จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

แชร์แล้วได้อะไร


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it




136 destination


เมื่อสัปดาห์ก่อน มีญาติธรรมท่านหนึ่งแชร์ภาพมาให้ในไลน์กลุ่ม ซึ่งผมได้รับด้วย
โดยน่าจะเป็นภาพของเทพเจ้าของทางจีนสักองค์หนึ่ง และมีข้อความว่า
“แชร์ต่อเงินทองไหลมาเทมา
เหตุการณ์มหัศจรรย์ คุณจะมีโอกาสเห็นครั้งเดียวในชีวิต ดูดี ๆ
ปฏิทินเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ มีวันศุกร์ ๕ วัน วันเสาร์ ๕ วัน และวันอาทิตย์ ๕ วัน
ซึ่งจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในรอบ ๘๒๓ ปี ชาวจีนเรียกว่าวันเงินเต็มไถ้
ศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อว่า ผู้ใดได้อ่านเรื่องนี้แล้วส่งต่อภายใน ๔ วัน เงินทองจะไหลมาเต็มไถ้
ใครที่ทำเฉย ก็จะจนเหมือนเก่า ...”


ข้อความทำนองนี้ผมเคยได้รับมาก่อนแล้วนะครับ โดยข้อความคราวก่อนอ้างว่า
เหตุการณ์ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ จะมีครั้งเดียวใน ๘๒๓ ปี
คือมีวันอังคาร ๕ วัน วันพุธ ๕ วัน และวันพฤหัส ๕ วัน
แล้วก็แนะนำให้รีบแชร์ เพื่อเราจะได้มีโชคลาภโน่นนั่นนี่
บางท่านอ่านแล้ว บางทีก็หวังให้เงินทองไหลมาเทมา หรือหวังโชคลาภ
หรือกลัวว่าหากไม่แชร์ แล้วจะทำให้ตนเองจน หรือจะประสบปัญหาดังที่เขาขู่
ก็เลยรีบแชร์ให้คนอื่น
เราลองมาพิจารณากันนะครับว่า แชร์แล้วจะได้อะไร


ก่อนอื่น เราควรพิจารณากันก่อนว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นทุก ๘๒๓ ปีจริงหรือไม่
โดยในแต่ละปีจะมีเดือนที่มี ๓๑ อยู่ทั้งหมด ๗ เดือน ได้แก่
มกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม สิงหาคม ตุลาคม ธันวาคม
หากเราแบ่ง ๓๑ วันออกเป็นสัปดาห์ จะพบว่ามี ๔ สัปดาห์ (รวม ๒๘ วัน)
เมื่อลบ ๒๘ วันด้วย ๓๑ วัน จะเท่ากับว่ามีเศษเหลือเกินมา ๓ วัน
ดังนั้นแล้ว ในทุกเดือนที่มี ๓๑ วันย่อมจะมีวันที่มี ๕ วันอยู่ ๓ วันอย่างเลี่ยงไม่ได้
(ในทำนองเดียวกัน ในทุกเดือนที่มี ๓๐ วัน ก็ย่อมต้องมีวันที่ ๕ วันอยู่ ๒ วันครับ)


ทีนี้ ถามว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีความน่าจะเป็นเท่าไร?
เราสามารถใช้คณิตศาสตร์คำนวณได้ ดังนี้
ในแต่ละปีคือ ๑๒ เดือนนั้น จะมี ๗ เดือนที่มี ๓๑ วัน
ดังนั้นโอกาสที่เราจะพบเดือนที่มี ๕ วันอยู่ ๓ วันในหนึ่งปีเท่ากับ ๗/๑๒
ในหนึ่งสัปดาห์มี ๗ วัน ดังนั้น โอกาสที่วันแรกจะเริ่มต้นที่วันศุกร์เท่ากับ ๑/๗
โอกาสความน่าจะเป็นจึงเท่ากับ ๗/๑๒ x ๑/๗
และได้ผลลัพธ์คือ ๑/๑๒ (หรือ ๑ ใน ๑๒)
จึงเท่ากับว่าในทุกปีย่อมจะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อยู่แล้วเป็นธรรมดา

ฉะนั้น ข้อความที่บอกว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นครั้งเดียวในทุก ๘๒๓ ปีก็เป็นเท็จนะครับ


ยกตัวอย่างกรณีของเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ ที่มี วันศุกร์ ๕ วัน วันเสาร์ ๕ วัน
และวันอาทิตย์ ๕ วัน หากเราลองพิจารณาปฏิทินปี ๒๕๕๘ แล้ว (ค้นใน google ก็ได้)
เราก็จะพบว่าเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ ก็มีวันศุกร์ ๕ วัน วันเสาร์ ๕ วัน

และวันอาทิตย์ ๕ วันเช่นกัน


หรือในกรณีของเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ ที่มีวันอังคาร ๕ วัน วันพุธ ๕ วัน
และวันพฤหัส ๕ วัน หากเราลองพิจารณาปฏิทินปี ๒๕๕๘ แล้ว (ค้นใน google ก็ได้)
เราก็จะพบว่าเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ ก็มีวันอังคาร ๕ วัน วันพุธ ๕ วัน
และวันพฤหัส ๕ วันเช่นกัน
เช่นนี้แล้ว แม้เราจะไม่ชำนาญการคำนวณคณิตศาสตร์ความน่าจะเป็นก็ตาม

แต่หากเราขยันสักนิดโดยลองพิจารณาปฏิทินปีอื่น ๆ เปรียบเทียบดู
เราก็จะเห็นได้เองโดยไม่ยากว่า ข้อความนี้เป็นเท็จนะครับ


อนึ่ง แม้เราอาจจะไม่คำนวณคณิตศาสตร์ความน่าจะเป็น
และไม่ไปพิจารณาปฏิทินปีอื่น ๆ เปรียบเทียบก็ตาม
เราย่อมอาจพิจารณา โดยใช้โยนิโสมนสิการก็ได้ว่า เรื่องนี้จริงหรือไม่
โดยหากเรื่องนี้เป็นจริงแล้ว ถ้าบรรดาชาวจีนถือเรื่องนี้จริงดังอ้าง

และสามารถทำให้เงินทองไหลมาเทมาจริง ๆ แล้ว
ประเทศที่มีคนจนเยอะที่สุดในโลกคือประเทศจีน ก็ย่อมไม่มีคนจนหรอกครับ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในประเทศจีนก็มีคนจนจำนวนมากมาย


หากพิจารณาในแง่ของเหตุผลแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีเหตุผลเกี่ยวโยงอะไรด้วย
ยกตัวอย่างสมมุติว่าท่านผู้อ่านชอบนำของที่ร้อน ๆ เข้าแช่ตู้เย็นที่บ้าน
จนทำให้ตู้เย็นที่บ้านเสีย แล้วผมก็แนะนำว่าขอให้ท่านแชร์ภาพเทพเจ้าให้เพื่อน ๆ
โดยอ้างว่าหากใครแชร์ภาพแล้ว ตู้เย็นจะไม่เสีย แต่หากใครไม่แชร์ภาพ ตู้เย็นจะเสีย
ถามว่าท่านทั้งหลายจะเชื่อผมหรือเปล่า
แล้วการที่เราแชร์ภาพเทพเจ้าแล้ว จะทำให้ตู้เย็นจะกลับมาดีดังเดิมได้จริงหรือ
นอกจากนี้ ถึงแม้เราจะซื้อตู้เย็นใหม่ก็ตาม ตู้เย็นก็จะไม่เสียอีกหรือ
ในเมื่อเรายังทำพฤติกรรมเหมือนเดิม ๆ อยู่
ในกรณีที่ตู้เย็นเสีย แต่เราไปส่งแชร์ภาพเทพเจ้าให้เพื่อน ๆ มันไม่ช่วยได้ฉันใด
ในกรณีที่ชีวิตเรามีปัญหาใด ๆ การที่เราไปแชร์ภาพให้เพื่อน ๆ มันก็ไม่ช่วยฉันนั้นครับ
เพราะปัญหาชีวิตเราไม่ได้เกิดจากการที่เราไม่ได้แชร์ภาพแต่อย่างใด


แต่ปัญหาชีวิตเราเกิดจากเหตุและปัจจัย เปรียบเสมือนว่าเรามีถังอยู่ใบหนึ่ง
หากเราเติมน้ำร้อนลงถัง น้ำในถังก็ร้อน หากเราเติมน้ำเย็นลงถัง น้ำในถังก็เย็น ฉันใด
หากเติมสิ่งร้อนลงในชีวิต ชีวิตเราก็ร้อน หากเราเติมสิ่งเย็นลงในชีวิต ชีวิตก็เย็น
หากเราสร้างเหตุจนในชีวิต ชีวิตก็จน แต่หากเราสร้างเหตุรวยในชีวิต ชีวิตก็รวย ฉันนั้น


คนจำนวนมากในโลกใบนี้ไม่พิจารณาสิ่งที่ตนเองทำ โดยเอาแต่โทษสิ่งอื่นภายนอก
เช่น ที่เราจนเพราะสิ่งอื่นทำให้เราจน ที่คนอื่นรวยเพราะสิ่งอื่นทำให้เขารวย
ที่เราประสบสิ่งไม่พอใจเพราะสิ่งอื่น ที่คนอื่นประสบสิ่งที่พอใจเพราะสิ่งอื่น
เราโทษสิ่งภายนอกได้แทบทุกอย่าง แต่ไม่ค่อยจะโทษตนเอง
ทั้งที่ตนเองเป็นคนก่อเหตุและปัจจัยทั้งหมด
หลายคนจำนวนมากจึงไม่สามารถออกจากวังวนแห่งปัญหาชีวิตตนเองได้
เพราะไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ตนเอง ด้วยการหยุดสิ่งไม่ดีที่ตนเองทำ
และไม่ได้พยายามสร้างเหตุปัจจัยที่ดี แต่ตนเองทำทุกอย่างเหมือนเดิม ๆ
ในเมื่อเราเติมสิ่งร้อนลงในชีวิตเหมือนเดิม
แต่ไปฝากความหวังว่าสิ่งอื่น ๆ จะนำโชคลาภมาให้
ซึ่งมันเป็นคนละเรื่อง และไม่ได้เกี่ยวโยงกับเหตุปัจจัยที่เราสร้างไว้
กรณีย่อมไม่สามารถส่งผลให้ชีวิตเราเย็นได้เพราะสิ่งอื่นนั้น ๆ


เมื่อทราบดังนี้แล้วว่า ข้อความที่แชร์ดังกล่าวเป็นเท็จ และไม่สมเหตุสมผลอีกด้วย
ถามว่าการที่เราแชร์ข้อความดังกล่าว เราจะได้อะไร?
ตอบว่าการที่เราแชร์ข้อความดังกล่าว ด้วยหวังจะให้เงินทองไหลมาเทมา
หรือหวังโชคลาภ หรือกลัวว่าไม่แชร์แล้วจะจน หรือจะประสบปัญหาดังที่เขาขู่ก็ตาม
เราย่อมไม่ได้เงินทองหรือโชคลาภดังที่ข้อความกล่าวอ้างหรอกครับ
ในทางกลับกัน ในข้อแรกคือ เราโดนกิเลสครอบงำใจ
ไม่ว่าจะแชร์โดยโลภะ (อยากให้เงินทองไหลมา)
หรือแชร์โดยโทสะ (กลัวว่าจะจน) ก็ตาม
ข้อสองคือ เราเสียเวลาและโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาชีวิตเราที่เหตุและปัจจัย
แต่เรากลับไปฝากความหวังไว้กับสิ่งอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุและปัจจัยเลย
ข้อสามคือ เราฝึกฝนตนเองที่จะสั่งสมให้เชื่อหรือไหลตามสิ่งที่ไม่มีเหตุผล

และทำให้ตกเป็นเครื่องมือโดนคนอื่นหลอกลวงได้ง่าย ๆ
ข้อสี่คือ เราส่งข้อความเท็จหรือข้อความเหลวไหลให้คนอื่น ๆ
เราก็ย่อมจะโดนบุคคลอื่นมองเราในแง่ลบ หรือย่อมสูญเสียความน่าเชื่อถือได้
ข้อห้า ในเมื่อข้อความมีการกล่าวแช่งคนอื่นว่า ถ้าไม่ส่งต่อแล้ว จะทำให้จน
ย่อมอาจจะทำให้ผู้รับบางท่านไม่พอใจเรา เพราะเท่ากับว่าเราส่งข้อความแช่งให้เขา



ในทางกลับกัน ถ้าเราไม่แชร์ต่อ เราตรวจสอบให้ดี และพบว่าเป็นข้อความเท็จ
ผลเสียทั้งหลายที่กล่าวแล้วข้างต้นก็จะไม่เกิดขึ้นแก่เรานะครับ
ในขณะเดียวกัน ก็ย่อมจะเป็นการฝึกฝนตนเองในทางที่ใช้เหตุผล ไม่งมงาย
ทำให้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่น ไม่โดนคนอื่นหลอกลวงได้ง่าย ๆ

และเราไม่ได้ฝากปัญหาชีวิตของเราไว้กับสิ่งอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุและปัจจัย
ทำให้เรามีเวลาและโอกาสมาทุ่มเทแก้ไขปัญหาที่เหตุและปัจจัยโดยตรง


อนึ่ง ในเรื่องที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในทุก ๘๒๓ ปีนั้น
ในอันที่จริงแล้ว เรียนว่าเราหาดูได้ไม่ยากหรอกครับ
เราสามารถหาชมเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นครั้งเดียวในชีวิตได้ทุกวันทุกเวลาอย่างไม่ยาก
โดยหากเรามีนาฬิกาดิจิตอลที่มี วัน เดือน ปี ชั่วโมง นาที และวินาทีแล้ว

(หรือจะลองดูวันและเวลาจากในเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ได้)
เราลองหยิบขึ้นมาดู แล้วเราก็จะพบว่าทุกวินาทีที่ผ่านพ้นไปนั้น
เราจะไม่มีโอกาสได้เห็นวินาทีนั้นอีกแล้วในชีวิตนี้
ในทำนองเดียวกัน ทุกนาทีที่ผ่านไป ทุกวันที่ผ่านไป ทุกเดือนที่ผ่านไป ทุกปีที่ผ่านไป
เราก็ย่อมจะไม่มีโอกาสได้เห็นเวลานั้นอีกแล้ว
(เว้นแต่เราจะหลอกตัวเองด้วยการตั้งเวลาย้อนหลัง)
ดังนั้นแล้ว หากเรารู้ว่าทุกวินาทีที่ผ่านไปนี้ เรามีโอกาสใช้วินาทีนั้นได้เพียงครั้งเดียว

เราพึงใช้เวลาทุกวินาทีในชีวิตเราให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP