โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

ธุรกิจส่วนตัว...ต้องให้ชัวร์จะได้ไม่ช้ำ


Aims Astro



ถาม – ตอนนี้ทำงานประจำอยู่ค่ะ แต่คิดมาพักใหญ่แล้วว่าอีกสักสองสามปีอยากลาออกไปทำกิจการของตัวเอง ที่สนใจก็คือร้านดอกไม้ ร้านขนม ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้าผู้หญิง ทำนองนี้ค่ะ ทราบว่าดวงบอกได้ว่าแต่ละคนควรหรือไม่ควรทำธุรกิจอะไร แต่สงสัยเพิ่มอีกนิดว่าควรต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นกิจการด้วยไหมคะ


แน่นอนว่าเราสามารถรู้จากดวงชะตาอันเป็นแผนที่กรรมได้ว่าตนเองเหมาะกับธุรกิจอะไรนะคะ (แต่ก็มีบางคนที่เหมาะจะทำงานประจำมากกว่าด้วยค่ะ) เมื่อแน่ใจแล้วว่าจะเลือกทำธุรกิจใด ช่วงเวลาที่เริ่มต้นกิจการก็สำคัญมากค่ะ เรื่องนี้มักจะพิจารณาจากดาวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินในช่วงดังกล่าวแล้วตรวจดูล่วงหน้าเผื่อไว้อีกหลายปี จะได้การันตีว่าไปรอดจริงๆ ไม่ใช่รายได้ดีเฉพาะแค่ปีแรกปีเดียว ตลอดจนดวงเมืองในช่วงนั้นๆ ด้วยค่ะ แต่ถือเอาดวงชะตาของเจ้าของกิจการเป็นสำคัญ เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดหลายคนรวยสวนกระแสก็มี หรือบางทีเศรษฐกิจดีแต่บางคนกลับไม่ค่อยมีเงินใช้ค่ะ


คนที่อยากจะออกไปเริ่มต้นทำธุรกิจ รู้สึกมีไฟอย่างแรงหรือเบื่อหน่ายงานประจำจนทนไม่ไหวแล้ว ถ้าจังหวะเวลาได้ โบยบินไปแล้วไม่ลำบากเกินไป ก็ให้กำลังใจกันเต็มที่ ไม่มีขัดเลยค่ะ (ดังที่เคยเขียนเล่าไว้ใน "ธุรกิจส่วนตัว ชัวร์หรือช้ำ" (คลิก)) แต่ถ้าหากว่าเห็นแววว่าไปแล้วจะอึดอัดเหนื่อยยากลำบากกว่าเดิม ก็มักจะให้ชะลอการเริ่มต้นออกไปก่อนจะได้ไม่เสี่ยงเกินไป กลายเป็นว่าออกไปแล้วทุกข์เสียยิ่งกว่างานประจำอีกค่ะ


ดังเรื่องราวของคุณบาร์บารา (นามสมมติ) ลูกค้าหญิงซึ่งเคยตรวจดวงกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เธอมีความฝันอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้านดอกไม้ แล้วก็อยากจะเริ่มต้นในเร็ววันนี้ด้วยค่ะ ในวันที่นัดสนทนากันนั้น เมื่อทักทายกันเรียบร้อยจึงเข้าเรื่องทันทีโดยแจ้งลูกค้าว่า “ช่วง ๓ ปีจากนี้ไปให้ระวังเรื่องเงินนะคะ ไม่ควรก่อหนี้ใหม่ๆ อย่ารีบร้อนลาออกจากงานถ้ายังไม่ได้งานใหม่ด้วยค่ะ” ลูกค้าบอกว่าอันที่จริงวันนี้ที่นัดตรวจดวงเพราะอยากจะลาออกจากงานไปเริ่มทำธุรกิจเสียที แต่เมื่อบอกว่าต้องรออีกตั้งสามปีถึงจะวางใจเรื่องเงินได้ ก็ทำให้เธอรู้สึกท้อว่ามันนานจัง ได้ฟังแล้วเห็นใจลูกค้าค่ะ ทราบดีว่างานประจำบางอย่างนั้นชวนให้เบื่อจนอยากจะลาออกมาทำอะไรของตัวเองสักที แต่ปัญหาคือถ้าจังหวะเวลามันไม่ค่อยดี ไปแล้วลำบาก ถ้าสายป่านไม่ยาว เงินเก็บไม่เยอะพอ นอกจากเงินลงทุนที่จมลงไปแล้วก็อาจจะได้หนี้สินเพิ่ม ยังมีเรื่องความเศร้าเสียใจที่ไม่ประสบความสำเร็จอีกค่ะ


นอกเหนือจากแรงเงินที่ต้องเสี่ยงแล้ว แรงกายที่ต้องพลีก็ไม่น้อยนะคะ เรื่องความลำบากกายนี้มีลูกค้าบางท่านบอกเหมือนๆ กันเลยว่าตอนทำงานประจำว่าเหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังพอลากิจลาป่วยได้บ้าง แต่กิจการส่วนตัวถ้าไม่ทำก็คือไม่มีรายได้เข้ามา ยิ่งถ้ามีค่าเช่าหน้าร้าน มีลูกจ้าง มีค่าใช้จ่ายต่างๆ เกิดขึ้นทุกวันด้วยแล้ว ยิ่งหยุดไม่ได้ เพราะถ้าขาดรายได้ หมุนเงินไม่ทัน พานเครียดไปกันใหญ่ค่ะ เขียนมาถึงตรงนี้ก็คิดถึงบทสนทนาอันคมคายจากละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่ง ตัวละครผู้เป็นลูกชายซึ่งเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวพูดกับแม่ของเขาว่า “สมัยก่อนผมเป็นลูกน้องเขา กินอยู่ทุกอย่างก็เป็นของเถ้าแก่ แต่ตอนนี้ผมเป็นเถ้าแก่เองแล้ว แม้แต่กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำก็เงินผม” (เขียนเล่าจากความทรงจำ ถ้อยคำอาจจะไม่ตรงทั้งหมดแต่ใจความประมาณนี้ เนื่องจากละครเก่าร่วมยี่สิบปีได้ สมัยเด็กเคยเดินผ่านโทรทัศน์ได้ยินตรงช่วงบทสนทนานี้พอดี ^__^)


ดังนั้นการเป็นเจ้าของกิจการ ต้องรับทั้งภาระ รับความสำเร็จและความล้มเหลว รับทั้งผลกำไรและขาดทุนจากธุรกิจนั้นๆ ด้วยตนเองค่ะ เมื่อเห็นตามดวงว่าท่าทางท่านใดจะไปแล้วไปดีก็ให้กำลังใจเต็มที่ แต่ถ้ามีแววจะลำบากในด้านรายได้ ก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ออกไปเสี่ยง หรืออาจจะมีทางเลือก เช่น ยอมเหนื่อยกว่าเดิมโดยทำงานประจำและทำธุรกิจควบคู่กันไป แต่ถ้าหากทำพร้อมกันไปไม่ได้ ก็ไปสมัครงานพาร์ทไทม์ในธุรกิจดังกล่าวดูก่อนจะได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรที่จะเกิดขึ้นได้บ้าง ถ้าไม่สามารถทำเป็นงานพาร์ทไทม์ได้ ก็อ่านหนังสือหาความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องไปก่อน เป็นการเตรียมความพร้อมไปพลางๆ


คุณบาร์บาราบอกว่าเดิมทีมีความตั้งใจว่าถ้าเปิดร้านแล้วจะนำของกินมาวางขายในร้านด้วย ฟังแล้วจึงเสนอว่าระหว่างนี้ก็น่าจะลองนำไปขายตลาดนัดที่ค่าเช่าไม่แพงนัก ในช่วงเลิกงานหรือวันหยุดก่อนดีไหมนะคะ จะได้รู้ว่าลูกค้าตอบรับในเรื่องรสชาติอย่างไร ซื้อแล้วมาซื้อซ้ำอีกไหม ส่วนเรื่องกิจการร้านดอกไม้นั้น แนะนำว่าระหว่างนี้เพื่อเป็นการฝึกซ้อมฝีมือ ถ้ามีโอกาสก็อาจจะไปช่วยงานที่เขาต้องการอาสาสมัครจัดดอกไม้ เช่น งานบุญ งานศพต่างๆ ในพื้นที่ที่คุณบาร์บาราอาศัยอยู่นั้น น่าจะยังมีเจ้าภาพหลายรายที่ใช้วิธีซื้อดอกไม้สดมาจัดกันเอง ไม่ได้ใช้บริการจากร้านรับจัดดอกไม้ นอกจากจะเป็นการฝึกปรือแบบได้บุญไปในตัวแล้ว ถ้าจะมองในแง่ธุรกิจก็คือการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักคนมากขึ้น มีโอกาสแสดงฝีมือให้คนอื่นเห็น ในอนาคตถ้าเปิดร้านขึ้นมา จะได้มีฐานลูกค้ามากกว่าเดิมด้วยค่ะ


นอกจากนี้ก็ควรติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจ เช่น เรื่องราคาน้ำมันซึ่งจะมีผลต่อค่าขนส่งนโยบายการจัดเก็บภาษี ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ เพราะมีผลต่อสภาพคล่องและการใช้จ่ายทั้งสิ้น ฯลฯ จะได้วิเคราะห์สถานการณ์ถูกว่าสมควรจะลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจแบบเต็มตัวหรือไม่ คุณบาร์บาราบอกว่าไม่ได้ดูข่าวเลยช่วงนี้ ฟังแล้วก็บอกลูกค้าไปว่าพอจะเข้าใจได้ว่าบางครั้งงานประจำที่ทำนั้นหนักและเหนื่อยมาก พอถึงบ้านก็แทบจะอยากจะหลับเป็นตาย ไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร ทว่าถ้าจะต้องตรึกตรองว่าควรจะลาออกจากงานประจำเพื่อไปเริ่มต้นธุรกิจหรือไม่ ก็ควรมีข้อมูลรอบด้าน จึงจำเป็นต้องเสียสละเวลาเพื่อการนี้ค่ะ เข้าใจดีว่าคุณบาร์บาราอยากทำอะไรเป็นของตัวเองสักที แต่ถ้าเลือกที่จะเริ่มต้นไปในเวลาที่ไม่เหมาะสมนัก เกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อน ขออนุญาตเป็นห่วงลูกค้าในฐานะที่เป็นผู้มีอุปการคุณนะคะ


แม้ว่าเรื่องบางอย่างเช่นการรอเวลาที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ อาจจะต้องอดทนรอคอยเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่ว่าสิ้นหวังหมดไฟ แต่ให้ถือว่าเวลาก่อนที่จะออกสนามจริงนั้น เป็นระยะที่เตรียมการเตรียมตัวสะสมฝีมือ สะสมฐานลูกค้า การรอคอยแม้อาจจะนานไปบ้าง บางครั้งจะเป็นผลดีและมั่นคงในระยะยาวมากว่าค่ะ


(^/\^)



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP