ

ห่างกันโดย ‘ระยะทาง’ ยังนับว่าใกล้
เมื่อเทียบกับห่างกันโดย ‘วงโคจร’


คุณอาจอยู่บ้านใกล้ใครบางคน
แต่ไม่เคยเห็นหน้าเลย
เจอกันข้างนอกไม่คุ้นเลย
นั่นเรียกว่า อยู่ใกล้โดยระยะทาง
แต่ห่างไกลโดยวงโคจร


ตรงข้าม คุณอาจอยู่คนละมุมเมืองกับใคร
แต่กลับมีเหตุให้ได้นัดพบกันบ่อยๆ
คุ้นเคยราวกับอยู่ย่านเดียวกันมาตลอด
นั่นเรียกว่า ระยะทางเหมือนห่างไกล
แต่วงโคจรช่วยให้ใกล้ชิด


การโคจรไปพบกับใครหรืออะไรที่พิเศษ
ดูเผินๆเหมือนสุ่มไป แค่บังเอิญเจอ
แต่แท้จริงแล้ว มีแรงขับเคลื่อนลึกลับอยู่เบื้องหลัง
ยิ่งพบคนที่ ‘มีอิทธิพลกับชีวิต’ ของคุณมากขึ้นเท่าไร
คุณยิ่งรู้สึกถึง ‘ความไม่บังเอิญ’ มากขึ้นเท่านั้น


พระพุทธเจ้าตรัสว่า
คนเราย่อมเข้ากัน (หรือแสวงหากัน) โดยธาตุนิสัย
หมายความว่า ทำตัวให้เกิดความคิดระดับไหน
ก็มีสิทธิ์ดึงดูดเข้าไปติดอยู่กับ ‘คนระดับนั้น’


พูดง่ายๆ คือ ‘กรรมใหม่’
จะเป็นตัวคัดสรรบุคคล
ที่จะยอมรับกันและกันเป็นมิตรมาให้คุณ


อย่างไรก็ตาม
คนระดับเดียวกัน ไม่ได้หมายถึงคนที่เหมือนคุณทุกอย่าง
คนระดับเดียวกันจะให้คุณให้โทษอย่างไร
ก็ขึ้นอยู่กับระดับของน้ำใจที่มีให้กันเห็นๆในวันนี้
ตลอดจน ‘เคยมี’ ให้แก่กันไว้ในอดีตเมื่อวันไหนก็ไม่รู้


พูดง่ายๆ คือ ‘กรรมเก่า’
จะเป็นตัวกำหนดเพดานชีวิตว่า
คนใกล้ชิดจะก่อสุขหรือก่อทุกข์ให้คุณได้แค่ไหน


ธรรมชาติบังคับให้มนุษย์เห็นแต่กรรมใหม่
พร้อมจะเชื่อแค่ว่า กรรมใหม่มีจริง
เพราะกรรมหมายถึงเจตนาดีร้ายที่มีให้กันเดี๋ยว


ส่วนกรรมเก่ามีหรือเปล่าไม่รู้
เพราะระลึกไม่ได้ว่าชาติก่อนไปทำอะไรมา
ตัวตนก่อนเคยทำแล้ว ลืมแล้ว
แต่ตัวตนนี้กลับต้องมารับผลอย่างที่เห็นๆอยู่
นี่ไม่ใช่กฎกติกาอันเป็นที่น่าเข้าใจหรือยอมรับ
หากใช้ระบบโหวตที่คนยุคนี้นิยมกัน
ก็คงพบว่า ๙๙.๙๙% ไม่ยอมรับ
และคงเรียกร้องให้เปลี่ยนกติกา
อยากหาคนเขียนกติกาใหม่เป็นแน่


ท่าทีแบบพุทธ คือท่าทีของคนที่ทำไว้ในใจว่า
กรรมใหม่ ดึงดูดเราไปหาคนที่ทำกรรมใหม่แบบเดียวกัน
ส่วนกรรมเก่า
จะเข้ามากำหนดให้ ‘เกิดเรื่อง’ สุขทุกข์ได้ประมาณไหน
คุณจะรู้สึกว่าตัวเองใจกว้างขึ้น
เช่น คิดว่าถ้าตามมาให้คุณให้โทษกันด้วยสายใยกรรมเก่า
เราก็สร้างสายใยกรรมใหม่ในแบบที่ช่วยให้รู้สึกดีได้
ที่ให้โทษ ก็อยากให้โทษกันน้อยลง
ที่ให้คุณ ก็อยากให้คุณกันมากขึ้น
อีกทั้งส่วนลึกจะแอบเผื่อใจไว้ว่า
ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อยากใช้ชาตินี้เป็นตัวสร้างให้มันดี
ไม่ต้องถือสากันมาก ไม่ต้องผูกปมอาฆาตแค้นกันไม่รู้จบ


อย่าเป็นพุทธที่แค่ ‘ศรัทธาเอาไว้ปลง’
หรือ ‘เชื่อเอาไว้บ่น’ เช่นพร่ำพูดซ้ำๆว่า
ฉันคงไปทำบาปทำกรรมร่วมกับเธอไว้มาก
เลยต้องมาเจอกันอีกท่านี้
เสร็จแล้วไม่คิด ไม่พยายามทำอะไรให้ดีขึ้นเลย
เพราะนั่นไม่ใช่ท่าทีแบบพุทธ แต่เหมือน ‘แพะ’
ที่ก้มหน้าก้มตารับบาปจากตัวตนก่อนท่าเดียว


ดังตฤณ
มกราคม ๕๘






การเกิดมามีชีวิตเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายและจิตใจสมบูรณ์นั้น
นับว่าได้สิ่งดีอันประมาณค่ามิได้
แล้วเราชาวพุทธจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดอย่างไร
ขอเชิญอ่านได้จากพระธรรมเทศนา
โดย พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี)
เรื่อง "ของไม่ดีเกิดจากของดี" ในคอลัมน์ "สารส่องใจ" ค่ะ (^/\^)


ใครที่รักษาศีลและปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลานาน
แล้วพบว่าไม่ว่าจะทำกรรมอะไรลงไป จะได้ผลทันตาเห็นเสมอ
ลองมาดูสาเหตุได้จากคอลัมน์ "ดังตฤณวิสัชนา"
ตอน "เมื่อตั้งใจรักษาศีลปฏิบัติธรรมแล้ว เมื่อทำบาปจะเห็นผลทันที เป็นเพราะอะไร"


คำว่า "อโหสิกรรม" มีความหมายที่แท้จริงเช่นไร
และแตกต่างจากการขอขมา ขออภัยหรือขอโทษอย่างไร
คุณงดงามมีคำอธิบายไว้อย่างละเอียด
ในคอลัมน์ "จุดหมายปลายธรรม" ตอน "อโหสิกรรม" ค่ะ



                                             

ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ



(รูปภาพหน้าปกจาก http://www.howfarbooks.com/index.php?option=com_jshopping&controller=product&task=view&category_id=2&product_id=17&Itemid=90 )


“หนังสือเล่มนี้ อาศัยกายใจของคุณขณะนั่งอ่าน เป็นอุปกรณ์สาธิตประกอบเนื้อหา
เนื้อหากล่าวถึงวิปัสสนาอย่างไร ประสบการณ์ทางวิปัสสนา จึงถูกเหนี่ยวนำให้เกิดกับคุณอย่างนั้น!”


ฉบับนี้ ทางนิตยสารมีหนังสือเล่มนี้มาแจก สำหรับ ๓๐ ท่านแรก
ที่ส่งอีเมลมาที่ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it ภายในวันอาทิตย์ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๘
โดยแจ้งข้อมูลดังนี้ (กรุณาคัดลอกไปนะคะ)

เรื่อง : ขอรับหนังสือ “วิปัสสนานุบาล”
ชื่อ-นามสกุล : ………………………………………
ที่อยู่ : ……………………………………… (อย่าลืมแจ้งรหัสไปรษณีย์ด้วยนะคะ)

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ