ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
ปฐมอัปปมาทสูตร ว่าด้วยความไม่ประมาท สูตรที่ ๑
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๓๗๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ... ณ กรุงสาวัตถี.
พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมอย่างหนึ่งที่ยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง คือ
ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ และประโยชน์ในภายหน้า มีอยู่หรือ พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า มหาบพิตร ธรรมอย่างหนึ่งที่ยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง
คือ ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ และประโยชน์ในภายหน้ามีอยู่.
พระเจ้าปเสนทิโกศลทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมอย่างหนึ่งที่ยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง
คือ ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ และประโยชน์ในภายหน้า คืออะไร?
[๓๗๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มหาบพิตร ธรรมอย่างหนึ่งที่ยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง
คือ ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ และประโยชน์ในภายหน้า คือ ความไม่ประมาท
มหาบพิตร รอยเท้าของสัตว์ทั้งหลายชนิดใดชนิดหนึ่งที่สัญจรไปบนแผ่นดิน
รอยเท้าเหล่านั้นทั้งหมดย่อมรวมลงในรอยเท้าช้าง
บัณฑิตกล่าวกันว่า รอยเท้าช้างเป็นเลิศกว่ารอยเท้าเหล่านั้น เพราะเป็นของใหญ่ ฉันใด
มหาบพิตร ธรรมอย่างหนึ่งที่ยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง คือ
ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ และประโยชน์ในภายหน้า คือความไม่ประมาท ก็ฉันนั้น.
[๓๘๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์จบลงแล้ว
จึงได้ตรัสคาถาต่อไปอีกว่า
บุคคลเมื่อปรารถนาซึ่งอายุ ความไม่มีโรค วรรณะ สวรรค์ ความเกิดในตระกูลสูง
และความยินดีอันโอฬารต่อ ๆ ไป พึงบำเพ็ญความไม่ประมาท.
บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญความไม่ประมาทในการทำบุญทั้งหลาย
บัณฑิตผู้ไม่ประมาทย่อมยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง คือ ประโยชน์ปัจจุบันนี้
และประโยชน์ในภายหน้า.
เพราะยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์นั้น ผู้มีปัญญาท่านจึงเรียกว่า บัณฑิต.
ปฐมอัปปมาทสูตร จบ
(ปฐมอัปปมาทสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๒๔)
< Prev | Next > |
---|