กระปุกออมสิน Money Literacy

สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณต้องหาที่ปรึกษาทางการเงิน


Mr.Messenger
สนใจติดตามข่าวสารการลงทุนได้ที่ http://twitter.com/MrMessenger



             หากพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆ คนส่วนใหญ่ก็จะมองว่า มันเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบตัวเอง บางคนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวถึงขนาดให้คนในครอบครัวรู้ไม่ได้ ส่วนตัวแล้ว ผมก็มองว่าเป็นเรื่องปกติครับ หากเราสามารถจัดการการเงินของเราได้ และมีการวางแผนและเตรียมรับมือที่ดีพอกับความไม่แน่นอนในอนาคต

             ลองกลับมาพิจารณาคำสอนของพระพุทธเจ้ากันซักหน่อย เพื่อมาปรับใช้ในชีวิตประวันนะครับ

             พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนว่าปัจจัยแห่งความดีงาม ความเจริญก้าวหน้าทั้งหลายมีอยู่ ๒ ประการคือ
ประการที่ ๑. ความมีกัลยาณมิตร คือ มีครูดี มีเพื่อนดี
ประการที่ ๒. ความมีโยนิโสมนสิการ คือ ความแยบคาย ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณา


             ย้อนกลับมาเรื่องการเงินนะครับ ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยทำโพลสำรวจความรู้ด้านการเงินของประชากรไทย ผลสำรวจคร่าวๆออกมาน่าตกใจ เพราะประชากรไทยมีความรู้ด้านการเงิน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับคนในทวีปเอเชีย คำถามง่ายๆอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยทบต้น ต่างจากอัตราดอกเบี้ยปกติอย่างไร ผลสำรวจเกินกว่าครึ่งไม่สามารถตอบคำถามได้ ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจครับที่ฟากรัฐบาลจะพยายามผลักดันและส่งเสริมการออมของคนในประเทศผ่านการออมเพื่อการเกษียณแบบภาคบังคับ และภาคสมัครใจในรูปแบบต่างๆกัน

             แน่นอนว่า เรื่องเงินทอง การบริหารจัดการมันต้องเริ่มจากตัวเราเอง แต่ใช่ว่าทุกคนจะพร้อมหรือทำมันได้ดี เพราะฉะนั้นเราต้องมีความแยบคาย และพิจารณาอย่างรอบคอบจริงๆว่า เรายังเดินอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมุ่งหน้าไปสู่คำว่า อิสรภาพทางการเงินหรือเปล่า

             ขอยกตัวอย่าง ๔ สัญญาณ ที่บ่งบอกว่า คุณต้องรีบหากัลยาณมิตรด้านการเงิน ก่อนจะสายเกินไปนะครับ

๑)    จัดการ เรื่องเงิน โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน :
สิ่งนี้เป็นปัญหาในระยะยาว เพราะเมื่อไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน การบริหารจัดการเงินของเราก็ทำไปแบบไม่มีแรงจูงใจพัฒนา แนะนำว่าปรึกษากับนักการเงิน เพื่อทำให้เป้าหมายในใจลึกๆของเรา ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง จะทำให้คุณวางระบบความคิดและการจัดการได้ดีขึ้น


๒)    อ่านหนังสือมาก็เยอะ ยังไม่รู้จะเอาเงินไปลงทุนอะไรดี :
ส่วนใหญ่คนที่เจอปัญหานี้ เพราะขาดแรงผลักดันให้ก้าวออกจากโซนแห่งความปลอดภัย (
Safe Zone) เพราะเคยชินกับการฝากเงินไว้ในธนาคาร และไม่กล้านำเงินไปลงทุนที่อื่น จะด้วยว่า กลัวสูญเสียเงินต้น หรือหาช่องทางยังไม่ได้ก็ตาม แต่การหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้คุณกล้าออกมาลงทุนได้ตามที่หวัง

๓)    ผลตอบแทนไม่น่าพอใจ ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น :
มาจาก ๒ สาเหตุหลักคือ ลงทุนไม่เป็น หรือไม่ก็ ลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงเกินความเข้าใจของตนเอง ปัญหานี้ ที่ปรึกษาการเงินจะสามารถอธิบายให้เราเข้าใจถึงรูปแบบข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์การเงินแต่ละประเภท พร้อมกับจัดสรรเงินลงทุนของท่านให้ตรงและสอดคล้องกับความเสี่ยงที่คุณรับได้


๔)    ไม่มีเวลาดูแล แค่ทำงานประจำก็แย่แล้ว :
เกินกว่าร้อยละ ๕๐ ของมนุษย์เงินเดือน เจอปัญหานี้ครับ เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเรา หมดไปกับงานประจำ หลังจากนั้น เราก็อยากพักผ่อน ไม่อยากทำอะไรที่มันหนักสมองให้ต้องเครียดเพิ่ม แต่ขอให้คุณรู้ว่า เรื่องการวางแผนการเงินนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะระบบการออมภาคปกตินั้น ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในยามฉุกเฉินระยะสั้น และไม่เพียงพอหากต้องเกษียณอายุในระยะยาว ดังนั้นแค่ข้ออ้างไม่มีเวลา ก็ใช่ว่าคุณจะละเลยไป แนะนำให้หาเพื่อนคู่คิดไว้ใกล้ตัวจะดีกว่า


             ใครที่มีสัญญาณทั้ง ๔ ข้อข้างต้น แนะนำให้หาที่ปรึกษาการเงินได้แล้วครับ ก่อนที่จะสายไป เพราะอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ ปัจจัยแห่งความดีงาม ความเจริญก้าวหน้า หนึ่งในสองข้อก็คือ เพื่อนคู่คิดดีๆนี้เอง

             บทความตอนหน้า ผมจะให้แนวทางในการหาเพื่อนคู่คิดที่เหมาะกับเรานะครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP