สารส่องใจ Enlightenment

การปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บุพการีผู้ล่วงลับ




วิสัชนาธรรม โดย หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร



ปุจฉา :เมื่อต้นเดือน...นี้ดิฉันได้สูญเสียพ่อบุญธรรมผู้มีพระคุณสูงสุดไป (อายุ ๙๐ ปี)
ซึ่งในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ดิฉันก็ได้บริจาคและทำบุญ
เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อท่านทุกครั้ง
ทั้งยังได้บอกกล่าวให้ท่านยกมืออนุโมทนาด้วยทุกครั้ง
บุญทานในส่วนนี้ไม่ทราบว่าท่านจะได้รับหรือเปล่าเจ้าคะ


หลังจากที่คุณพ่อท่านล่วงลับไปแล้ว ได้ตั้งใจว่าจะปฏิบัติบูชา
เพื่ออุทิศกุศลผลบุญอันพึงมีพึงได้ให้กับคุณพ่อของลูกอย่างเต็มส่วนตลอดชีวิต
ตั้งใจจะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ตลอดไป
และภาวนาพุทโธให้ต่อเนื่องเท่าที่จะสามารถทำได้
และหลังจากคลอดบุตรแล้วดิฉันจะเริ่มปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างจริงจังด้วยความตั้งใจมั่น
ขอบารมีท่านอาจารย์ได้โปรดแผ่เมตตาให้ความตั้งใจของดิฉันสมหวัง
ให้ดิฉันมีจิตใจที่มั่นคง มีวิริยะอุตสาหะในการปฏิบัติบูชาเบื้องหน้าสืบไปด้วยเจ้าค่ะ



วิสัชนา : ส่วนที่ทำบุญให้ท่านผู้เป็นพ่อตอนยังมีชีวิตอยู่นั้น
ท่านก็ได้อนุโมทนาเต็มภูมิแล้วและท่านก็ได้บุญเต็มภูมิอีกด้วย
ส่วนปฏิปทาและเจตนาของลูกๆ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันถูกแล้วในด้านกับบิดามารดา
เพราะพระบรมศาสดาทรงส่งเสริมว่า
๑. ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ทำกิจธุระของท่าน
๓. ดำรงวงศ์ตระกูล
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน


และในตอนนี้ก็ถูกแล้ว แต่ยังสามารถจะพยายามปฏิบัติศีลธรรมต่อไปอีกไม่ท้อถอย
ก็ส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ดำรงในสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ เป็นหลักของหัวใจแล้ว
ผู้ถือว่ามีบุญมีบาปก็ได้บุญอยู่ไม่มีกลางวันกลางคืน
ยิ่งสละทรัพย์เป็นทานแล้วก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
พร้อมทั้งผู้ที่ล่วงลับไปนั้น ไม่ใช่คนขี้บาปจนถึงจะไปตกนรกเลย
ถ้าหากว่าคนขนาดพวกเราไปตกนรกแล้ว
สวรรค์เล่าจะให้โจรให้มารไปอยู่หรือ เท่านี้ก็พอแล้ว


อนึ่ง ด้านศีล ๕ เป็นศีลของฆราวาสโดยตรงๆ อยู่แล้ว
ท่านผู้ใดไม่เสียดายอยากล่วงละเมิดศีล ๕ ไม่เสียดายอยากถือศาสดาอื่น
ไม่เสียดายอยากถือฤกษ์ดียามดี ไม่เสียดายอยากจะผูกเวรท่านผู้ใด
ไม่เสียดายอยากล่วงอบายมุข ไม่เสียดายอยากค้าขายเครื่องประหาร
ไม่เสียดายอยากค้าขายมนุษย์ ไม่เสียดายอยากค้าขายสัตว์เป็นและเนื้อสัตว์ที่ตัวฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
ไม่เสียดายอยากค้าขายน้ำเมา ไม่เสียดายอยากค้าขายยาพิษ เหล่านี้เป็นต้น
ก็รู้จักอยู่แล้วว่าท่านผู้นั้นถึงพระโสดาบันแล้ว


ขอให้เข้าใจชัดต่อไปว่า สิ่งทั้งปวงสิ่งใดเราเห็นโทษชัดแล้วไม่เสียดายอยากล่วงละเมิด
สิ่งเหล่านั้นก็ไม่เป็นของยากแก่จิตใจเลย
เมื่อถึงพระโสดาบันแล้ว พระสกาทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ก็เปิดประตูไปในตัว
เพราะเป็นหนทางเส้นเดียวกัน ประตูเดียวกัน


อนึ่ง ขอให้เข้าใจว่าผู้เลื่อมใสพระพุทธศาสนาเหนือสิ่งใดๆ ทั้งปวงในโลกแล้ว
แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นสร้างบารมีแก่กล้ามาแล้ว เป็นคนดีพอจะสนเข็มได้แล้ว
และเป็นผู้ปิดประตูนรก สัตว์เดรัจฉาน และเปรตทุกจำพวกได้แล้ว
มีธรรมเป็นเครื่องอบอุ่นอยู่ในใจก็ว่าได้
จิตใจย่อมเอนไป โอนไป โน้มไปในพระนิพพานอยู่ในตัว
เพราะเหตุใดเล่า เพราะเหตุว่าสรรพโลกทั้งปวงไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน
มีแต่สรรพทุกข์ทั้งปวงอันเห็นชัดด้วยตาปัญญา
แม้ตานอกๆ ก็เห็นแล้วเพราะเหตุว่าความแก่ เจ็บ ตาย ไม่มีอันใดปิดบัง
เห็นทั้งตานอกทั้งตาในอยู่แล้ว
เหตุนั้นจิตใจจึงเอนไปโอนไปหาพระนิพพานดังกล่าวแล้วนั้น


เห็นอนิจจังขณะจิตเดียวก็เห็นสรรพโลกรอบแล้ว
เพราะสรรพโลกเต็มไปด้วยอนิจจังความไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นก็เป็นทุกข์อยู่ในตัวด้วย
แล้วก็เห็นโลกลึกลงไปอีกด้วยว่า สิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์แล้ว
สิ่งนั้นก็ไม่อยู่ในอำนาจวาสนาของใครเลย
ก็เรียกว่าเห็นโลกชัดลงไปอีกเป็นตอนที่ ๓
เมื่อเห็นโลกชัดลงไปตอนที่ ๓ แบบลึกซึ้งแล้ว
ความเพลินและหลงในโลกทั้งปวงก็แตกกระเจิงตั้งอยู่ไม่ได้
ในดวงใจมีแต่พระสติพระปัญญารู้ตามเป็นจริงเท่านั้น
ความหลงๆ เหลงๆ จะขี่ช้างสูบบุหรี่มาจากประตูใดเล่า


ขอให้เข้าใจว่า โดยสังเขปพวกที่หลงโลกก็มีหลงอยู่ ๔ ประการ
๑. หลงของไม่เที่ยงว่าเป็นของเที่ยง คือหนังหุ้มอยู่โดยรอบที่สมมติว่าเป็นเราๆ นี้
๒. หลงของเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข คือหนังหุ้มอยู่โดยรอบนี้อีกล่ะ
๓. หลงของไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตนเอาจริงๆ จังๆ จนแกะไม่ได้คลายไม่ออก
๔. หลงหนังหุ้มอยู่โดยรอบอันเป็นของบูดราเปื่อยเน่าว่าเป็นของสวยงาม


ถ้าเราไม่หลงสิ่งเหล่านี้แล้ว ภพชาติของเราก็จบใน ณ ที่นี้เอง
จะภาวนาหรือไม่ภาวนามันก็จบอยู่ในตัวแล้ว
แม้จะภาวนา ๗ วัน ๗ คืนไม่กินอาหารก็ตาม
ถ้าหากว่าหลงของ ๔ ประการดังกล่าวมาแล้วนี้อยู่ ก็ยังข้ามภาพข้ามชาติไม่ได้
การข้ามภพชาติก็เอาสติปัญญาเท่านั้นข้าม
จะข้ามด้วยเครื่องบินหรือจรวดอะไรๆ ข้ามตั้งล้านๆ ปีก็ข้ามไม่ได้ หวังว่าคงเข้าใจดี


และขอให้เข้าใจอีกว่าความสำเร็จอยู่กับความพยายาม
แม้เขาพยายามไปทางโจรทางมารเช่นปล้นสะดมเป็นต้น
บางรายเขาทำสำเร็จอยู่แต่ก็ให้ผลเป็นทุกข์
ไม่เหมือนพยายามทางโลกุตรธรรม
ปรารภมามากแล้ว ก็คงสมควรแก่เวลา
ด้วยเดชพระพุทธศาสนา อันทรงพระคุณค่าไม่มีประมาณ
และก็ทรงมีอยู่ทุกกาลด้วย ไม่ขึ้นอยู่กับผู้รู้และไม่รู้
เมื่อเป็นดังนี้ พวกเราทั้งหลายจงพ้นจากทะเลหลง
คือกองทุกข์ทั้งปวงโดยไม่เหลือทุกเมื่อเทอญ


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

คัดจาก หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP