ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

การให้อาหารสัตว์แต่ละแบบมีอานิสงส์ต่างกันหรือไม่



ถาม - การให้อาหารสัตว์ตามธรรมชาติที่เราไม่ได้เลี้ยงหรือกักขังไว้
กับการให้อาหารกับสัตว์ที่เลี้ยงไว้หรือให้อาหารปลาตามวัด
อยากทราบว่าทานทั้งสองแบบนี้ต่างกันหรือไม่อย่างไรคะ



คืออย่างนี้ คำถามก็คือว่า ถ้าให้อาหารสัตว์เป็นทานนะครับ
ที่อยู่ตามธรรมชาติ อย่างประเภทที่ว่านกหรือว่าสุนัข หรือว่าแมวที่อยู่ตามทางนะ
ซึ่งเราไม่ได้เลี้ยงหรือกักขังไว้
กับอีกอันหนึ่งคือให้ทานกับนกหรือสุนัขที่เราเลี้ยงเอง
หรือว่าปลาในวัด ซึ่งปลาก็จะเหมือนกับอยู่ในเขตอภัยทาน
มักจะมีป้ายให้เราเห็นนะ ในสระของวัดว่าเป็นเขตอภัยทาน
คือจะระงับความโลภอยากได้ชีวิตสัตว์มากินของพวกนักตกปลาอะไรทั้งหลาย
มักจะมีคนแอบตกปลาในวัดกันเยอะ ก็เลยมีป้ายอภัยทาน
เพื่อให้รู้สึกว่านี่เป็นเขตของวัด นี่เป็นเขตที่น่าจะมารักษาศีลกัน


การรักษาศีล ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสนะ ก็คือมหาทาน
ก็คือละเว้นจากชีวิตสัตว์ จากการเอาชีวิตกัน

ถ้าหากว่าเรามองนะ มองตามเขตที่อาศัย ว่าเขตนั้นเป็นเขตอภัยทาน
เป็นเขตที่เหมือนกับจะมาร่วมเกื้อกูลชีวิตกัน
ก็ดูเหมือนกับว่าเป็นเขตที่สว่างกว่าปกติ เป็นเขตที่มีความร่มเย็น มีความเป็นมิตรกัน
ระหว่างสัตว์โลกที่เกิดมาแล้วก็ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ร่วมกัน เป็นทุกข์ร่วมกัน
คนเลยมีความรู้สึกว่าถ้าทำอะไรในวัด น่าจะเป็นบุญมากกว่านะครับ



แต่จริงๆ แล้ว ถ้าหากว่าพิจารณานะว่า สัตว์มันก็มีบุญของมันอยู่แค่นั้นแหละ
มีบุญได้แค่เป็นสัตว์ ไม่ต้องไปอยู่ในนรก
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่รักษาศีล หรือว่ารักษาพระวินัยแบบพระ
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตวัด แต่ก็ไม่ได้รับรู้ว่าตัวเองอยู่ในเขตวัด
ที่จะรับรู้ว่าตัวเองอยู่ในเขตวัดน่ะ จิตต้องมีสำนึกใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง
อย่างพวกหมาพวกแมวอะไรแบบนี้ หลายๆ ตัวมันรู้ว่า
เออ นี่เขตวัดนะ นี่มีพระ มีพระดีอยู่
แล้วก็กระแสของคนมีบุญก็จะซึมซาบเข้าไปถึงจิตใจของสัตว์พวกหมาพวกแมวได้
เพราะฉะนั้นพวกนี้ก็จะเป็นสัตว์ที่มีบุญมากกว่าพวกปลาในน้ำ
ซึ่งอาจจะไม่รับรู้อะไรเลยว่าตัวเองอยู่ในเขตอภัยทาน มีคนมาช่วยปักเขตอภัยทานให้



ฉะนั้น ถ้าพูดถึง เราไม่พูดว่าให้ทานกับสัตว์ที่เราเลี้ยงเอง
หรือว่าอยู่ตามทาง หรือว่าอยู่ในวัดแล้วจะได้บุญมากกว่ากัน
เราต้องเจาะจงเป็นตัวๆ ไปเลยว่า สัตว์ตัวไหนมีแนวโน้มที่จะได้ไปเกิดเป็นคน
มีแนวโน้มที่จะมีจิตสำนึกแบบมนุษย์ ใกล้เคียงกับมนุษย์
คือมีความรู้จักบุญ รู้จักกุศล รู้จักความเย็นของกุศล
รู้จักความเมตตาที่แผ่มาจากมนุษย์
สัตว์พวกนั้นมีบุญเป็นพิเศษ ทำแล้วจะได้บุญกับตัวเรา
ย้อนกลับมาเป็นบุญกับตัวเราได้มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น

นี่เราตัดสินกันตรงนี้



ผมจะยกตัวอย่าง ถ้าผมจำไม่ผิดเป็นสมเด็จโตนะ ถ้าจำผิดขออภัยนะ
มีเรื่องเล่าว่าท่านเดินไปบิณฑบาต
มักจะมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนขวางทางบิณฑบาตอยู่เรื่อยนะ
ก็มีลูกศิษย์เห็น คือพระรูปอื่นๆ ก็เดินข้ามไป ไม่ได้รู้สึกอะไร
แต่สมเด็จโตจะเดินอ้อม
พอมีคนไปถามว่า ทำไมท่านเดินอ้อม ไม่เดินข้าม
ท่านก็บอกว่า ไม่รู้ว่าเป็นหมาพระโพธิสัตว์รึเปล่า
คือหมายความว่าเป็นสัตว์ที่มีบุญ
คือพระโพธิสัตว์ ก็เวียนว่ายตายเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นเดรัจฉานบ้าง
หรือบางทีถ้าพลาดมากๆ ไปอยู่ในนรกก็ยังเคยนะ
อันนี้พระพุทธเจ้าก็เคยเล่าให้ฟังว่า
ท่านไปมาหมดระหว่างที่บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์
เพื่อที่จะไปให้ถึงฝั่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
ก่อนหน้านั้น ท่านก็ไปมาหมดแหละ ท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิด
ไปในภพน้อยใหญ่ ภพต่ำภพสูงนะครับ
แต่ที่จะบอกได้ว่าเป็นสัตว์มีบุญหรือไม่มีบุญ
ก็ดูที่เป้าหมายปลายทาง ความตั้งใจ
หรือว่าวิธีการบำเพ็ญกุศล บำเพ็ญตบะ บำเพ็ญบารมีของแต่ละตนนะครับ
อันนี้ก็เป็นความเหลื่อมล้ำตามกรรม สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สัตว์ตัวไหนที่บำเพ็ญบุญไว้มาก มีความใกล้เคียง
มีแนวโน้มที่จะมีจิตสำนึกแบบมนุษย์ ก็ถือว่ามีบุญมาก

อย่างชาติที่พระพุทธเจ้าท่านเคยเป็นวานร
ท่านก็เคยเสียสละชีวิต อุทิศตัวเองให้กับสมุนหรือพรรคพวกได้รอดชีวิต
ในขณะที่ท่านก็สละชีวิตทิ้งอะไรแบบนี้นะครับ




แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP