จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

พูดจริง พูดเท็จ พูดถูก พูดผิด


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



134 destination



เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ผมได้อ่านข้อความในเฟสบุ๊คหัวข้อหนึ่ง
โดยญาติธรรมได้สนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเรื่องการปฏิรูปพลังงาน
ซึ่งก็เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ และก็มีหลายท่านเรียกร้องอยู่ในปัจจุบัน
แต่ในบทความนี้เราจะไม่คุยกันเรื่องปฏิรูปพลังงานนะครับ
เพราะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องธรรมะ


ในหลาย ๆ ความเห็นที่คุยกันในหัวข้อนั้น ๆ มีอยู่ความเห็นหนึ่งที่ผมสนใจ
โดยญาติธรรมท่านหนึ่งให้ความเห็นในเรื่องการปฏิรูปพลังงาน
แล้วก็กล่าวอ้างว่าตนเองศึกษาปฏิบัติธรรมตามแนวของครูบาอาจารย์ท่านนี้

ศรัทธาในคำสอนของอาจารย์ท่านนั้น หมั่นไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งโน้น
และตั้งใจถือศีลห้าอย่างมั่นคงมาโดยตลอด
จากนั้น เขาก็สรุปว่าความเห็นของตนเองจึงเชื่อถือได้
(หรือคนอื่นสมควรเชื่อถือในความเห็นของเขา)


ผมอ่านดูแล้วก็เห็นว่าเป็นความเข้าใจที่สับสนนะครับ
กล่าวคือ การที่เราปฏิบัติธรรม หรือถือศีลห้าเข้มแข็งนั้น
เราย่อมจะกล่าวได้ว่า เราพูดจริง หรือไม่ได้พูดเท็จ
แต่การที่เราพูดจริง หรือไม่ได้พูดเท็จนั้น ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องพูดถูกต้องด้วย
เพราะว่าการพูดจริง และพูดถูกต้องนั้น มันเป็นคนละเรื่องกันครับ


ยกตัวอย่างว่า สมมุติว่าคนถือศีลแต่สายตาสั้นคนหนึ่ง
เดินออกมานอกศาลาในเวลากลางคืน และเห็นเชือกเส้นหนึ่งวางอยู่บนพื้น
ด้วยความที่ขณะนั้นมืด และสายตาเขาไม่ดี เขาเข้าใจว่าเชือกนั้นเป็นงู
เขาจึงรีบเข้ามาบอกเพื่อนในศาลาว่า เขาเห็นงูอยู่ที่พื้นนอกศาลา

ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น มีอีกคนหนึ่งที่ไม่ถือศีล แต่สายตาดี
เดินออกมานอกศาลาเช่นกัน แต่เขาใช้ไฟฉายส่อง และเห็นเชือกเส้นนั้นอยู่บนพื้น
เขาก็บอกคนถือศีลนั้นและคนอื่น ๆ ในศาลาว่า สิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่งู แต่เป็นเชือก
ดังนี้แล้ว ถามว่าคนถือศีลพูดเท็จหรือไม่
ตอบได้ว่า เขาไม่ได้พูดเท็จ เพราะเขาไม่มีเจตนาจะพูดเท็จ
แต่ถามว่าคนถือศีลพูดถูกต้องหรือไม่ ก็ตอบว่าพูดไม่ถูกต้อง
เพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่บนพื้นนอกศาลานั้น จริง ๆ แล้วคือเชือก ไม่ใช่งู


การถือศีลนั้นเป็นไปเพื่อดูแลกาย วาจา และใจเราไม่ให้ทำผิดศีล รวมถึงไม่พูดเท็จ
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้เรามีความรอบรู้ในทุกเรื่อง และพูดอะไรก็ถูกต้องหมดทุกเรื่อง
อย่างเช่น จะไปพูดเรื่องฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา การเงิน บัญชี กฎหมาย พลังงาน ฯลฯ
หรือคุยเรื่องอื่น ๆ ก็ตาม ก็สามารถพูดได้ถูกต้องทั้งหมด มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ

แต่การที่จะพิจารณาว่าเรื่องที่ได้พูดมานั้น ๆ ถูกต้องหรือน่าเชื่อถือหรือไม่
ก็ต้องพิจารณาเนื้อหาของเรื่องที่ได้พูดนั้นว่าเนื้อหาถูกต้องและน่าเชื่อถือหรือไม่
อย่างสมมุติว่าเราให้พระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งถือศีล ๒๒๗ ข้อไปถกเรื่องฟิสิกส์นิวเคลียร์

กับศาสตราจารย์ทางด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ท่านหนึ่งที่ถือศีลเพียงแค่ ๒ – ๓ ข้อ
กรณีก็ย่อมจะไม่ได้ถือว่าพระภิกษุจะต้องพูดเรื่องฟิสิกส์นิวเคลียร์ได้ถูกต้องกว่า
ศาสตราจารย์ทางด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ท่านนั้นหรอกนะครับ

แต่ว่าเราพึงต้องพิจารณาที่เนื้อหาต่างหาก กรณีไม่ได้พิจารณาว่าท่านไหนถือศีลมากกว่า
หรือว่าท่านไหนศึกษาและปฏิบัติธรรมมานานกว่า หรือมากกว่า


ในเรื่องของการศึกษาปฏิบัติธรรมตามแนวของครูบาอาจารย์ท่านใด
ศรัทธาในคำสอนของอาจารย์ท่านใด หรือหมั่นไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งใดก็ตาม
ก็เป็นไปในทำนองเดียวกันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าเราจะต้องพูดถูกต้องเพราะเหตุนั้น
โดยเราก็พึงต้องกลับไปพิจารณาที่เนื้อหาที่พูดเช่นกัน
กรณีไม่ได้แปลว่า หากศึกษาปฏิบัติธรรมตามแนวของครูบาอาจารย์ท่านนี้แล้ว
เราจะสามารถพูดได้ถูกต้องทั้งหมดในทุกเรื่อง
หรือหากเราศรัทธาในคำสอนของอาจารย์ท่านนี้แล้ว
เราจะสามารถพูดได้ถูกต้องทั้งหมดในทุกเรื่อง
หรือหากเราหมั่นไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้แล้ว
เราจะสามารถพูดได้ถูกต้องทั้งหมดในทุกเรื่อง
เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นเหตุปัจจัยของการพูดถูกต้อง
แต่เหตุปัจจัยก็คือเรามีข้อมูลและความรู้ในสิ่งที่เราพูดในเรื่องนั้น ๆ ถูกต้องหรือไม่


ในท้ายนี้ อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ
ในการศึกษาปฏิบัติธรรม รวมถึงการถือศีลก็ตาม
ควรเป็นไปเพื่อการลดละความเห็นผิดในเรื่องอัตตาตัวตน
(บางท่านอาจจะบอกว่าลดอัตตาตัวตน

แต่จริง ๆ แล้ว ในเมื่ออัตตาตัวตน ไม่มีแล้ว สิ่งที่เราลดก็คือตัวมิจฉาทิฐิครับ)
ดังนั้นแล้ว เมื่อศึกษาปฏิบัติธรรม รวมถึงถือศีลไปเรื่อย ๆ แล้ว

ความยึดถือในเรื่องอัตตาตัวตนก็ควรจะลดลง
กรณีไม่ใช่ว่ายิ่งศึกษาปฏิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ แล้ว
ความยึดถือในเรื่องอัตตาตัวตนกลับยิ่งมากขึ้น
ซึ่งในกรณีที่เป็นเช่นนั้นแล้ว เราก็ควรต้องใช้โยนิโสมนสิการ
และพิจารณาปรับเปลี่ยนข้อประพฤติที่ทำติดขัดหรือทำให้เป็นเช่นนั้น

หากโยนิโสมนสิการแล้ว หาไม่พบ หรือไม่ดีขึ้น
ก็ควรต้องขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์หรือกัลยาณมิตรครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP