สารส่องใจ Enlightenment

การฝึกศีลเบื้องต้น



พระธรรมเทศนา โดย พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
เทศน์อบรม ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา




บัณฑิตพึงจะหลุดพ้นจากทุกข์ในสังขารนี้ไปได้
ถ้าไม่หัดปล่อยหัดวางความยึดความถือต่างๆ แล้ว ก็ยากจะพ้นทุกข์ไปได้
เพราะไปยึดไปถือในสิ่งไม่เที่ยงมาเป็นอารมณ์ เป็นเครื่องยุ่ง
เมื่อของเหล่านี้มันวิบัติแปรปรวนไป ก็ได้ชื่อว่ามันผิดหวัง ก็เป็นทุกข์เดือดร้อน
อย่างเช่น มายึดถือร่างกายนี้ว่าเป็นตัวเป็นตน เป็นของของตน มาหวงมันไว้
เมื่อเวลามันวิบัติแปรปรวนไปก็เป็นทุกข์เป็นร้อน
ความมุ่งหมายก็อยากจะให้ร่างกายอันนี้อยู่ยั่งยืนนานตลอดไป
ไม่ต้องการให้มันแตกดับทำลายไปง่ายๆ
แต่ว่ากฎธรรมดามันเป็นอย่างนั้น
ไม่มีทางที่บุคคลจะป้องกันรูปร่างกายอันนี้ ไม่ให้แตกดับ ไม่มีวิถีทางใดๆ จะทำได้



แม้แต่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐในโลก พระองค์ก็ยังดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน
หมายความว่าพระองค์ทิ้งขันธ์ทั้ง ๕ ไว้ในโลกนี้ ไม่ห่วงใยอะไรเลย
ดวงจิตของพระองค์ก็เข้าสู่พระนิพพาน เรียกว่า เข้าถึงอมตธรรม
คือ ธรรมอันไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง ให้ไปเทียวเกิดเทียวตายต่อไปอีก

เช่นนี้จึงได้ชื่อว่าได้บรรลุถึงซึ่งความสุข อันเป็นแก่นสารโดยแท้


จุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนา ที่พระศาสดาทรงแนะนำสั่งสอนพุทธบริษัท
ให้ประพฤติปฏิบัติ กาย วาจา ใจ ของตน ให้หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย
มุ่งหวังให้ถึงอมตธรรม อมตธาตุ อันไม่มีปัจจัยปรุงแต่งให้เป็นอย่างอื่น
นี้แหละมันถึงจะเป็นยอดแห่งความสุขทั้งหลาย
ดังนั้น เมื่อพุทธบริษัทได้ฟังเหตุผลของชีวิต ดังที่บรรยายให้ฟังมานี้แล้ว
จึงขอให้พากันน้อมนำไปพิจารณาดู ให้รู้ให้เห็นเหตุปัจจัยแห่งชีวิต
ดังกล่าวให้ฟังมานี้ ตามความเป็นจริง
และสามารถที่จะบรรเทาทุกข์ทางจิตใจได้
เมื่อเราได้ฝึกจิตใจให้เป็นไปตามแนวทางนี้



เบื้องต้นเรียกว่า ฝึกกายฝึกวาจาให้เรียบร้อย
ได้แก่ เว้นจากการเบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่นให้เรียบร้อยเสียก่อน
ไม่ใช้กายไปทุบไปฆ่าผู้อื่น
หรือไม่ใช้กายอันนี้ไปหยิบไปฉวยเอาสิ่งของของผู้อื่นมาเป็นของตน โดยที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตให้
ไม่ใช้กายอันนี้ไปประพฤติผิดมิจฉาจาร ทำชู้กับสามีหรือภรรยาของผู้อื่น
ไม่ใช้กายนี้ไปดื่มเหล้าเมาสุรา กัญชา ยาฝิ่น เฮโรอีน อันเป็นของเสพติดให้โทษต่างๆ



ไม่ใช้วาจาอันนี้ไปพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อกับใครต่อใคร
หัดพูดแต่คำจริง คำจริงนั้นต้องมีประโยชน์ด้วยจึงค่อยพูด
ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าพูดแล้วมันจะให้โทษทั้งแก่ตนและผู้อื่น อย่างนี้ก็ไม่พูด
หัดพูดแต่คำวาจาที่ประสานมิตรไมตรีจิตต่อกันและกัน
ไม่ไปยุให้รำ ตำให้รั่ว ไม่ไปยุยงให้ใครทะเลาะวิวาท แตกร้าวสามัคคีกัน
พูดแต่วาจานิ่มนวลอ่อนหวาน ต่อบุคคลทั่วไป
เว้นจากการพูดคำหยาบโลนต่างๆ พูดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตนและผู้อื่น
เรื่องใดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตนและผู้อื่นแล้วก็ไม่พูด
เพราะเสียเวลาไปเปล่าๆ นิ่งเสียดีกว่า



นี่แหละข้อที่ว่าฝึกกายวาจาให้เรียบร้อย
ก็ให้ตั้งอยู่ในกรอบแห่งศีลแห่งธรรมด้วยดีสม่ำเสมอไป



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


คัดจาก พระธรรมเทศนา ใน วรลาโภวาท
ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพพระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๒



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP